ASTVผู้จัดการรายวัน - ป้าเด็กชายวัย 8 ขวบเมืองเพชรบุรีลมจับอีกราย โร่ขอความเป็นธรรมกสทช.และสคบ. หลังหลานชายเล่นเกม "คุกกี้รัน" ถูกบิลเรียกเก็บเงินรายเดือน 1.6 แสนบาท ขณะที่จ.สุพรรณบุรีช็อกเจอบิลกว่า 2 แสนบาท เหตุจากเอไอเอสทำสัญญากูเกิลคิดค่าบริการผ่านบิลเอไอเอสเป็นรายแรกหวังอำนวยความสะดวกลูกค้า ด้านกสทช. หาทางออกชงจำกัดวงเงิน 1พันบาทต่อรอบบิล พร้อมนัดกูเกิลถก 26 มิ.ย.แก้ปัญหา ส่วนเอไอเอสยืดอกยอมรับผิด ปิดบริการพร้อมยกเว้นค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า
เมื่อเวลา 15.30 น.วานนี้ (23 มิ.ย.) นางสมถวิล เขียวสะอาด 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 หมู่ 3 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ป้าของด.ช.สุภัทร์ พูลพิพิธ หรือน้องป๋อ อายุ 8 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นลูกค้าเครือข่ายบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือเอไอเอส ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)เพชรบุรี และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)เพชรบุรี หลังถูกเอไอเอส เรียกเก็บค่าโทรศัพท์รายเดือนเป็นเงิน 163,405.55 บาท
นางสมถวิล กล่าวว่า โทรศัพท์เป็นของน้องป๋อ แต่ซิมเป็นบิลรายเดือนลงทะเบียนในชื่อของตน เพราะลงทะเบียนชื่อน้องป๋อไม่ได้ เนื่องจากอายุไม่ถึง ก่อนหน้านี้น้องป๋อได้เล่นเกมคุกกี้รัน แต่ไม่มีปัญหาอะไร ต่อมาได้เห็นข่าวในโทรทัศน์เกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินอันเนื่องมาจากสาเหตุเล่นเกมจำนวนมาก แต่ไม่คิดว่าจะมาประสบกับตัวเอง
"พอเห็นบิลเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์รายเดือนรอบบิลวันที่ 12 พฤษภาคมถึงวันที่ 11 มิถุนายน จำนวน 163,405.55 บาทถึงกับเป็นลมหมดสติ จากนั้นได้ไปปรึกษากันในครอบครัว แล้วตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก สคบ.และกสทช. เพราะฐานะของฉันไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีเงินจ่ายมากถึงขนาดนั้น"
ขณะที่ผู้แทนกสทช.เพชรบุรี ชี้แจงว่า ขณะนี้พบปัญหาดังกล่าวหลายราย เนื่องจากผู้เล่นเป็นเด็ก ไม่มีความเข้าใจใน กระบวนการต่างๆ ของเกม จึงไปซื้อไอเทมผ่านเกม ทำให้เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
จากกรณีนางอัมพร ชุ่มชื่นดี อายุ 48 ปี จ.สุพรรณบุรี ได้รับบิลค่าบริการจากเอไอเอสในรอบบิลเดือนพฤษภาคม เป็นเงินจำนวนสูงถึง 203,150.71 บาทโดยเกือบทั้งหมดเป็นค่าสินค้าและบริการจากไลน์คอร์เปอร์เรชั่นที่เกิดขึ้นแต่วันที่ 9-29 พฤษภาคม 2557 โดยเกิดจากลูกชายที่ยอมรับว่าเป็นการทำตามขั้นตอนที่อยู่ในยูทูปที่นำเสนอว่าสามารถซื้อเพชรในเกมคุกกี้รัน ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียเงิน จึงทำตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อซื้อเพชรในเกมได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีบิลมาแจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายกว่า 2 แสนบาท
