xs
xsm
sm
md
lg

จดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.ประยุทธ์

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

เรียนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติที่เคารพ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านหัวหน้า คสช.ที่คืนความสุขให้กับคนไทยที่ต่อสู้เรื่องแผ่นดินไทย ด้วยการเจรจาขอให้เขมรปล่อยตัวคุณวีระ สมความคิด ให้กลับมาสู่มาตุภูมิ

แต่ที่ผมจะถามต่อไปก็คือ เมื่อไหร่ท่านจะคืน เอเอสทีวี ทีวีของประชาชนกลับมา แม้ว่าคุณสนธิ ลิ้มทองกุลจะพูดไว้ชัดเจนแล้วว่า “เอเอสทีวีเปิดเมื่อไหร่ ไม่รู้ แต่ถ้าเปิดแล้วมีเงื่อนไขทำให้พูดความจริงไม่ได้ ก็ไม่เปิด”

สิ่งที่คุณสนธิพูด คือจุดยืนของเครือเอเอสทีวีผู้จัดการครับว่าเราต้องเป็นสื่อที่นำเสนอความจริง แต่ที่ผมอยากจะถามเพราะผมสงสัยว่า ท่านมีมาตรฐานอะไรที่ตัดสินใจให้ทีวีช่องไหนเปิดได้หรือไม่ ในบรรดาทีวีที่อยู่ในประกาศของ คสช.ฉบับที่ 15 จำนวน 14 สถานีให้ระงับการออกอากาศ โดยคณะ คสช.อ้างเหตุผลว่า เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย

เพราะวันนี้ท่านผู้นำได้อนุญาตให้กลับมาออกอากาศแล้ว 2 สถานี คือ วอยซ์ทีวีของพานทองแท้ ชินวัตร และทีนิวส์ของสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผมเห็นด้วยและยินดีด้วยนะครับที่ท่านได้อนุญาตให้สถานีทั้งสองกลับมาออกอากาศอีกครั้ง แต่คำถามก็คือว่า เมื่อสองสถานีกลับมาออกอากาศได้แล้วทำไมเอเอสทีวีถึงกลับมาออกอากาศไม่ได้ ในเมื่อเราทำตามกติกาและกระบวนการทุกอย่างอย่างที่วอยซ์ทีวีและทีนิวส์ทำ

ย้ำนะครับว่า ผมเห็นด้วยกับคุณสนธิว่า ถ้ากลับมาออกอากาศแล้วเราไม่มีเสรีภาพในการทำงาน ก็อย่าออกเสียดีกว่า แต่ผมถามเพราะอยากรู้มาตรฐานของท่านผู้นำว่า มีมาตรฐานในการตัดสินใจเรื่องนี้ต่างกันอย่างไร

เพราะได้รับคำยืนยันจากกรรมการ กสทช.ท่านหนึ่งว่า คนที่จะชี้ให้สถานีโทรทัศน์ช่องไหนกลับมาออกอากาศได้นั้น คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงคนเดียว

ก่อนอื่นต้องออกตัวว่า ผมเข้าใจการเข้ามายึดอำนาจการปกครองของพวกท่านนะครับ เพราะเห็นว่า บ้านเมืองเดินมาถึงทางตันไร้ทางออก เกิดความแตกแยกรุนแรง ประเทศชาติไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ ผมสนับสนุนและเห็นด้วยที่จะให้พวกท่านได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมืองให้ลุล่วงในสักระยะเวลาหนึ่งไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป และอยากให้ท่านได้ทำให้ลุล่วง ไม่ทิ้งปัญหาให้กลับมาอีกเหมือนรัฐประหารเมื่อปี 2549

ผมเข้าใจว่าท่านมองว่าพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งของคนในชาติ ก็เพราะเราเป็นทีวีที่ระดมมวลชนออกมาต่อสู้กับระบอบทักษิณและไม่ยอมให้คนชั่วเข้ามาบริหารบ้านเมือง แต่ผมก็เห็นความจำเป็นของท่านที่จะต้องควบคุมสื่อทั้งสองฝ่ายในเบื้องแรก และเราก็ได้ให้ความร่วมมือกับท่านอย่างไม่บิดพลิ้ว แต่วันนี้เวลาผ่านไป ท่านได้เปิดให้สองสถานีกลับมาออกอากาศแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ครับ ท่านช่วยอธิบายด้วยเหตุผลสิครับว่า เอเอสทีวี แตกต่างจากทีนิวส์หรือวอยซ์ทีวีซึ่งเป็นทีวีของฟากระบอบทักษิณอย่างไร ผมรู้นะครับว่าในจุดยืนนั้นเราไม่ต่างกับทีนิวส์นัก แม้จะลีลาและวิธีการในการนำเสนอที่อาจจะแตกต่างกัน ผมรู้นะครับว่า เราอยู่ตรงข้ามกับวอยซ์ทีวีที่สนับสนุนระบอบทักษิณ เพราะเราเป็นสถานีที่ปกป้องชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์และฟาดฟันกับนักการเมืองที่คิดไม่ดีต่อชาติบ้านเมืองโดยไม่เลือกพรรค จุดยืนแบบนี้เป็นจุดยืนที่อันตรายต่อชาติบ้านเมืองหรือครับ

