โฆษก คสช. อ้างเอเอสทีวีอยู่ในกลุ่มขัดแย้งชัดเจน จึงให้กลับมาออนแอร์ไม่ได้ อ้างเห็นใจพนักงานเดือดร้อน ขณะที่เมื่อช่วงเช้า “อุดมเดช” เรียกสื่อ 46 สำนักคุย อ้างมีสัญลักษณ์แบ่งฝ่ายที่เกิดความขัดแย้ง ขอปิดต่อจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แหล่งข่าวเผยช่วงนี้ต้องสร้างความปรองดอง อีก 2 - 3 เดือน ค่อยเรียกมาคุย
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.45 น. ภายหลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ถึงการสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 15 ว่า ขณะนี้สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อยู่ในกลุ่มที่มีความขัดแย้งชัดเจน คงต้องขอเวลา คสช. ประเมินอีกสักระยะ ส่วนความเดือดร้อนของพนักงาน พ.อ.วินธัย กล่าวว่า คสช. มีความเข้าใจ ซึ่งในการประชุมวันเดียวกันนี้ในที่ประชุมผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ 46 สำนัก มีการพูดถึงเรื่องนี้ โดยในที่ประชุมก็พยายามพิจารณาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถออกอากาศได้ตามปกติ
“เราไม่ได้ปิดตายสถานี เพียงแต่ต้องค่อยๆ พูดคุยกันไป” พ.อ.วินธัย กล่าว
พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึงสถานีวิทยุชุมชนที่ยังไม่สามารถออกอากาศได้ เพราะติดเงื่อนไขกฎหมายของ กสทช. ที่เครื่องมือไม่ได้รับการตรวจสอบและมีการปล่อยคลื่นความถี่ไปกระทบกระเทือนคลื่นอื่น ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อคลื่นวิทยุอื่นๆ ที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
อนึ่ง มีรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวระหว่างการพบปะหารือกับผู้บริหารสื่อสิ่งพิมพ์ และโทรทัศน์ รวม 46 สำนัก ถึงการสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมตามประกาศ คสช. ว่า ตอนนี้มีสื่อที่ถูกปิดอยู่ขอเรียนว่ายังมีความจำเป็นอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากภาพหรือสัญลักษณ์ที่เกิดความขัดแย้งอยู่ จึงจะต้องขอปิดต่อจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ทั้งนี้ หากสื่อแม้เพียงหนึ่งเดียวโจมตีทาง คสช. ก็ไปไม่รอด ขณะที่ตัวแทนของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี บลูสกาย และเอเชียอัปเดต ต่างสอบถามถึงความชัดเจนในการอนุญาตให้แต่ละสถานีกลับมาออกอากาศอีกครั้ง โดยทุกสถานียืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับ คสช. ทุกประการ หากจะทำให้กลับมาออกอากาศได้อีก โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับประชาชน และพร้อมร่วมเป็นเวทีปฏิรูป
ด้านแหล่งข่าวในที่ประชุมเปิดเผยถึงการหารือ ว่า พล.อ.อุดมเดช ได้กล่าวถึงสื่อทีวีดาวเทียมที่ถูกปิดตามคำสั่งทาง คสช. โดยขอความกรุณาให้ชะลอการออกอากาศไว้ก่อน เพราะยังมีสัญลักษณ์ของการแบ่งฝ่าย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็จะเรียกแต่ละช่องมาพูดคุยอีกครั้งใน 2 - 3 เดือนหลังจากนี้ อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการให้แต่ละสถานีดำเนินการออกอากาศได้เร็วที่สุด เพราะเข้าใจว่าแต่ละสถานีมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแล และต่างประเทศจับตามองอยู่ แต่ในการพิจารณาจะดูจากสถานการณ์ และบรรยากาศของประเทศประกอบด้วย โดยเฉพาะขณะนี้เป็นบรรยากาศของการสร้างความปรองดอง หากสถานีโทรทัศน์ที่เป็นขั้วการเมืองได้กลับมาออกอากาศ อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการสร้างความปรองดองได้
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทีนิวส์ ทีวี ของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม แนวร่วม กปปส. คนใกล้ชิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกอากาศเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากในปัจจุบันสถานการณ์การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่ประชาชนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยจะต้องถือปฏิบัติตามประกาศ คสช. โดยห้ามสร้างความขัดแย้งหรือต่อต้านการปฏิบัติงานของ คสช. ขณะที่ในปัจจุบันยังมีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอีก 12 แห่ง โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ที่ไม่สามารถกลับมาออกอากาศตามปกติได้ กว่า 1 เดือน 5 วัน