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวภายหลังเรียกผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 รายเข้าหารือเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. กรณีมีเยาวชนซื้อไอเท็มในเกมออนไลน์ผ่านเครือข่ายของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจนทำให้มีค่าบริการกว่า 2แสนบาทว่าเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าผู้ให้บริการดังกล่าวคือบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN)ในเครือเอไอเอส ซึ่งต้นเหตุเกิดจากAWN ไปทำสัญญากับกูเกิล สิงคโปร์ โดยเป็นความร่วมมือของกลุ่มสิงเทลผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอไอเอส
ทั้งนี้การทำสัญญาดังกล่าวนั้นAWN ถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ให้บริการ เรียกเก็บค่าบริการเสริมผ่านใบแจ้งหนี้ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (ไดเร็ค แคร์ลิเออร์ บิลลิ่ง หรือ DCB) ซึ่งใช้ได้กับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เพราะไอโอเอสของแอปเปิลต้องเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น
สำหรับระบบDCB ของAWN ได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.2557และเปิดอย่างเต็มระบบในวันที่ 12 พ.ค.หลังจากนั้นได้ปิดระบบในวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะเกิดปัญหามีบิลช็อกหลายกรณี โดยเฉพาะกรณีรายล่าสุดนี้ด้วย
ขณะที่การหารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือนั้น กสทช.ได้มีข้อเสนอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจำกัดวงเงินการใช้งานสำหรับบริการDCBในการใช้งานซื้อแอปพลิเคชั่น ,ไอเท็ม ,เกม ,สติกเกอร์ ในแต่ละรอบบิลไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน และในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ สำนักงานกสทช.ได้เรียกบริษัท กูเกิล ประเทศไทย จำกัด เข้ามาหารือเพื่อหารือว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกับผู้ให้บริการแฟลตฟอร์มอย่างกูเกิลนั้น จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ร่วมกันอย่างไร
ขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายอื่นที่เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น ทางด้านดีแทค มีการให้บริการเช่นเดียวกัน โดยกำหนดมาตรการ 3 ข้อ คือ 1. จำกัดวงเงินการซื้อ 1,000 บาท/ครั้ง 2.วงเงินรวมค่าซื้อสินค้าและบริการต้องอยู่ในวงเครดิตลิมิต และ 3. ใช้ผ่านช่องทางไวไฟไม่ได้ ต้องใช้ผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเท่านั้น เพื่อให้บริษัททำการตรวจสอบได้ ขณะที่บริษัท ทีโอที, บริษัท กสท โทรคมนาคม และบริษัท ทรู ยังไม่มีบริการโดยทางทรูอยู่ระหว่างการเจรจากับกูเกิล
“ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า สัญญาที่เอดับบลิวเอ็นทำกับกูเกิลในการให้บริการDCBนั้นถือเป็นสัญญานอกเหนือจากบริการ 3G ความถี่ 2.1GHz ดังนั้นต้องมีการเสนอสัญญามาให้สำนักงานกสทช.เห็นชอบก่อน เพราะสัญญานี้รวมค่าบริการเรียกเก็บไปในใบแจ้งหนี้ก็ต้องเป็นสัญญาให้บริการโทรคมนาคม แต่หากมีการเรียกเก็บโดยหักผ่านบัตรเครดิตจะถือเป็นสัญญาทางการเงินซึ่งไม่ ผิดกฏกสทช.”
