xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ยกเครื่อง“ยุทธจักรสีกากี”สร้างภาพชิงผบ.ตร.คนใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ดีเดย์สังคายนายุทธจักรสีกากีกันแล้ว หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยลุงตู่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ในฐานะหัวหน้าใหญ่ ออกคำสั่งรื้อโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)กันแบบยกกระบิ

หัวใจสำคัญคือ การเปลี่ยนอำนาจแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) จากเดิมอยู่ในมือฝ่ายการเมืองอย่างนายกรัฐมนตรีมาอยู่ในมือข้าราชการฝ่ายประจำเสียให้จบโดยเฉพาะบรรดาเหล่าปลัดกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นต้น

ขณะที่คุณสมบัติของผู้นำสีกากียุคใหม่จะต้องยึดลำดับอาวุโสเป็นตัวตั้ง ให้เหลือแค่รองผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติเช่นเดียวกัน หลังจากนี้ คนที่เสนอชื่อผบ.ตร.คนใหม่ จะไม่ใช่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไปแต่จะเป็นผบ.ตร.เองที่ทำหน้าที่ดังกล่าว

เรียกว่าลอกโมเดลการแต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพของทหารกันมาเกือบทั้งดุ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายฝ่ายคาดการณ์ตรงกันว่าวัตถุประสงค์ก็เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตำรวจไม่ให้ถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ที่ชอบเข้าไปจุ้นจ้านเจ้ากี้เจ้าการหอบคนของตัวเองเข้าไปนั่งเป็นแขนขามือไม้

ถือเป็นการปูพื้นที่ปฏิรูปตำรวจขั้นต้นก่อนจะเดินหน้ากันเต็มสูบตอนมีสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ที่คงมีอยู่ในใจของผู้เกี่ยวข้องแล้วว่าจะชำระล้างวงจรอุบาทว์ในยุทธจักรสีกากีอย่างไร
 
งานนี้คนที่ร้องโหยหวนหนีไม่พ้นเครือข่ายระบอบทักษิณที่โดนผลกระทบเข้าอย่างจัง เพราะที่ผ่านมาตำรวจคือเครื่องมือเดียวที่เหลืออยู่ในการค้ำอำนาจด้านความมั่นคงแต่ตอนนี้เมื่อสูญสิ้นไปแล้วโดยบริบูรณ์ ก็ไม่ต่างจากคนโดนตัดแขนตัดขาจนง่อยเปลี้ย

ดูอาการโกรธเป็นฟืนเป็นไฟออกมาก็รู้ว่า ฟิวส์ขาดแค่ไหน ตามคิวที่นายสมคิดเชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ออกมาร้องลั่นด่ากราดคสช.แบบไม่ยั้งสวดชยันโตกันยับว่าทหารเข้ามายึดอำนาจตำรวจแถมปลุกใจให้นายตำรวจที่ไม่เห็นด้วยออกมาประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจ

แต่เอากันจริงๆ ใครจะกล้าหือ เพราะการปฏิรูปครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นคนที่โวยวายนั่นแหละ ต้องถูกตั้งคำถามว่า เป็นพวกที่หวงแหนความโสมมของระบบเก่าๆหรือไม่ ซึ่งเต็มที่ก็คงต้องปล่อยให้สะอึกสะอื้นกันไปสักพัก เดี๋ยวก็เงียบหายไปเองเพราะหลายฝ่ายยกมือท่วมหัวเห็นด้วยกับแนวทางนี้

แต่คนที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้บางคนก็ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนแนวทางเสมอไป เพราะบางคนก็เห็นด้วยแบบมีเลศนัยหรือผลประโยชน์แอบแฝงจากการปรับรื้อโครงสร้างการแต่งตั้งในหนนี้โดยเฉพาะพวกที่กำลังขึ้นหม้อรอคั่วเก้าอี้ผบ.ตร.กันอยู่
 
ไล่รายชื่อพวกที่เข้าตามคุณสมบัติมีลุ้นเก้าอี้ผบ.ตร.คนใหม่ก็มีเหลืออยู่แค่ไม่กี่ราย ประกอบด้วย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.และพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.

ถ้าเป็นในยุคเก่า น่าจะเดากันไม่ง่าย เพราะคงมีแค่ “บิ๊กย้อย” พล.ต.อ.วรพงษ์ น้องรักร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงจับกัง กับ “จูดี้”พล.ต.อ.พงศพัศ ผู้ทำหน้าที่เป็นวอลเปเปอร์ให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนเสมือนเงาตามตัวที่ตามไปทุกๆ ที่ แม้จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ตัวเองรับผิดชอบหรือไม่ก็ตาม

