บ้านเมืองไทยภายใต้อำนาจการนำของคณะรักษาความสงบฯ จะไปกันต่ออย่างไร ยังเป็นคำถาม ยังมีหลากหลายประเด็นที่รอความกระจ่าง เช่น ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้ชาวบ้านเชื่อว่าต้องเป็นคนที่ทุกคนรู้ว่าใคร
ทุกวันนี้เร่งเดินหน้าทำนั่นนี่โน่น ดูเหมือนมีเรื่องเยอะ โดนใจชาวบ้าน แต่ยังมีบางครั้งหลับตา เดินเร็วเกินไป ไม่ดูหน้าหลัง ทำให้สะดุดเท้าตัวเอง ต้องหาทางตั้งหลักใหม่ เช่นเรื่องประกาศฉบับที่ 97 ควบคุมสื่อเข้มงวด
ประกาศดังกล่าวห้ามชาวบ้าน สื่อ วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ แม้จะขอเม้าท์ประเด็นต่างๆ ที่ท่านหัวหน้า คสช.สาธยายทุกค่ำคืนวันศุกร์ เพื่อสานฝันปณิธานสร้างความสุขให้ประชาชนภายใต้บรรยากาศการปรองดอง
ชาวบ้านยังสงสัยตะหงิดๆ ในใจว่าการชักชวนชาวบ้านให้มีความสุขนั้นเป็นไปได้หรือ ถ้ายังมีคนตื่นเช้าไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ถูกยัดเยียดรายการหนังเกาหลี รายการห่วยๆ ไม่ส่งเสริมสร้างภูมิปัญญาเพื่อสร้างชาติให้ดีกว่านี้
ช่วงนี้มีการฉลองงานปรองดองสมานฉันท์กลางสนามหลวงระหว่าง 22 – 27 เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน มีการออกร้าน การแสดงภาคบันเทิง ใครจะสนุกตักตวงความสุขจนลืมความทุกข์ได้หรือไม่ แล้วแต่ชีวิตใครสาหัสแค่ไหน
เป็นงานฉลองครบ 2 เดือนของอายุ คสช.นับตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึกและรัฐประหาร เพื่อวางโครงสร้างการปฏิรูปหลายภาคส่วนรวมทั้งการเมือง จากนี้ไปชาวบ้านยังรอดูว่าจะมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองเมื่อไหร่
ก่อนหน้านี้มีคำประกาศมาดมั่นว่าจะมีธรรมนูญฯ แน่นอนภายในสิ้นเดือนนี้แหละ แต่นี่ก็เหลืออีกไม่กี่วัน คนที่เคยพูดเรื่องนี้กลายเป็นคนเงียบ ไม่ประกาศว่าโครงสร้างของระบบการปกครองชั่วคราวนั้นจะเป็นอย่างไร
ถ้าไม่มีธรรมนูญการปกครองนำร่องไว้ ก็จะไม่มีการสรรหาสมาชิกสภานิติบัญญัติ สภาปฏิรูป หรือคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการบริหารงานราชการแผ่นดิน ยิ่งล่าช้าต่อไป ก็ทำให้เกิดคำถามน่าอึดอัดตามมา
ความล่าช้าเกิดจากปัญหาอะไรไม่ลงตัว มีหนทางแก้ไขอย่างไร?
ประเด็นผู้นำรัฐบาล ใครจะเป็นนายกฯ หน้าตาของคณะรัฐมนตรี จะถูกซักไซ้รายวัน คสช.ต้องหาคำตอบให้ได้ เพราะเป็นผู้แอ่นอกอาสามาแก้ไขวิกฤตการเมือง ทำให้เห็นทิศทางของประเทศว่าการปฏิรูปจะไปรอดหรือไม่
เมื่อยังไร้คำตอบ ก็ต้องพึ่งโหร วันก่อนนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่งสำนักสุขิโต เจ้าของฉายา โหร คมช. กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองภายหลัง คสช.เข้ามาบริหารประเทศว่า ขณะนี้บ้านเมืองกำลังกลับมาเป็นปกติ แต่ต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับคืนเหมือนอดีต
นั่นเป็นเพราะบ้านเมืองบอบช้ำมามาก ต้องสังคายนาใหม่ เก็บกวาดให้เรียบร้อย ซึ่งวันนี้ถือได้ว่าประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว
โหรวารินทร์บอกว่า จากการเปิดนิมิตดูแล้ว คสช.ต้องเข้าบริหารประเทศอย่างน้อย 2-3 ปีขึ้นไป คนที่ต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. เพราะทุกวันนี้ก็ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จะต้องเป็นนายกฯ นานจนกว่าบ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยราว 2-3 ปี
ภาพนิมิตที่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ในช่วงที่เกิดเหตุมีคนเผาบ้านเผาเมืองจนเกิดความวุ่นวาย โหรวารินทร์ได้ถามหลวงปู่ฤๅษีเกวาลันว่าเหตุการณ์นี้จะจบเมื่อไร และใครจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ตอนนั้นภาพนิมิตก็เปิดออกมาเป็น พล.อ.ประยุทธ์