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่าAWNรับข้อเสนอสำนักงาน กสทช. ในการที่จะเชิญผู้เสียหายมาให้ข้อมูล โดยมีสำนักงาน เป็นคนกลาง หากพบว่าการใช้บริการที่ก่อให้เกิดค่าบริการดังกล่าวโดยไม่มีเจตนา หรือเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทางบริษัทจะเยียวยาในประเด็นเรื่องค่าบริการให้แก่ผู้เสียหาย
สำหรับมาตรการที่จะป้องกันปัญหาในลักษณะเดียวกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจำกัดวงเงินค่าใช้บริการ และให้มีบริการข้อความสั้น (SMS) ส่งไปยังเลขหมายอื่นที่กำหนด ซึ่งกรณีนี้จะเป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง ซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกใช้งาน หากมีการใช้จ่ายเกิดขึ้น ก็จะมี SMS ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับทางบริษัทผู้ให้บริการด้วย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองก็ได้รับทราบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการใช้บริการอันอาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กและเยาวชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ
***เอไอเอสรับผิดไม่คิดค่าบริการ
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานตลาด เอไอเอส กล่าวว่า จากกรณีที่มีลูกค้าใช้งานเล่นเกมคุกกี้รัน และมีค่าบริการสูงผิดปกติ นั้น เอไอเอส ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันการใช้บริการเกี่ยวกับ แอปพลิเคชั่นทางอินเทอร์เน็ต อาทิ การสมัครใช้งาน หรือ การซื้อคอนเทนต์ผ่านทาง Google play store ซึ่งเป็นศูนย์รวมแอปพลิเคชั่นของระบบแอนดรอยด์ ที่ให้บริการโดยกูเกิล ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าจำเป็นต้องสมัครหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านทางบัตรเครดิตเท่านั้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยการสะดวกให้กับลูกค้า เอไอเอสจึงเป็นผู้รับชำระค่าสินค้าและบริการนี้ให้กับ Google Play Store โดยหักจากบิลค่าโทรศัพท์ของเอไอเอสได้ทั้ง แบบพรีเพด (เติมเงิน) และโพสต์เพด (รายเดือน) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งในทางปฏิบัติ ในการที่จะใช้บริการดังกล่าวได้นั้น ลูกค้าจะต้องมีการสมัครใช้งานและยืนยันความเป็นเจ้าของก่อน จึงจะสามารถทำการหักค่าใช้จ่ายได้ รวมถึงในการซื้อคอนเทนต์แต่ละครั้ง จะมีการแจ้งให้ยืนยันการซื้อ และจะมีการส่งยืนยันการซื้อดังกล่าวกลับไปที่ อีเมล ของลูกค้าเสมอเช่นกัน
'อย่างไรก็ตามหลังจากการเปิดบริการดังกล่าวไป พบว่าลูกค้าบางรายมีค่าบริการสูงผิดปกติซึ่งเอไอเอสก็มิได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ทำการปิดบริการสำหรับระบบโพสต์เพดทันที ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจะดูแลลูกค้าโดยยกเว้นค่าสินค้าและบริการดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ลูกค้าทุกรายที่ใช้งานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์'
ทั้งนี้เอไอเอสจะมีการพัฒนาระบบแจ้งเตือนรวมถึงเพิ่มเติมการกำหนดยอดการใช้งานสูงสุดในการชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วยตนเอง (Credit Limit) เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้บริการในโลกออนไลน์ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
เมื่อเวลา 15.30 น.วานนี้ (23 มิ.ย.) นางสมถวิล เขียวสะอาด 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 หมู่ 3 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ป้าของด.ช.สุภัทร์ พูลพิพิธ หรือน้องป๋อ อายุ 8 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นลูกค้าเครือข่ายบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือเอไอเอส ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)เพชรบุรี และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)เพชรบุรี หลังถูกเอไอเอส เรียกเก็บค่าโทรศัพท์รายเดือนเป็นเงิน 163,405.55 บาท
นางสมถวิล กล่าวว่า โทรศัพท์เป็นของน้องป๋อ แต่ซิมเป็นบิลรายเดือนลงทะเบียนในชื่อของตน เพราะลงทะเบียนชื่อน้องป๋อไม่ได้ เนื่องจากอายุไม่ถึง ก่อนหน้านี้น้องป๋อได้เล่นเกมคุกกี้รัน แต่ไม่มีปัญหาอะไร ต่อมาได้เห็นข่าวในโทรทัศน์เกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินอันเนื่องมาจากสาเหตุเล่นเกมจำนวนมาก แต่ไม่คิดว่าจะมาประสบกับตัวเอง
