xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ขุดรากถอนโคน “ลอตเตอรี่” แพงเรื้อรัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องหวยใต้ดิน เรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล (ล็อตเตอรี่) ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะงวดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. กับงวดวันที่ 16 มิ.ย. หลังจากที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีมาตรการเข้มในเรื่องความปรองดองในชาติ และมาตรการให้ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารได้กำชับการพนันในพื้นที่ ทำให้หวยใต้ดิน ไม่มีคนขาย หากขายได้ก็เส้นใหญ่จริง ๆ หรือแอบขายไม่ให้เจ้าหน้าที่รู้ เพราะคนซื้อคนขายกลัวถูกจับ

จนเป็นเหตุให้ผู้ขายสลากกินแบ่งในพื้นที่หลายจังหวัดขายสลากกินแบ่งได้จำนวนมาก เพิ่มขึ้น 3-4 เท่า

แต่กลับมีเสียงจากผู้ค้าฉลากว่า “อยากจะฝากไปยัง คสช.ว่าให้ช่วยผลักดันลดราคาสลากกินแบ่งให้ราคาถูกลง เพราะปัจจุบันราคาขายสูงมาก”

เรื่องนี้ถูกร้องเรียนมาหลายยุค ปล่อยผ่านไปสองงวดคงไม่ทันกาล วันก่อน “พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์” ปลัดบัญชีทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะทำงานตามนโยบาย คสช. หรือการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ 2/ 2557 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช.เป็นประธาน ได้มีการหารือถึงปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยเบื้องต้น ได้มีการสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหา และให้เร่งรายงานกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะถือเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งมีการร้องเรียนเข้ามามาก

“ท่านหัวหน้าคสช.เป็นห่วงเรื่องนี้มาก ต้องรื้อกันใหม่ทั้งระบบ ทั้งในเรื่องของโควต้าและผลประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องส่วนต่างราคาที่เกินขึ้นมา ให้ไปดูว่าตกอยู่ที่ใคร หากผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับส่วนรวมก็ให้ยกเลิกไป และให้นำผลประโยชน์ที่ได้เข้ามาในระบบเพื่อพัฒนาประเทศ และหากเป็นไปได้ความเห็นส่วนตัวคณะกรรมการน่าจะรายงานกลับมายังหัวหน้า คสช.ได้ทันการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดหน้า วันที่ 1 ก.ค.นี้” พล.ท.อนันตพร ระบุ

พูดง่าย ๆก็คือ ให้ตั้งคณะกรรมการไปตรวจสอบราคาลอตเตอรี่ในท้องตลาดแพงเกินจริง เข้าขั้นขูดรีดประชาชน จากราคาที่แปะไว้หน้าลอตเตอรี่คู่ละ 80 บาท มีเรื่องร้องเรียนมายัง คสช.ว่า มีการรับซื้อแบบแบ่งโควต้ามาที่ต้นทุนคู่ละ 64 หรือ 68 บาท แต่มีการมาขายโก่งราคาเกินจริงเป็นคู่ละ 100 บาท 110 บาท บางครั้งเลขสวยขึ้นไปที่คู่ละ 110 บาท

" ต้องทำให้ขายที่ใบละ 40 บาท หรือคู่ละ 80 บาทให้ได้ ไม่ใช่ขายคู่ละ 100 บาท คู่ละ 100 บาท เป็นไปได้จะทำให้เร็วที่สุด ให้ทันหวยงวดต่อไปออกเลย" พล.ท.อนันตพร แถลงไว้

ราคาลอตเตอรี่ในท้องตลาดแพงเกินจริง ต้องทำให้เสร็จภายใน 15 วัน ว่างั้น!!!

