xs
xsm
sm
md
lg

ประจินชูประยุทธ์นายกฯ ยันสนช.มีอำนาจถอดถอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 7 ส.ค.นี้ ก่อนมีประชุมเลือกประธานสนช.ในวันที่ 8 ส.ค. "พรเพชร" เผยจะได้เป็น ปธ.สนช.หรือไม่ขึ้นอยู่กับสมาชิกในที่ประชุม "วิษณุ" แจง สนช. มีอำนาจถอดถอน รวมทั้งเรื่องทุจริตข้าว ป.ป.ช.ก็ยื่นถอดถอนได้ "ประจิน" ออกตัวไม่เหมาะนั่งนายกฯ ชู "ประยุทธ์" เหมาะสมที่สุด อดีต ส.ส.ปชป. โวยหัวหน้า คสช. โยนบาปนักการเมืองทำบ้านเมืองพัง ชี้ ขรก.ตัวดี มือชงร่วมด้วยช่วยโกง ควรปฏิรูปด่วน

เมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ทำหนังสือถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ว่า ด้วยมีพระราชกฤษฎาเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 57ในการนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจแทนพระองค์ ในรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันที่ 7 ส.ค. เวลา 15.00 น. ณ พระที่นังอนัตสมาคม พระราชวังดุสิต จึงขอเชิญ สนช.เข้าร่วมในรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยขอให้สมาชิกเข้าประจำที่ ก่อนเวลา 14.00 น. โดยแต่งกายด้วยเครื่องแบบเต็มยศ

นอกจากนี้ยังได้แจ้งให้ สนช.เข้าร่วมประชุมสภานิติบัญัตติแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2557 ในวันศุกร์ที่ 8 ส.ค. เวลา 9.30 น. ที่รัฐสภา โดยมีระเบียบวาระสำคัญในการประชุม คือ การเลือกตำแหน่งประธาน และรองประธาน สนช.

**"วิษณุ"แจงสนช.มีอำนาจถอดถอน

นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช. ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีการถกเถียงถึงอำนาจของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการทำหน้าที่ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า อำนาจหน้าที่ในการถอดถอน ไม่ว่าสมัยไหนก็ตาม มันขึ้นอยู่กับกฎหมายรัฐธรรมนูญ กับกฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ผ่านมาใช้ 2 ฉบับนี้ แต่เมื่อมีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ การถอนถอดตามรัฐธรรมนูญไม่มี แต่เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทางป.ป.ช.ได้นำกฎหมายรัฐธรรมนูญมาเขียนไว้ในกฎหมายป.ป.ช. เพราะฉะนั้นต้องไปดูกฎหมาย ป.ป.ช. ถ้ากฎหมาย ป.ป.ช.เปิดโอกาสให้ถอดถอนก็สามารถทำได้ แต่คำว่า ทำได้ มีอยู่ 2 อย่าง คือ ป.ป.ช.ส่งเรื่องไปให้สนช.ถอดถอนได้หรือไม่ กับ สนช. มีอำนาจรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ เรื่องของการส่งเรื่องให้สนช.นั้น ทางป.ป.ช.ก็ต้องเปิดกฎหมายของตัวเองว่า สามารถทำได้หรือไม่ เมื่อส่งไปได้ ที่ตามปกติต้องส่งไปที่วุฒิสภา และเมื่อไม่มีวุฒิสภา แต่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 เขียนไว้แล้ว ในมาตรา 6 ให้ สนช. ทำหน้าที่ ส.ส. ส.ว. หรือรัฐสภา เพราะฉะนั้น มีคนไว้รับเรื่องอยู่แล้ว