"พอเห็นบิลเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์รายเดือนรอบบิลวันที่ 12 พฤษภาคมถึงวันที่ 11 มิถุนายน จำนวน 163,405.55 บาทถึงกับเป็นลมหมดสติ จากนั้นได้ไปปรึกษากันในครอบครัว แล้วตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก สคบ.และกสทช. เพราะฐานะของฉันไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีเงินจ่ายมากถึงขนาดนั้น"
ขณะที่ผู้แทนกสทช.เพชรบุรี ชี้แจงว่า ขณะนี้พบปัญหาดังกล่าวหลายราย เนื่องจากผู้เล่นเป็นเด็ก ไม่มีความเข้าใจใน กระบวนการต่างๆ ของเกม จึงไปซื้อไอเทมผ่านเกม ทำให้เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
จากกรณีนางอัมพร ชุ่มชื่นดี อายุ 48 ปี จ.สุพรรณบุรี ได้รับบิลค่าบริการจากเอไอเอสในรอบบิลเดือนพฤษภาคม เป็นเงินจำนวนสูงถึง 203,150.71 บาทโดยเกือบทั้งหมดเป็นค่าสินค้าและบริการจากไลน์คอร์เปอร์เรชั่นที่เกิดขึ้นแต่วันที่ 9-29 พฤษภาคม 2557 โดยเกิดจากลูกชายที่ยอมรับว่าเป็นการทำตามขั้นตอนที่อยู่ในยูทูปที่นำเสนอว่าสามารถซื้อเพชรในเกมคุกกี้รัน ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียเงิน จึงทำตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อซื้อเพชรในเกมได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีบิลมาแจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายกว่า 2 แสนบาท
น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวภายหลังเรียกผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 รายเข้าหารือเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. กรณีมีเยาวชนซื้อไอเท็มในเกมออนไลน์ผ่านเครือข่ายของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจนทำให้มีค่าบริการกว่า 2แสนบาทว่าเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าผู้ให้บริการดังกล่าวคือบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN)ในเครือเอไอเอส ซึ่งต้นเหตุเกิดจากAWN ไปทำสัญญากับกูเกิล สิงคโปร์ โดยเป็นความร่วมมือของกลุ่มสิงเทลผู้ถือหุ้นใหญ่ของเอไอเอส
ทั้งนี้การทำสัญญาดังกล่าวนั้นAWN ถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ให้บริการ เรียกเก็บค่าบริการเสริมผ่านใบแจ้งหนี้ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (ไดเร็ค แคร์ลิเออร์ บิลลิ่ง หรือ DCB) ซึ่งใช้ได้กับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เพราะไอโอเอสของแอปเปิลต้องเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น
สำหรับระบบDCB ของAWN ได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.2557และเปิดอย่างเต็มระบบในวันที่ 12 พ.ค.หลังจากนั้นได้ปิดระบบในวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะเกิดปัญหามีบิลช็อกหลายกรณี โดยเฉพาะกรณีรายล่าสุดนี้ด้วย
ขณะที่การหารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือนั้น กสทช.ได้มีข้อเสนอให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจำกัดวงเงินการใช้งานสำหรับบริการDCBในการใช้งานซื้อแอปพลิเคชั่น ,ไอเท็ม ,เกม ,สติกเกอร์ ในแต่ละรอบบิลไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน และในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ สำนักงานกสทช.ได้เรียกบริษัท กูเกิล ประเทศไทย จำกัด เข้ามาหารือเพื่อหารือว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกับผู้ให้บริการแฟลตฟอร์มอย่างกูเกิลนั้น จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ร่วมกันอย่างไร
ขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายอื่นที่เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น ทางด้านดีแทค มีการให้บริการเช่นเดียวกัน โดยกำหนดมาตรการ 3 ข้อ คือ 1. จำกัดวงเงินการซื้อ 1,000 บาท/ครั้ง 2.วงเงินรวมค่าซื้อสินค้าและบริการต้องอยู่ในวงเครดิตลิมิต และ 3. ใช้ผ่านช่องทางไวไฟไม่ได้ ต้องใช้ผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเท่านั้น เพื่อให้บริษัททำการตรวจสอบได้ ขณะที่บริษัท ทีโอที, บริษัท กสท โทรคมนาคม และบริษัท ทรู ยังไม่มีบริการโดยทางทรูอยู่ระหว่างการเจรจากับกูเกิล
“ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า สัญญาที่เอดับบลิวเอ็นทำกับกูเกิลในการให้บริการDCBนั้นถือเป็นสัญญานอกเหนือจากบริการ 3G ความถี่ 2.1GHz ดังนั้นต้องมีการเสนอสัญญามาให้สำนักงานกสทช.เห็นชอบก่อน เพราะสัญญานี้รวมค่าบริการเรียกเก็บไปในใบแจ้งหนี้ก็ต้องเป็นสัญญาให้บริการโทรคมนาคม แต่หากมีการเรียกเก็บโดยหักผ่านบัตรเครดิตจะถือเป็นสัญญาทางการเงินซึ่งไม่ ผิดกฏกสทช.”