ถามว่าทีวีที่สนับสนุนทักษิณ สนับสนุนให้แก้กฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างวอยซ์ทีวีกลับมาออกอากาศได้ แล้วทำไมเอเอสทีวีถึงกลับมาออกอากาศไม่ได้

วันก่อนพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกของ คสช.ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ถึงการสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ตามประกาศ คสช.ว่า ขณะนี้สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อยู่ในกลุ่มที่มีความขัดแย้งชัดเจน คงต้องขอเวลา คสช.ประเมินอีกสักระยะ

อ้าวแล้วช่องที่ท่านอนุญาตให้ออกอากาศแล้วละครับ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่มีความขัดแย้งชัดเจนหรือครับ ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจถึงความแตกต่างหน่อยสิครับ ไม่นั้นก็จะมีคนกล่าวหาท่านว่าเลือกปฏิบัติ เขาอาจจะพูดออกมาดังๆ ไม่ได้เพราะกลัวเกรงอำนาจของท่าน แต่ก็ไม่เป็นผลดีที่จะให้เกิดความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นต่อความปรารถนาดีของท่านที่จะเข้ามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองใช่ไหมครับ

ผมไม่อยากให้ใครกล่าวหาว่า ท่านมีอคติส่วนตัวกับเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ แม้ว่าวันหนึ่งท่านเคยพูดและคนรู้ว่าท่านหมายถึงเครือเอเอสทีวีผู้จัดการว่า “กองทัพต้องดูแลประชาชน ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม ในสถานการณ์ที่ความขัดแย้งสูง ต่อให้ชอบหรือไม่ชอบ ผมถือว่าเป็นการทำหน้าที่ อย่าบอกว่า ผมไปเข้าข้างโน้น เข้าข้างนี้ แล้วที่บอกว่า ผมไม่ทำอะไรเลยโดยบอกว่า ผมได้รับผลประโยชน์ผมคงต้องดำเนินการตามกฎหมายกับคนที่ลงข่าวแบบนี้ในที่นี่ก็มีหนังสือพิมพ์บางฉบับเดี๋ยวมาดูกันซิว่าเป็นใคร ถ้ายังเขียนข่าวกันอย่างนี้เตรียมตัวตกงานกันให้หมด” (29 เมษายน 2557)

ผมเข้าใจนะครับว่า ในการเข้ามาใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ของท่านต้องใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ท่านไม่ต้องการให้มีข้อโต้แย้งใดๆ ในการทำงาน เหมือนประกาศฉบับที่ 18 เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช.และห้ามโน่นห้ามนี่อีกหลายอย่าง แต่บางข้อเป็นสิ่งที่สื่อมวลชนต้องปฏิบัติอยู่แล้วเช่น ไม่นำเสนอข่าวที่ใส่ร้ายผู้อื่นหรือข่าวที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในชาติ แต่ท่านคงจะไม่ห้ามให้ใครพูดความจริงใช่ไหมครับ

ผมถามท่านว่า การเป็นทีวีที่พูดถึงคนที่คิดร้ายต่อชาติบ้านเมือง พูดถึงนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชัน เข้าข่ายข้อไหนในประกาศฉบับที่ 18 ครับ

ถ้าท่านเข้ามาเพื่อสร้างความดีในชาติบ้านเมือง ข่าวสารและความจริงที่จะเผยแพร่ออกไปก็ย่อมจะเป็นเรื่องของความดีที่ท่านกระทำ ประชาชนและสื่อมวลชนก็จะเป็นเกราะคุ้มกันให้ท่าน ไม่มีใครที่จะบิดพลิ้วกล่าวหาท่านในทางไม่ดีได้หรอกครับ

ถ้าท่านมีจุดยืนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน เรามีจุดยืนเดียวกันครับ เรายังมีจุดยืนเดียวกันเรื่องข้อเรียกร้องของท่านที่ต้องไม่มีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นแม้แต่บาทเดียว

มีคนเตือนนะครับว่า คำสั่งของท่านในฐานะรัฏฐาธิปัตย์ต้องปฏิบัติตามอย่างไม่มีเงื่อนไข และต้องไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ผมก็ได้แต่หวังว่า ท่านจะไม่ถือว่า สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้เป็นการขัดคำสั่งของท่าน เพราะผมเพียงแต่ต้องการให้คนเข้าใจท่านให้ถูกต้องโดยการแสดงเหตุผลที่แท้จริงของท่านในการอนุญาตให้ออกหรือไม่ออกอากาศของสถานีโทรทัศน์แต่ละช่องว่ามีมาตรฐานและเหตุผลต่างกันอย่างไร แม้เราจะมีจุดยืนชัดเจนว่า ถ้ากลับมาออกอากาศต้องพูดความจริงได้ก็ตาม

จึงเรียนมาด้วยความเคารพ และด้วยความหวังว่าท่านจะเป็นคนที่มีจิตใจที่เปิดกว้างและรับฟังเสียงจากประชาชนใต้ปกครองของท่านนะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น