เรื่องนี้ “ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน”ของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยทำแผนภาพจำลองโครงสร้างการขายสลากเอาไว้น่าสนใจ (ตามภาพ ข้อมูลปี 2555)

โดยสรุปว่า คนไทยซื้อล็อตเตอรี่ 19.2 ล้านคน จ่ายเงินซื้อปีละ 76,769 ล้านบาท เป็นเงินจ่ายเกินราคาปีละ 11,489 ล้านบาท จากวิธีการขายขาดของสำงานสลากฯ ปิดประตูเสี่ยง เลี่ยงความลับผิดชอบ

สลากเกินราคา เพราะผู้ค้าต่างไม่ยอมรับต้นทุนของสลากที่ขายไม่หมดในแต่ละงวด ซึ่งผลักภาระราคามาที่ผู้บริโภคเป็นทอดๆ และระบบการจำหน่ายสลากที่ไม่ได้ไปถึงมือผู้ค้ารายย่อยโดยตรง แต่ไปผ่านมือพ่อค้าคนกลางอย่างยี่ปั้ว หรือซาปั้ว

เรื่องสลากเกินราคาคนในสำนักงานสลากฯ เคยให้ข้อมูลว่า การเพิ่มจำนวนลอตเตอรี่นั้นง่าย แต่การลดทำได้ยาก เพราะผู้ที่ได้รับโควตาไปแล้ว คงไม่ยอมถูกดึงกลับ และอาจนำไปสู่การประท้วงอีก ซึ่งการเพิ่มปริมาณต้องค่อยๆทยอยเพิ่ม เพราะเมื่อเพิ่มแล้วก็จะดูแลไม่ให้ลดลงในงวดถัดๆ ไป อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเพิ่มสลาก 4-8 ล้านฉบับ ก็คงไม่ทำให้ราคาลดลงมาเหลือฉบับละ 80 บาท เพราะยังมีรายย่อยที่รับซื้อราคาสูงกว่าต้นทุนไปจำหน่ายต่อ

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งมาจากตัวผู้ขายไม่อยากลดราคาขายฉบับละ 80 บาท เพราะกลัวจะทำให้เสียราคา หากงวดนี้ลดไปแล้ว จะมีผลต่อการตั้งราคางวดหน้าด้วย

ซึ่งสำนักงานสลากฯ ก็มองว่าการแก้ปัญหาสลากแพงทำได้ง่ายกรณีที่สลากราคาตกไปที่ 3 ใบ 100 บาท แต่การเพิ่มจำนวนสลากก็ต้องดูความเหมาะสมหลายด้าน เพราะไม่อยากให้ตัวแทนจำหน่ายได้รับผลกระทบเมื่อขายไม่หมด

ถามว่า ผู้ค้า พ่อค้าคนกลางอย่างยี่ปั้ว หรือซาปั้ว เป็นใคร?

จำได้ว่าเมื่อวันที่ 16 มี.ค.บนเวทีผู้ชุมนุม กปปส.แกนนำขึ้นปราศรัยอ้างว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีวาระการประชุมเร่งด่วนคือ การทำสัญญาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากการกุศลให้กับเอกชน 2 บริษัท ทั้งที่จะหมดอายุสัญญาเป็นผู้จำหน่ายสลากในเดือนก.ค.2557นี้

"ทำไมจะต้องรีบต่ออายุสัญญาตั้งแต่เดือนมี.ค.57 ทั้งที่อีกหลายเดือนถึงจะหมดสัญญา มีคนส่งเอกสารและมาเล่าให้ผมฟังว่า มีการเสนอเงินจากการต่อสัญญาครั้งนี้ 300 ล้านบาท มีการพูดกันมานานว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์จากการออกสลากฯ ทำให้คนในรัฐบาลร่ำรวยกันทั่วหน้า ดังนั้นประชาชนจะต้องจับตาเรื่องนี้ว่าเป็นความจริงหรือไม่”แกนำระบุไว้ในวันนั้น

เรื่องนี้ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ปฏิเสธ โดยอ้างว่า การประชุมบอร์ดวันนั้นเป็นการหารือร่วมกันในวาระปกติ แต่ได้หารือเกี่ยวกับการเตรียมต่ออายุสัญญาโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ล็อตเตอรี่ และโควตาสลากการกุศล เนื่องจาก อายุสัญญาโควตานั้น ปกติแล้วจะมีอายุ 2 ปี โดยจะมีการต่ออายุสัญญาโควตากันปีต่อปี

ในส่วนของโควตาสลากการกุศล จะมีรายใหญ่ 2 รายที่โควตาจะหมดอายุลงในเดือน มิ.ย.นี้ ประกอบด้วย บริษัทเกิดสุขการค้า จำกัด ที่ได้โควตาสลากฯ จำนวน 18,500 เล่ม หรือ 1,850,000 ฉบับ และ บริษัท วิงส์อาร์มส์ แอนด์ เรดิโอส์ จำกัด มีโควตา 1,500 เล่ม หรือ 150,000 ฉบับ รวมทั้งสิ้น 2 ล้านฉบับ จากจำนวนสลากการกุศลทั้งหมด 22 ล้านฉบับ