อืมม์... น่าสนใจ เพราะแผนโรดแมปของ คสช.ชี้ว่าจะต้องเลือกตั้งสิ้นปีหน้า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์อยู่นาน 2-3 ปี เท่ากับว่า ต้องใช้เวลายาวกว่า 1 ปีเพื่อการปรองดอง อาจเปิดทางให้นักการเมืองหน้าเดิมซื้อเสียงเข้ามากุมอำนาจอีก
เรื่องนิมิตนี้ใช่ว่าใครจะมีได้ เป็นจริงหรือไม่นั้นมีคำอธิบายแบบกำปั้นทุบดินว่า “ถ้าไม่เชื่ออย่าลบหลู่” หลายคนจำได้ว่าในยุคที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกฯ ในยุค รสช.คุณนายที่บ้านบอกว่าได้ฝันว่าเหาะข้ามภูเขาเจ็ดลูก พ่อบ้านจะเป็นนายกฯ ได้ยาวนาน แต่สุดท้ายเป็นได้แค่ 47 วันเท่านั้น
เอาเถอะ! เมื่อท่านอยากจะเป็น ใครจะห้ามได้ แต่ยังมีคำถามกวนใจอีกเยอะ เช่น จะมีธรรมนูญการปกครองได้เมื่อไหร่ และที่สำคัญ จะโดนจี้ให้ตอบว่ากระทำการรัฐประหารยึดอำนาจเพื่อตัวเองใช่หรือไม่ หรือเพื่อใครกันแน่
ทั้งนี้เพราะมีคำถามซ้ำซากก่อนหน้านี้ว่าจะถอดยศ ยึดทรัพย์ ตามจับ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่? ถ้า คสช.ไม่ทำ โปรดชี้แจงเหตุผลรับฟังได้ว่า “ทำไม” นี่เป็นคำถามง่ายๆ แต่หาคำตอบได้ยากชะมัด ยิ่งไม่ตอบ ชาวบ้านก็ยิ่งอยากรู้
ช่วงหลัง ยิ่งมีคำถามน่าอึดอัด เช่น จะต่ออายุ ผบ.ทบ.หรือไม่? ใครจะมานั่งเก้าอี้แม่ทัพบกคนใหม่? ทำไม คสช.ไม่ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ
คำถามนี้จะไปถามโหรวารินทร์ไม่ได้ หลวงปู่เกวาลันจับยามสามตาดูแล้วคงตีปริศนาไม่แตก เพราะความต้องการของคนหนึ่ง จะให้อีกคนตอบไม่ได้
ทุกวันนี้เร่งเดินหน้าทำนั่นนี่โน่น ดูเหมือนมีเรื่องเยอะ โดนใจชาวบ้าน แต่ยังมีบางครั้งหลับตา เดินเร็วเกินไป ไม่ดูหน้าหลัง ทำให้สะดุดเท้าตัวเอง ต้องหาทางตั้งหลักใหม่ เช่นเรื่องประกาศฉบับที่ 97 ควบคุมสื่อเข้มงวด
ประกาศดังกล่าวห้ามชาวบ้าน สื่อ วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ แม้จะขอเม้าท์ประเด็นต่างๆ ที่ท่านหัวหน้า คสช.สาธยายทุกค่ำคืนวันศุกร์ เพื่อสานฝันปณิธานสร้างความสุขให้ประชาชนภายใต้บรรยากาศการปรองดอง
ชาวบ้านยังสงสัยตะหงิดๆ ในใจว่าการชักชวนชาวบ้านให้มีความสุขนั้นเป็นไปได้หรือ ถ้ายังมีคนตื่นเช้าไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ถูกยัดเยียดรายการหนังเกาหลี รายการห่วยๆ ไม่ส่งเสริมสร้างภูมิปัญญาเพื่อสร้างชาติให้ดีกว่านี้
ช่วงนี้มีการฉลองงานปรองดองสมานฉันท์กลางสนามหลวงระหว่าง 22 – 27 เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน มีการออกร้าน การแสดงภาคบันเทิง ใครจะสนุกตักตวงความสุขจนลืมความทุกข์ได้หรือไม่ แล้วแต่ชีวิตใครสาหัสแค่ไหน
เป็นงานฉลองครบ 2 เดือนของอายุ คสช.นับตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึกและรัฐประหาร เพื่อวางโครงสร้างการปฏิรูปหลายภาคส่วนรวมทั้งการเมือง จากนี้ไปชาวบ้านยังรอดูว่าจะมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองเมื่อไหร่
ก่อนหน้านี้มีคำประกาศมาดมั่นว่าจะมีธรรมนูญฯ แน่นอนภายในสิ้นเดือนนี้แหละ แต่นี่ก็เหลืออีกไม่กี่วัน คนที่เคยพูดเรื่องนี้กลายเป็นคนเงียบ ไม่ประกาศว่าโครงสร้างของระบบการปกครองชั่วคราวนั้นจะเป็นอย่างไร
ถ้าไม่มีธรรมนูญการปกครองนำร่องไว้ ก็จะไม่มีการสรรหาสมาชิกสภานิติบัญญัติ สภาปฏิรูป หรือคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการบริหารงานราชการแผ่นดิน ยิ่งล่าช้าต่อไป ก็ทำให้เกิดคำถามน่าอึดอัดตามมา
ความล่าช้าเกิดจากปัญหาอะไรไม่ลงตัว มีหนทางแก้ไขอย่างไร?