**ชี้ทุจริตเรื่องข้าว ป.ป.ช. ยื่นถอนได้

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า แต่การถอดถอนมีหลายอย่าง และแตกต่างกัน โดยบางอย่างถอดถอนได้ บางอย่างอาจจะถอดถอนไม่ได้ อย่างเรื่องของการทุจริต กฎหมาย ป.ป.ช. มีอำนาจยื่นถอดถอนได้ เมื่อไรที่กฎหมายเขียนไว้ถอดถอนเมื่อทำผิดรัฐธรรมนูญ อย่างนี้อาจเป็นปัญหาต้องถกเถียงกัน เพราะรัฐธรรมนูญไม่มีแล้ว แต่ถ้าถอดถอนเพราะทุจริต หรือปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ เป็นอีกข้อหาหนึ่ง อย่างการทุจริตเรื่องข้าว ป.ป.ช. สามารถยื่นถอดถอนได้ ซึ่งเรื่องของอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องยาก ส่งเรื่องไป สนช. ต้องมีการตีความอยู่แล้ว อย่างแต่ก่อน มาตรา 7 มีการเถียงว่า ใช้ได้ ไม่ได้ แต่ตอนนี้ถ้าสงสัย มาตรา 7 ใช้ได้หรือไม่ มีผู้ที่จะตีความตรงนี้ ไม่ต้องรอให้ทะเลาะกัน เมื่อถามว่ามีการมองกันว่าเป็นการเปิดช่องของกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อจัดการกับบางฝ่าย นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการเปิดช่อง กฎหมายเคยทำได้อยู่อย่างไรก็ทำไปตามนั้น ถ้ากฎหมายไม่อนุญาต ก็ทำไม่ได้

**ไม่อยากให้ ปธ.สนช.มาตามใบสั่ง

นายพีระศักดิ์ พอจิตต์ อดีตส.ว.อุตรดิตถ์ ในฐานะ สนช. กล่าวถึงตำแหน่งประธาน สนช. ว่า จากการพูดคุยเบี้องต้นกับเพื่อน สนช.หน้าใหม่ ส่วนใหญ่จะสนับสนุน นายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานฯ เพราะเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ ขณะที่ตำแหน่งรองประธาน สนช. ก็มีชื่อ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา เป็นแคนดิเดตรวมอยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการคัดเลือกประธานฯ สนช.คงจะต้องมีการหารือกันในหมู่สมาชิกอีกครั้ง เพราะมีเวลาอีกหลายวันในการทำความรู้จักกัน ไม่อยากให้การเลือกประธาน และรองประธาน สนช. มาจากการจิ้มจากภายนอก ตามที่มีกระแสข่าวขณะนี้

นายพีระศักดิ์ ยังกล่าวถึงการเลือก นายกรัฐมนตรี ว่า หลังจากโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธานสนช.แล้ว สนช.จะต้องร่างข้อบังคับการประชุมใหม่ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีความเหมาะสมในสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งการทำงานใน 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เห็นผลงานกันแล้ว

** หวั่นองค์ประชุม สนช.ล่มเพราะ ขรก.

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ อดีตส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ในฐานะ สนช. กล่าวว่า อดีต ส.ว. กลุ่ม 40 ซึ่งได้รับการเลือกเป็น สนช. จะนัดหารือกันเร็วๆ นี้ คาดว่าจะมีการพูดคุยถึงตำแหน่งประธาน สนช.ด้วย แม้ว่ากระแสข่าวว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย จะได้รับการสนับสนุนค่อนข้างมาก แต่ในฐานะอดีต ส.ว. หากนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีตรองประธานวุฒิสภา ได้รับการเสนอชื่อ พวกเราก็พร้อมสนับสนุน นายสุรชัย เพราะเนื่องจากเคยร่วมงานกันมา เห็นผลงานและฝีมือในการทำงานมาแล้ว พร้อมทั้งหารือในการทำงานใน สนช. ซึ่งเชื่อว่าพวกเราจะเป็นเสียงข้างน้อยในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลไม่ให้ถูกประชาชนมองว่า ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเกินไป

"ผมเป็นห่วงมากสุดคือ เรื่ององค์ประชุมจะมีปัญหา เพราะมี สนช. ที่เป็นข้าราชการจำนวนมาก เพราะต้องพิจารณากฎหมายแบบหามรุ่งหามค่ำ จะต้องออยู่ในห้องประชุมตอลดเวลา หากเกิดองค์ประชุมล่ม คสช. จะได้รับความเสียหาย เพราะฉะนั้น จะต้องหามาตรการแก้ไขวิธีการทำงาน เช่น การตั้งวิปขึ้นมาประสานงาน" นพ.เจตน์ กล่าว และปฏิเสธกระแสข่าวจะนั่งเป็นกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญในสัดส่วนสนช. คงไม่น่าจะใช่ เพราะตนไม่เชี่ยวชาญเรื่องรัฐธรรมนูญ แค่อ่านกฎหมาย ก็มึนหัวแล้ว

นพ.เจตน์ กล่าวอีกว่า รู้สึกเสียดายที่ อดีต ส.ว.หลายคน ที่มีความสามารถ อาทิ นายวันชัย สอนศิริ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายประสาร มฤคพิทักษ์ พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ที่ไม่ได้เข้ามาเป็นสนช. แต่คิดว่าคสช.ไม่ต้องการตั้งบุคคลที่ชอบถกเถียง แสดงความคิดเห็นแบบฮาร์ดคอร์ เข้ามา เนื่องจากสนช. มีเวลาทำงานน้อย ขณะเดียวกัน มีกฎหมายที่ต้องเร่งพิจารณาจำนวนมากให้จบโดยเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าบุคคลเหล่ายังมีความเหมาะสมที่จะเข้าไปนั่งในเวทีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งจะได้แสดงความคิดเห็น อย่างเต็มที่

"ประจิน"เชื่อ หัวหน้า คสช. นั่งนายกฯเป็นจุดแข็งแก้ปัญหาประเทศได้ ดูจากผลงาน2เดือน วอนอย่ามองทหารยึด สนช. แค่ต้องการขับเคลื่อนโรดแมป ไม่หวั่น พท.-ปชป.ไม่ร่วม สปช. ชี้ คนไทยมีความรู้พร้อมเข้าร่วม

** "ประจิน" หนุน "ประยุทธ์" นั่งนายกฯ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า เป็นความตั้งใจของ คสช. ที่อยากให้ทุกคนเข้ามาดูแล ที่จะทำให้การบริหารประเทศต่อเนื่องไปด้วยดี ในสถานการณ์ที่เป็นการบริหารพิเศษ เมื่อ สนช.ได้ดำเนินการไปแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายสนับสนุน เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปตามโรดแมปที่ หัวหน้า คสช.ได้วางไว้

ทั้งนี้ สิ่งที่ออกมาประชาชนจะได้มองภาพว่า คสช. มีความตั้งใจ ส่วนภาพลักษณ์ สนช.จะเป็นอย่างไร ให้ดูที่ผลงาน ส่วนกรณีที่มีสมาชิก สนช. บางท่านขาดคุณสมบัติ หรือลาออกนั้น ทางหัวหน้าคสช.จะพิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้ไม่เกิน 220 คน แต่เมื่อประกาศมา 200 คน เมื่อทำงานได้ก็ต้องทำงานไปก่อน ก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัต สนช. แล้ว 2 ขั้นตอน คือ หน่วยงานที่เสนอ และหน่วยกลาง แต่เมื่อมีข้อผิดพลาดก็ต้องขออภัย

เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่า ทหารยึด สนช. พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า เป็นความตั้งใจที่ คสช.อยากให้การขับเคลื่อนราบรื่นตามโรดแมปมากกว่า ถ้าทำอะไรแล้วสะดุด โรดแมปที่หัวหน้า คสช.วางไว้ในระยะที่สอง และสาม จะไม่ต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย จะไม่เข้าร่วม เป็นสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) นั้น จะไม่สงผลกระทบ เพราะคนไทยที่มีความรู้ความสามารถแต่ละด้าน น่าจะมีความพร้อมเข้ามาช่วยกันปฏิรูปประเทศในทุกด้าน ที่กำหนดไว้