ขณะที่โควตาสลากปกติ หรือ ล็อตเตอรี่นั้น จะมีสัญญาโควตาที่จะหมดอายุอีกประมาณ 3 หมื่นราย คิดเป็นจำนวน 42 ล้านฉบับ จากจำนวนล็อตเตอรี่ทั้งหมดในปัจจุบัน 50 ล้านฉบับ ผู้มีโควตาทั้งสิ้น 4 หมื่นรายทั่วประเทศ

"ที่ประชุมบอร์ดเมื่อ 17 มี.ค.ได้ให้สำนักงานสลากฯกลับไปพิจารณาหาแนวทางในการต่ออายุสัญญาโควตาสลากการกุศลที่จะหมดอายุในเดือน มิ.ย.นี้ทั้ง 2 รายใหญ่ ซึ่งคิดเป็นจำนวนสลาก 2 ล้านฉบับ รวมถึงโควตาล็อตเตอรี่ด้วย จากนั้นก็นำมาเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาการต่ออายุโควตาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วหากผู้ที่มีสัญญาโควตาอยู่ แล้วไม่ได้ดำเนินการอะไรที่ผิดต่อสัญญา ก็จะสามารถดำเนินการต่ออายุสัญญาโควตาได้ตามปกติ" พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ระบุไว้

ส่วนที่ กปปส. ออกมาให้ข้อมูลว่า บริษัท เกิดสุขการค้า จำกัด และ บริษัท วิงส์อาร์ม แอนด์ เรดิโอส์ จำกัด ถูกเรียกเงินใต้โต๊ะรายละ 300 ล้านบาท เพื่อแลกกับการต่ออายุโควตาสลากการกุศลที่จะหมดอายุในเดือน มิ.ย.57 นั้น พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ กล่าวว่า หากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็ขอให้นำหลักฐานมายืนยัน และยินดีให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาตรวจสอบ

"เรื่องเงินใต้โต๊ะ ต้องถามว่าใครจ่ายใคร ถ้ามีพยานหลักฐานก็ว่ามาเลย ที่ผ่านมายืนยันว่าสำนักงานสลากฯ ทำงานด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา" พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ระบุ

ผ่านมา 2 เดือนกว่า คสช.ยึดอำนาจรัฐบาล เรื่องการต่ออายุโควตาสลากการกุศล กับโควตาสลากปกติ ถูกระงับไว้!! ประกอบกับ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ยื่นใบลาออกจากผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ

เชื่อว่ามาจากคำสั่ง คสช. ที่มีมาตรการเพื่อจะทบทวนการบริหารงานและกำจัดสิทธิประโยชน์ของ “กรรมการในรัฐวิสาหกิจ”

เรื่องนี้ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการสลากฯ เพื่ออนุมัติใบลาออกของ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ที่ยื่นมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากกรรมการหลายคนยังมีความกังวลว่าจะต้องมีการลาออกจากตำแหน่งกรรมการด้วยหรือไม่ หรือจะต้องรอคำสั่งของ คสช.อย่างชัดเจนว่าให้กรรมการในรัฐวิสาหกิจดำเนินการอย่างไรต่อไป

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นในฐานะประธานกรรมการกองสลากฯ จะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อขออนุมัติให้การลาออกมีผลภายในเดือน มิ.ย.นี้ รวมทั้งเริ่มกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่

กลับมาที่สลากฯแพง พบว่าในสมัยรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีแนวคิดในการยกเลิกบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก โดยให้สำนักงานสลากฯ เป็นผู้จำหน่ายให้กับประชาชนโดยตรงผ่านไม่ตัวแทน แต่ให้ขายราคา 90 บาท