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่าAWNรับข้อเสนอสำนักงาน กสทช. ในการที่จะเชิญผู้เสียหายมาให้ข้อมูล โดยมีสำนักงาน เป็นคนกลาง หากพบว่าการใช้บริการที่ก่อให้เกิดค่าบริการดังกล่าวโดยไม่มีเจตนา หรือเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทางบริษัทจะเยียวยาในประเด็นเรื่องค่าบริการให้แก่ผู้เสียหาย
สำหรับมาตรการที่จะป้องกันปัญหาในลักษณะเดียวกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจำกัดวงเงินค่าใช้บริการ และให้มีบริการข้อความสั้น (SMS) ส่งไปยังเลขหมายอื่นที่กำหนด ซึ่งกรณีนี้จะเป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง ซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกใช้งาน หากมีการใช้จ่ายเกิดขึ้น ก็จะมี SMS ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับทางบริษัทผู้ให้บริการด้วย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองก็ได้รับทราบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการใช้บริการอันอาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กและเยาวชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ
***เอไอเอสรับผิดไม่คิดค่าบริการ
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานตลาด เอไอเอส กล่าวว่า จากกรณีที่มีลูกค้าใช้งานเล่นเกมคุกกี้รัน และมีค่าบริการสูงผิดปกติ นั้น เอไอเอส ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันการใช้บริการเกี่ยวกับ แอปพลิเคชั่นทางอินเทอร์เน็ต อาทิ การสมัครใช้งาน หรือ การซื้อคอนเทนต์ผ่านทาง Google play store ซึ่งเป็นศูนย์รวมแอปพลิเคชั่นของระบบแอนดรอยด์ ที่ให้บริการโดยกูเกิล ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าจำเป็นต้องสมัครหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านทางบัตรเครดิตเท่านั้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยการสะดวกให้กับลูกค้า เอไอเอสจึงเป็นผู้รับชำระค่าสินค้าและบริการนี้ให้กับ Google Play Store โดยหักจากบิลค่าโทรศัพท์ของเอไอเอสได้ทั้ง แบบพรีเพด (เติมเงิน) และโพสต์เพด (รายเดือน) ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งในทางปฏิบัติ ในการที่จะใช้บริการดังกล่าวได้นั้น ลูกค้าจะต้องมีการสมัครใช้งานและยืนยันความเป็นเจ้าของก่อน จึงจะสามารถทำการหักค่าใช้จ่ายได้ รวมถึงในการซื้อคอนเทนต์แต่ละครั้ง จะมีการแจ้งให้ยืนยันการซื้อ และจะมีการส่งยืนยันการซื้อดังกล่าวกลับไปที่ อีเมล ของลูกค้าเสมอเช่นกัน
'อย่างไรก็ตามหลังจากการเปิดบริการดังกล่าวไป พบว่าลูกค้าบางรายมีค่าบริการสูงผิดปกติซึ่งเอไอเอสก็มิได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ทำการปิดบริการสำหรับระบบโพสต์เพดทันที ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจะดูแลลูกค้าโดยยกเว้นค่าสินค้าและบริการดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ลูกค้าทุกรายที่ใช้งานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์'
ทั้งนี้เอไอเอสจะมีการพัฒนาระบบแจ้งเตือนรวมถึงเพิ่มเติมการกำหนดยอดการใช้งานสูงสุดในการชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วยตนเอง (Credit Limit) เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้บริการในโลกออนไลน์ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