เมื่อถามว่า พล.อ.อ.ประจิน เป็นหนึ่งในแคนดิแดต จะนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะว่าไม่มีพื้นฐานมาทางด้านนี้ และการที่จะรับผิดชอบจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งสื่อก็ทราบแล้วว่า ใครเหมาะสม คงต้องรอ สนช. เสนอคงจะทราบเร็วๆ นี้

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เหมาะนั่งตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า คิดว่า สนช. คงจะกลั่นกรองมาดีแล้ว รอให้ สนช.เป็นผู้ดำเนินการ ให้รอผลอีกที ทั้งนี้ มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถดูแลประเทศมาได้ 2 เดือนกว่า จนประสบความสำเร็จ ฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ท่านรับภาระได้

เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ควบตำแหน่ง หัวหน้าคสช. และนายกฯ จะทำให้เป็นการแทรกแซงงานฝ่ายบริหารหรือไม่ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า มองได้ 2 แบบ คือ ดูที่รธน.ชั่วคราว ที่ระบุว่า ให้ทำงานเกื้อกูล และเสริมซึ่งกันและกัน ฉะนั้นเมื่อ คสช. ยังดูแลเรื่องความมั่นคงเพื่อให้รัฐบาลทำงานราบรื่นต่อไป อันนี้น่าจะเป็นจุดแข็งมากกว่า ส่วนจะเปลี่ยนหัวหน้าคสช. หรือไม่นั้น ยังดูไม่ออก แต่จะเพิ่มสมาชิกคสช.15 คน ตามรธน.ชั่วคราวกำหนด

**"พรเพชร" นั่ง ปธ.หรือไม่ขึ้นอนู่กับสนช.

วานนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้ารายงานตัว ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นวันที่ 3 ว่า คึกคักตั้งแต่ ก่อนเวลา 08.30 น. โดยนายชัชวาล อภิบาลศรี อดีต ส.ว. เดินทางมารายงานตัวเป็นคนแรก ตามมาด้วย พล.ร.อ.ยุทธนา ฝักผลงาม อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีสมาชิก สนช.จากภาคธุรกิจ ภาควิชาการ และกองทัพ อาทิ นางกอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหารบริษัท โตชิบา ประเทศไทย จำกัด ,นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน ประธานสภาคณาจารย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) , พลเอก กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้อำนวยการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ,พลตำรวจเอกชัชวาล สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) , นายรัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ,พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม , นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการ ป.ป.ช. , พลเอกธีรเดช มีเพียร อดีตประธาน สว. ,นายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน และที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นต้น

โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดินและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เข้ารายงานตัวด้วย โดยนายพรเพชร กล่าวว่า รู้สึกปลื้มใจและเป็นเกียรติ ที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ สนช. ซึ่งถือเป็นงานที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติ ที่จะดำเนินงานตามโรดแมป ในระยะที่ 2 ตามระยะเวลาของ ศสช.

ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ว่า ตนจะเป็นประธาน สนช. นั้น ก็รู้สึกเป็นเกียรติ แต่จะได้เป็นประธานสนช. หรือไม่ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน และขึ้นอยู่กับมติที่ประชุม สนช. ส่วนการทำหน้าที่สนช.ไปพร้อมกับหน้าที่ของที่ปรึกษาหัวหน้า คสช. จะมีความทับซ้อนกันหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า การมาดำรงตำแหน่ง สนช. มีข้อยกเว้นตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 41 ที่ให้บุคคลากร องค์กรภาคอื่นๆ มาทำหน้าที่ได้ ตนยืนยันว่า จะไม่ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย

