xs
xsm
sm
md
lg

TTAแตกไลน์ธุรกิจอาหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – บมจ.โทริเซนไทยลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ขยายพอร์ตการลงทุนสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีการเติบโตสูงในจีนก้าวแรกในการสร้างความเติบโตและความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนให้กับ TTA นักวิเคราะห์รระบุเป็นการลงทุนที่โชว์ศักยภาพของผู้บริหารชุดใหม่ เตรียมปรับประมาณการ และราคาเหมาะสมใหม่จากปัจจุบัน 31 บาท
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ใช้เงินลงทุนจำนวน 954,293,588 บาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญออกใหม่สำหรับขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะราย (PP) ของบริษัท ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ จำนวน 60,601,035 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.61 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นราคาที่มีส่วนลดประมาณ 8% จากราคาถัวเฉลี่ย ณ 30 ก.ย.57 โดยบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจส่งออกอาหารกระป๋องและเครื่องดื่มผลไม้ในประเทศจีน โดยครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 75% ในประเทศจีน
ทั้งนี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เพื่ออนุมัติการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยหากมีการอนุมัติแล้ว TTA จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ถือหุ้น 9% และได้สิทธิ์แต่งตั้งกรรมการ 1 ตำแหน่ง ในบริษัทดังกล่าวTTA ให้บริษัท โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ทำการจองซื้อหุ้นสามัญออกใหม่ของ SINO GRANDNESS เพื่อขายให้กับนักลงทุนเฉพาะราย (PP) จำนวน 60,601,035 หุ้น ในราคา 0.61 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่มีส่วนลดประมาณ 8% จากราคาตลาดคิดถัวเฉลี่ย ณ วันที่ 30 กันยายน ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 39,966,631 เหรียญสิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 954,293,588 บาท และการจองซื้อหุ้นนี้ ยังต้องรอการพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งเมื่ออนุมัติแล้ว TTA จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลำดับสอง และได้สิทธิแต่งตั้งกรรมการ 1 ตำแหน่ง
SINO GRANDNESS เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสินค้าประเภทนี้ที่ประเทศจีน โดยรายได้ของ SINO GRANDNESS เมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 2,271 ล้านหยวน (หรือประมาณ 11,952 ล้านบาท) ซึ่งมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 52% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่สัดส่วนกำไรเบื้องต้นและสัดส่วนกำไรสุทธิโดยเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 39% และ 18% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อรักษาอัตราการเติบโตที่รวดเร็วของธุรกิจและกำไรไว้ SINO GRANDNESS จึงได้มองหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม และมีแผนที่จะขยายตลาดมายังแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“การซื้อหุ้นในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ TTA โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา TTA ได้เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจจากบริษัทเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง มาเป็นกลุ่มธุรกิจเพื่อการลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ธุรกิจใหม่นี้จะแตกออกมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ นอกเหนือจากการลงทุนในกลุ่มธุรกิจขนส่ง พลังงาน และโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่เคยมีในอดีต ซึ่งเป็นผลจากความพยายามของเราในการคว้าโอกาสทางการตลาดในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม” นายเฉลิมชัย กล่าวปิดท้าย
นายจรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ นักวิเคราะห์ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ถือเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน โดยแนวการดำเนินธุรกิจเดิมคือลงทุนในไลน์ธุรกิจที่ใกล้เคียงกับการขนส่ง แต่การตัดสินใจลงทุนในธุรกิจอาหารครั้งนี้ถือเป็นการปรับแนวทางการลงทุนของกลุ่มผู้บริหารใหม่ที่มีแนวโน้มสร้างกำไรให้กับ TTA ได้ในระยะยาว เนื่องจากเป็นการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ดีในราคาถูก ประกอบกับมูลค่าสินทรัพย์ 954 ล้านบาทนั้น TTA สามารถซื้อได้ด้วยสภาพคล่องภายในของบริษัท ไม่ต้องเพิ่มทุน เบื้องต้น TTA จะได้กำไรจากการลงทุนใน SINO GRANDNESSทันทีเฉลี่ยปีละ 180 ล้านบาท ดังนั้นจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 4 ปี
“การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการลบภาพการขยายฐานธุรกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จของ TTA เพราะ SINO GRANDNESS เป็นธุรกิจที่ดีมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 49% ต่อปี และอัตรากำไรเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 12% ต่อปี ประกอบกับราคาของ SINO GRANDNESS ที่เคลื่นอไหวในตลาดหุ้นสิงคโปร์วันนี้ ว่าสามารถปิดตลาดที่ 0.66 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้น แต่ TTA ซื้อที่ 0.61 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้นถือเป็นการซื้อของที่ได้กำไรทันที สังเกตว่าราคาหุ้น TTA ตลอดสัปดาห์ที่แล้วไม่เคลื่อนไหวเพราะนักลงทุนกลัวข่าวการลงทุนของ TTA เพราะที่ผ่านมามักเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยง แต่เมื่อภาพออกมาแบบนี้ก็หมดห่วง” นายจรูญพันธ์ กล่าว
ราคาหุ้น บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ที่ 22.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,793,494 ล้านบาท โดยบทวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งให้ราคาเหมาะสมเดิมที่ 31 บาท โดยอยู่ระหว่างเข้าพบผู้บริหารและทำบทวิเคราะห์ใหม่เพื่อปรับประมาณการที่เหมาะสม
กำลังโหลดความคิดเห็น