แต่มาในยุคนี้ทั้งคู่คงหลุดปิ๋วตั้งแต่หัววันแบบรู้ชะตากรรมตัวเองไปแล้ว เพราะภาพลักษณ์อิงฝ่ายการเมืองชัดเจนอย่างไรเสียก็ยากแสนยากที่เข้าวินมาเป็นเบอร์หนึ่งยุทธสีกากีในเวอร์ชั่นใหม่ส่วนพล.ต.อ.ชัชวาลย์ ก็ถูกโยกขาดจากสตช.ไปเป็นอธิบดีดีเอสไอ
 
ฉะนั้น คงจะเหลือแค่ผู้เป็นข่าวรายวันอย่าง “บิ๊กเอก” พล.ต.อ.เอก และ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศที่ต้องขับเคี่ยวแช่งยิงเก้าอี้กันอยู่สองรายนี้

ดูตั้งแต่คสช.เข้ามาควบคุมอำนาจการบริหารประเทศ ก็จะเห็นทั้งคู่เร่งปั่นผลงานกันน่าดูชนิดไม่มีใครยอมใคร โดย “บิ๊กเอก” เริ่มเผาหัวตั้งแต่หัววันเมื่อครั้งยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลคดีที่เกิดขึ้นในช่วงการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ซึ่งออกมาเปิดโปงว่า หลายเหตุการณ์ที่มีการยิงระเบิดใส่ผู้ชุมนุมเชื่อมโยงกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั้งสิ้น

เล่นเอาชาวบ้านชาวช่อง งงเป็นไก่ตาแตก ว่าเหตุใดจึงรวดเร็วปานวอกขนาดนั้น เพราะช่วงสมัยรัฐบาลผีหัวขาดยังบริหารประเทศ “บิ๊กเอก” คนนี้แทบไม่สามารถเคลียร์คดีอะไรได้เลยเป็นชิ้นเป็นอันจนหลายคนหมดหวังตัดพ้อว่าสงสัยตายฟรี

กระทั่งเมื่อไม่นานถูกปรับเปลี่ยนให้มารับผิดชอบดูแลด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์“บิ๊กเอก” ก็ยังไม่ท้อถอย ใส่เกียร์ห้าตามงานที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะงาน เจอจุดไหน จับได้นั่งแถลงกันดะรายวัน เก็บใส่กระบุงเป็นแต้มสะสมเอาไว้

ขณะที่ “บิ๊กอ๊อด” เหลื่อมๆดูจะได้เปรียบนิดๆ เพราะได้รับผิดชอบงานใหญ่ ให้ดูแลงานด้านความมั่นคงตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบไม่ว่าจะเป็นการสืบสวนคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคงทั้งตามประกาศและคำสั่งของคสช. ในทีนี้รวมถึงคดีที่อยู่ช่วงการชุมนุมของกปปส. ด้วย ดังจะเห็นภาพข่าวที่เจ้าตัวลุยจับบรรดาคนก่อเหตุได้เป็นกอบเป็นกำอย่างล่าสุด การจับมือยิงเอ็ม 79 ใส่หน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริจนเด็กเสียชีวิต ก็ถูกลากคอมาแถลงข่าวแถมมีข่าวว่าพัวพันกับกลุ่มคนเสื้อแดงอีกด้วย

 แต่ด้วยสันดานเดิมยังไม่เปลี่ยน ก็คงเดาได้ว่า คนบงการสั่งยิงที่เกี่ยวพันกับแกนนำเสื้อแดงคงจะไม่ถูกลากคอมาเป็นคดี

เช่นเดียวกับการจับอาวุธสงครามตามจังหวัดต่างๆ “บิ๊กอ๊อด” ก็ลุย ปะ ฉะ ดะพร้อมทั้งยังสาวไส้ฉายภาพว่าอาวุธสงครามเหล่านี้เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับบรรดาหัวโจกในพรรคเพื่อไทย แต่ทางตำรวจก็กล่าวหาแค่เจ๊เพ็ญ- นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพล.ต.ท.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 และนักเรียนเตรียมรุ่น10 (ตท.10) รุ่นเดียวกับน.ช.ทักษิณ ชินวัตร

ส่วนคนอยู่เบื้องหลังการสั่งฆ่าตัวจริงถูกตัดตอนไปตั้งแต่ชั้นสอบสวน

“บิ๊กอ๊อด”ออกมาทำงานแบบนี้เพราะไม่ยอมน้อยหน้าคู่แข่ง เพื่อหวังสร้างภาพโกยแต้มเท่านั้นหาได้มีความจริงจังอะไรไม่

ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าใครจะเข้าวินประเดิมผู้นำสีกากีในยุคปฏิรูปแต่ที่แน่ๆ งานนี้มีชาวบ้านไม่น้อยผิดหวัง บ่นกันระงมแข่งกันปั่นโปรไฟล์มันก็ดีอยู่หรอก แต่ปั่นเพื่อให้ได้มาซึ่งเก้าอี้ผบ.ตร.ในบั้นปลายมันเหมือนทำงานหวังผลเสียมากกว่า

 แล้วอย่างนี้จะได้คนที่ดีที่เก่งจริงๆได้อย่างไร


พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น