ส่วนการที่ นายอาศิศ พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ขอถอนตัวจากการเป็น สนช. ตามจริงแล้วไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 41 เพียงแต่ นายอาศิศ ไม่สะดวกใจจึงขอถอนตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลหรือไม่ที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ จะมีการยื่นให้ตีความ สถานะของสนช. ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตา 7 ที่ระบุว่าต้องมีความหลากหลายของสาขาอาชีพ นายพรเพชร กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนไม่ขอก้าวล่วง มองว่าขณะนี้คุณสมบัติของ สนช. ยังไม่ขัดต่อหลักกฎหมาย มีเพียง 1 คน คือพล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ที่อาจขาดคุณสมบัติการเป็น สนช.ทั้งนี้ นายพรเพชร เปิดเผยว่าตนมีนายกรัฐมนตรีอยู่ในใจแล้ว แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร

**ชี้ตรวจสอบรัฐบาลผ่าน สนช.ได้

ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะสมาชิก สนช. กล่าวภายหลังการรายงานตัวว่า เมื่อปี 49 ตนได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ว.กทม. ซึ่งขณะนั้นตั้งใจมาทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติอยู่แล้ว แต่มีเหตุการณ์ 19 ก.ย. 49 เกิดขึ้นเสียก่อน การรับตำแหน่งสมาชิก สนช.ในครั้งนี้ ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร และไม่ได้ดูว่าฝ่ายไหนจะเข้ามามากน้อยเพียงใด แต่คิดว่าตำแหน่งดังกล่าว เป็นตำแหน่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง จึงจะต้องทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด อีกทั้งตนดูอายุของสมาชิก สนช. แต่ละคนแล้วส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งอาจเป็นครั้งสุดท้ายของหลายคนที่จะมีโอกาสทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง คงต้องทำงานตามหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ต้องยอมรับว่า ประเทศมีปัญหามาก ถ้าเป็นคนก็มีโรคภัยไข้เจ็บมากมาย ฉะนั้น ต้องรักษาด้วยยาแรง ตนเชื่อว่าการทำงานในครั้งนี้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาระยะยาวได้

สำหรับสนช. จะทำหน้าที่เพียงชั่วคราวจนกว่าจะ มีการเลือกตั้ง ส.ส. และมีรัฐบาลในเวลาไม่นานนัก ซึ่งเวลาสั้นๆ ที่มีคงจะต้องทำงานอย่างเต็มที่ ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ความรู้สึกของประชาชนตื่นตัวแล้วโดยเฉพาะปัญหาคอร์รัปชัน บ้านเมืองจะต้องไปในวิถีทางที่โปร่งใส รัฐบาลที่จะเข้ามาหลังจากมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร จะทุจริตลำบาก

นายกล้านรงค์ ยังกล่าวถึงช่องทางการตรวจสอบรัฐบาลชั่วคราว ว่า สนช. สามารถตั้งกระทู้ถาม และอภิปรายได้ แม้จะไม่สามารถลงมติได้ แต่ระยะนี้เป็นระยะของความโปร่งใส การปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิก สนช. ทุกคนจะต้องดูแลกัน ส่วนรัฐบาลชั่วคราวคงไม่กล้าทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีใครคิดจะขายชาติ ขายแผ่นดิน ขายตระกูลของตัวเองในวาระสุดท้ายของชีวิต ส่วนเรื่องสนช.จะทำการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้หรือไม่นั้น คงจะต้องมีการปรึกษากันในที่ประชุม สนช. เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไม่ได้เขียนเอาไว้

** "ธีรเดช" พร้อมชิง ปธ.หากถูกเสนอชื่อ

พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังเข้ารายงานตัว ว่า การนัดรับประทานอาหารกลางวันกับอดีต สมาชิกวุฒิสภา ในช่วงเที่ยงวันนี้ (4 ส.ค.) ไม่มีนัยยะหรือเป็นการลอบบี้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่เป็นเพียงการนัดพบปะพูดคุยตามปกติ แต่ก็รู้สึกแปลกใจที่มีกระแสข่าวสนับสนุนให้ตนเป็นประธาน สนช. แต่ถ้าหากมีการหากเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่ง ก็พร้อมทำงานเช่นเดียวกับ สนช. ทุกคนที่เข้ามา และพร้อมผลักดันนโยบายตามโรดแมป ของคสช.

