เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จัดทีมงานเดินหน้าแผนการสนับสนุนทางธุรกิจเพื่อผลประโยชน์ร่วม ภายหลังอิโตชูตกลงเข้าซื้อหุ้น CPP 25% โดยเฉพาะธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจอาหาร การจัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ และการบริการด้านโลจิสติกส์
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน ) หรือ CPF กล่าวว่า จากการที่บริษัท อิโตชู คอร์ปอร์เรชั่นฯ เข้าซื้อหุ้น บริษัท ซีพี โภคภัณฑ์ จำกัด หรือ ซีพีพี ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จำนวน 25% เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จะทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในการดำเนินธุรกิจทั้งธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน และการลงทุนใหม่ในอนาคตอย่างมาก เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีจุดแข็งที่สนับสนุนซึ่งกันและกันในการขยายธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ อิโตชู เป็นบริษัทการค้าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น มียอดขายเมื่อสิ้นงวดบัญชีมีนาคม 2557 ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท โดยมีสัดส่วนยอดขายของธุรกิจอาหารในสัดส่วน 26% หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 400,000 ล้านบาท โดยมีการทำธุรกิจหลากหลายในประเทศญี่ปุ่น และมีการลงทุนในต่างประเทศหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ธุรกิจของอิโตชูมีทั้งการค้าภายในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจค้าปลีกภายใต้ชื่อ แฟมิลี่มาร์ต ที่มีสาขามากกว่า 10,000 สาขา ธุรกิจค้าส่งและศูนย์กระจายสินค้าการให้บริการด้านระบบขนส่งสินค้า (โลจิสติกส์) การทำธุรกิจผลไม้กระป๋องภายใต้ตราสินค้า Dole ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจ Textile เป็นต้น ทั้งยังเป็นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ 1 ใน 5 ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น นอกจากนั้น อิโตชูยังเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารระดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นด้วย
“เราเห็นศักยภาพในการขยายธุรกิจหลายด้าน เช่น การค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากบริษัทอิโตชู เป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ต กว่า 10,000 สาขา ซึ่งจะเป็นช่องทางให้กลุ่มซีพีเอฟ กระจายสินค้าได้เป็นอย่างดี อิโตชูยังเป็นผู้ค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์รายใหญ่ และให้บริการด้านระบบโลจิสติกส์ขนส่งสินค้า ซึ่งน่าจะช่วยให้การจัดซื้อและการใช้บริการด้านโลจิสติกส์ของกลุ่มซีพีเอฟมีต้นทุนที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” นายอดิเรก กล่าว
นายอดิเรก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น กลุ่มซีพีเอฟยังสามาถนำเข้าสินค้าของกลุ่มบริษัทอิโตชูผ่านเครือข่ายการขายของซีพีเอฟทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ จีน เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ดังนั้น การที่ อิโตชู เข้าซื้อหุ้น ซีพีพี ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มซีพีเอฟในการขยายธุรกิจด้านอาหารและการค้ารวมถึงศักยภาพในการลงทุนใหม่ๆในอนาคต บริษัทมั่นใจว่าการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของอิโตชูในซีพีพีซึ่งเป็นบริษัทย่อยของซีพีเอฟนี้ จะก่อให้เกิดความร่วมมือกันในการพัฒนาธุรกิจเพื่อการเติบโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดีแน่นอน