โดยสำนักงานสลากฯ จะปรับปรุงระบบจำหน่ายผ่านตัวแทนต่าง ๆ ทั้งบริษัทเอกชน ผู้ค้าสลากรายย่อย มูลนิธิองค์กรต่าง ๆ กระจายให้ถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึง และการมีเอกชนเป็นตัวแทนจำหน่าย จะเป็นการรับซื้อสลากทั้งชุด เพื่อรับความเสี่ยงจากการจำหน่าย ซึ่งเห็นว่าระบบจำหน่ายเดิมยังมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้ปรับปรุงระบบจำหน่ายสลากดังกล่าว เนื่องจากยุบสภาเสียก่อน

มีข้อมูลเปิดเผยในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางว่า มีการรับรู้ว่าตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในอดีต จะมี 5 เสือกองสลากได้รับโควต้าเป็นยี่ปั๊วระดับชาติ เช่น บริษัทสลากมหาลาภ บริษัทปลื้มวัธนา บริษัทไดมอนด์ ล็อตโต้ บริษัท หยาดน้ำเพชร และบริษัทบีบี เมอร์ชานท์ ที่เป็นยี่ปั้วจำหน่ายสลากรายใหญ่

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือผู้อำนวยการกองสลาก ก็ได้มีการทดแทนยี่ปั้วด้วยคลื่นลูกใหม่ในวงการลอตเตอรี่

อย่างปัจจุบัน ได้มีการเข้ามาลงทุนในรูปแบบของรายย่อยและนิติบุคคล มีฝ่ายการเมืองเข้ามาหนุนหลัง เช่น บริษัทธรรมนัสการ์ด และลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล ที่มี นายทหารนอกราชการยศร้อยเอก เป็นเจ้าของเข้ามาทำธุรกิจลอตเตอรี่แบบเต็มตัว รวมทั้งล่าสุดก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับ หจก.ขวัญฤดี ซึ่งบริษัทเหล่านี้เคยได้รับโควตาสลากการกุศลงวดละ 2 หมื่นเล่ม หรือ 2 ล้านใบ มาแล้ว

หากจำกันได้ร.อ.คนนี้ เป็นบุคคลที่มีข่าวว่าขัดแย้งกับชุมชนตลาดคลองเตยมาโดยตลอด

ยี่ปั้วใหม่และเก่า จะเข้ามากวาดโควตาลอตเตอรี่จากบรรดามูลนิธิ องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ ด้วยการจ่ายผลประโยชน์ จากตัวอย่างโควต้าของ “องค์การทหารผ่านศึก”และ “สมาคมทหารผ่านศึกพิการ”ที่กองสลากสั่งยึดคืนไป ก็กลายมาเป็นโควตาคนพวกนี้

ขณะที่คนกลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง มีนายทหารนอกราชการ ที่ใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคอนเน็กชั่นให้ ส่วนการเมืองอีกซีกก็ไม่ธรรมดามีคอนเน็กชั่นใกล้ชิดเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า ทั้งฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ก็ได้ประโยชน์จากสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งสิ้น

นักการเมือง จากพรรคใหญ่พรรคหนึ่งเคยพูดว่า “นายใหญ่ของเขาเดินทางเข้าไปประเทศฟิจิ ก็เพราะไปรับสัมปทานลอตเตอรี่หรือล็อตโต้ และในอนาคตอันใกล้ก็จะมาที่ลาว เพราะตอนนี้กำลังเจรจากับนักธุรกิจจีนเพื่อร่วมทุนทำล็อตโต้ที่ลาว”

นายใหญ่ผู้นี้ยังเคยโพตส์เฟซบุ๊ค ว่า “ผมจะไปเปิดธุรกิจที่ยูกันดา ก็คือ ธุรกิจแรกที่จะเปิดก็คือเป็นลอตเตอรี่ครับ ผมก็คิดว่าจะช่วยคัดเลือกเด็กเก่งๆ จากยูกันดาส่งไปเรียนที่เมืองไทยบ้าง โดยเฉพาะโรงเรียนที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหลาย ก็อยากจะช่วยเขาเรื่องนี้ด้วย ก็เอาโครงการคล้ายๆ ลอตเตอรี่ที่ทำในเมืองไทยนะครับ เพราะฉะนั้นเราก็จะช่วยคัดเด็กเก่งๆ ไปสองด้าน อีกด้านหนึ่งด้านกีฬาฟุตบอลส่งไปฝึกที่อเคเดมี่ที่อังกฤษ .. ฯลฯ”


กำลังโหลดความคิดเห็น