อย่างไรก็ตาม การทำงานของ คสช. จะเป็นไปตามโรดแมป ที่มีความสมบูรณ์ คือ การทำให้บ้านเมืองมีความปรองดอง และสงบเรียบร้อย ส่วนกระแสข่าวสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความเหมาะสมหรือไม่นั้น ตนเองมองว่า ทั้งผลสำรวจของประชาชน และคนในสังคมเห็นว่า มีความเหมาะสม

** โวย หน.คสช.โยนบาปนักการเมือง

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่า คสช.จำเป็นต้องเข้ามาเพราะนักการเมืองปล่อยให้สภาพบ้านเมืองอยู่เช่นนี้มาเป็น 10 ปี ทำไมไม่แก้ปัญหา ว่า ด้วยความเคารพต่อหัวหน้า คสช. สิ่งที่ท่านพูดเป็นการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะแท้จริงปัญหาที่เกิดขึ้นมิได้เกิดจากนักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว แต่เกิดจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ด้วย ที่มีส่วนยุยงส่งเสริม สนับสนุน เพิกเฉย หรือสมยอม ดังนั้นหากเป็นความผิด อย่างมหันต์ ข้าราชการผู้ใหญ่ ก็ต้องผิดด้วยครึ่งหนึ่ง ต้องเป็นจำเลยร่วม จากนั้นอย่ามัวแต่โทษฝ่ายการเมือง หรือนักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว กรุณาดูข้อเท็จจริงให้ถี่ถ้วนด้วยว่า ต้นตอการทุจริต คอร์รัปชัน มาจากข้าราชการประจำเป็นผู้ชงเรื่องขึ้นมาทั้งสิ้นใช่หรือไม่ ของอย่างนี้ตบมือข้างเดียวคงไม่ดัง

ดังนั้นหากจะทำการปฏิรูป ก็ต้องปฏิรูประบบราชการเป็นการด่วนด้วย และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติบางคน ก็ยังเป็นเช่นนี้อยู่ แต่ส่วนใหญ่น่าเคารพ การที่นักการเมืองออกมาพูด หรือเห็นต่างมิใช่การสร้างความขัดแย้ง แต่เพื่อต้องการความเป็นธรรมในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ แต่เพียงผู้เดียว เมื่อท่านบอกว่า 10 ปีนักการเมืองไม่ทำอะไร และในยุคที่ผ่าน มีอำนาจล้นเหลือ ทำไมจึงไม่รีบทำ หรือแก้ไขทั้งต้นตอของปัญหา ข้าวยากหมากแพง ทั้งแผ่นดินที่ต้องแบกรับราคาพลังงาน ล๊อตเตอรี่จำหน่ายราคาเกินที่กำหนดก็ยังขายเกลื่อน โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ หรือแม้แต่กรณีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ตนส่งหนังสือร้องเรียน ท่านส่งกลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วโจรที่ไหนจะจับโจรด้วยกัน อย่างกรณีการถอดยศร้อยตรี ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังรีบทำกันได้ และยศ พ.ต.ท.ของทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาความผิดในหลายปีแล้ว ทำไมไม่ดำเนินการ

"พล.อ.ประยุทธ์ เปรียบเหมือน “นนทุกก์”ในเรื่องรามเกียรติ์ ที่บัดนี้ได้นิ้วเพชร จะชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้ ปมพูดมาด้วยความเป็นห่วง และด้วยความเคารพยิ่งว่า ควรชี้นิ้วด้วยความระมัดระวังยิ่ง หากใครชวนรำวงก็อย่าเผลอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองก็แล้วกัน ผมเป็นห่วงจริงๆ" นายวัชระ กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น