ประเด็นผู้นำรัฐบาล ใครจะเป็นนายกฯ หน้าตาของคณะรัฐมนตรี จะถูกซักไซ้รายวัน คสช.ต้องหาคำตอบให้ได้ เพราะเป็นผู้แอ่นอกอาสามาแก้ไขวิกฤตการเมือง ทำให้เห็นทิศทางของประเทศว่าการปฏิรูปจะไปรอดหรือไม่
เมื่อยังไร้คำตอบ ก็ต้องพึ่งโหร วันก่อนนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่งสำนักสุขิโต เจ้าของฉายา โหร คมช. กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองภายหลัง คสช.เข้ามาบริหารประเทศว่า ขณะนี้บ้านเมืองกำลังกลับมาเป็นปกติ แต่ต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับคืนเหมือนอดีต
นั่นเป็นเพราะบ้านเมืองบอบช้ำมามาก ต้องสังคายนาใหม่ เก็บกวาดให้เรียบร้อย ซึ่งวันนี้ถือได้ว่าประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว
โหรวารินทร์บอกว่า จากการเปิดนิมิตดูแล้ว คสช.ต้องเข้าบริหารประเทศอย่างน้อย 2-3 ปีขึ้นไป คนที่ต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. เพราะทุกวันนี้ก็ทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จะต้องเป็นนายกฯ นานจนกว่าบ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยราว 2-3 ปี
ภาพนิมิตที่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ในช่วงที่เกิดเหตุมีคนเผาบ้านเผาเมืองจนเกิดความวุ่นวาย โหรวารินทร์ได้ถามหลวงปู่ฤๅษีเกวาลันว่าเหตุการณ์นี้จะจบเมื่อไร และใครจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ตอนนั้นภาพนิมิตก็เปิดออกมาเป็น พล.อ.ประยุทธ์
อืมม์... น่าสนใจ เพราะแผนโรดแมปของ คสช.ชี้ว่าจะต้องเลือกตั้งสิ้นปีหน้า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์อยู่นาน 2-3 ปี เท่ากับว่า ต้องใช้เวลายาวกว่า 1 ปีเพื่อการปรองดอง อาจเปิดทางให้นักการเมืองหน้าเดิมซื้อเสียงเข้ามากุมอำนาจอีก
เรื่องนิมิตนี้ใช่ว่าใครจะมีได้ เป็นจริงหรือไม่นั้นมีคำอธิบายแบบกำปั้นทุบดินว่า “ถ้าไม่เชื่ออย่าลบหลู่” หลายคนจำได้ว่าในยุคที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกฯ ในยุค รสช.คุณนายที่บ้านบอกว่าได้ฝันว่าเหาะข้ามภูเขาเจ็ดลูก พ่อบ้านจะเป็นนายกฯ ได้ยาวนาน แต่สุดท้ายเป็นได้แค่ 47 วันเท่านั้น
เอาเถอะ! เมื่อท่านอยากจะเป็น ใครจะห้ามได้ แต่ยังมีคำถามกวนใจอีกเยอะ เช่น จะมีธรรมนูญการปกครองได้เมื่อไหร่ และที่สำคัญ จะโดนจี้ให้ตอบว่ากระทำการรัฐประหารยึดอำนาจเพื่อตัวเองใช่หรือไม่ หรือเพื่อใครกันแน่
ทั้งนี้เพราะมีคำถามซ้ำซากก่อนหน้านี้ว่าจะถอดยศ ยึดทรัพย์ ตามจับ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่? ถ้า คสช.ไม่ทำ โปรดชี้แจงเหตุผลรับฟังได้ว่า “ทำไม” นี่เป็นคำถามง่ายๆ แต่หาคำตอบได้ยากชะมัด ยิ่งไม่ตอบ ชาวบ้านก็ยิ่งอยากรู้
ช่วงหลัง ยิ่งมีคำถามน่าอึดอัด เช่น จะต่ออายุ ผบ.ทบ.หรือไม่? ใครจะมานั่งเก้าอี้แม่ทัพบกคนใหม่? ทำไม คสช.ไม่ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ
คำถามนี้จะไปถามโหรวารินทร์ไม่ได้ หลวงปู่เกวาลันจับยามสามตาดูแล้วคงตีปริศนาไม่แตก เพราะความต้องการของคนหนึ่ง จะให้อีกคนตอบไม่ได้
