ASTVผู้จัดการรายวัน-สุดอึ้ง! พบหลักฐานคาหนังคาเขา ไทยมีบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกว่า 6,000 บ่อทั่วประเทศ ตอกย้ำไทยมีแหล่งพลังงานเป็นจำนวนมากจริง แต่ถูกหมกเม็ด เอื้อนายทุนต่างชาติแอบเข้ามาขุด ล่าสุดพบบ่อน้ำมันเพชรบูรณ์ ถูกลอบขุด 5 ปี ปล้นไปกว่า 300 ล้านลิตร แต่ไม่จ่ายค่าภาคหลวง ทำเสียหายเป็นหมื่นล้าน จี้ ปตท. เลิกโฆษณาชวนเชื่อน้ำมันหมดประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการเสนอข่าว พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส นายทหารประจำกองบัญชาการกองทัพไทย และนักวิชาการอิสระเชี่ยวชาญด้านพลังงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารได้เริ่มปฏิบัติภารกิจตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบ ภายหลังทราบมาว่า บริษัทต่างชาติ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) แอบลักลอบขุดน้ำมันของประเทศไทย จากทั้งหมดเกือบ 6,000 หลุมขุดเจาะทั่วประเทศ
ทั้งนี้ พ.ท.รัฐเขต ตั้งคำถามว่า "ไหน ปตท.บอกว่าน้ำมันประเทศไทยเหลือน้อย แต่เฉพาะที่ อ.ศรีเทพ และ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ มีบ่อน้ำมันมากถึง 95 หลุม"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูลของ เสธน้ำเงิน ที่ระบุว่า โรงกลั่นน้ำมันของประเทศไทย ที่มีจำนวน 7 โรง แต่ละโรงต่อท่อตรงจากอ่าวไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่า แหล่งน้ำมันดิบทั่วประเทศไทย ทั้งบนบกและในทะเล มีมากมายมหาศาลเทียบเท่าซาอุดิอาราเบีย โดยมีการพบแหล่งหลุมแอบเจาะ เช่น พิจิตร กำแพงเพชร เท่าที่ทราบจากผู้รู้ น่าจะหลักร้อยหลุม และแถวอีสานก็มีแหล่งน้ำมันอีกเพียบ คิดดูว่าแถวอีสานบน เราเจอซากไดโนเสาร์ ตั้งหลายแห่ง คิดดูว่าแผ่นดินนี้เคยอุดมสมบูรณ์มาก่อนและเก่าแก่ขนาดไหน
ส่วนภาคเหนือแถวเชียงแสน เชียงราย เคยเป็นปล่องภูเขาไฟมาก่อน แร่ธาตุพวกถ่านหินเพียบ ลำปางก็แม่เมาะ และคนเชียงใหม่ จะรู้ไหมว่ามีถ่านหินเพียบ ในจังหวัดตัวเอง ลองถามคน อ.เวียงแหง และ กฟผ. ดูซิว่าจริงหรือไม่ เต็มร่องเขาเพชรบูรณ์ มีหลักฐานว่าเคยเป็นที่อยู่ใต้ทะเลลึกมาก่อน ปัจจุบันมีเหมืองทองทำใหญ่โตมโหราฬมาก และขยายพื้นที่ไปเรื่อยๆ ขนาดบนยอดเขา ยังมีซากประการังเป็นหิน พื้นที่ขนาดใหญ่หลายสิบไร่ มีแมงกระพรุนขนาดเล็กเท่าเหรียญห้า ในแอ่งน้ำจืด และหลักฐานอื่นๆ อีกมากมาย ประเทศไทยเรามั่งคั่งด้วยทรัพยากร ถ้ารัฐบริหารจัดการดีๆ คืนประโยชน์นั้นกลับมาให้คนไทยส่วนรวม คนไทยจะสุขสบายกว่านี้อีกมาก ซึ่งคงจะได้เห็นในยุค คสช.นี้ เพราะมีการตั้งบอร์ดพลังงานแห่งชาติไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวASTVผู้จัดการรายวัน ได้สืบค้นข้อมูลประเด็นจำนวนบ่อน้ำมันจากทั้งหมดเกือบ 6,000 หลุมขุดเจาะทั่วประเทศนั้น พบว่าเรื่องนี้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา และนักวิชาการอิสระเคยได้ให้สัมภาษณ์ นิตยสาร WHO ฉบับวันที่ 1ก.ย.2555 โดยระบุว่า "น้ำมันกับก๊าซเป็นเรื่องเดียวกัน รวมเรียกว่า ปิโตรเลียม ที่เกิดจากการย่อยสลายของซากพืชซากสัตว์ด้วยจุลินทรีย์ในที่ที่ไม่มีอากาศ (Anaerobic Digestion) ซากสิ่งมีชีวิตก็จะแตกตัวเป็นสารปิโตรเลียมเอง ดังนั้น ปิโตรเลียมก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบนบกและในทะเล
"ทุกวันนี้หลุมผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติมีมากถึง 2,768 หลุม แบบนี้ บอกว่าไม่มีน้ำมันคงไม่ได้ บนบกมีทั่วประเทศ เช่น แหล่งน้ำมันสิริกิติ์เป็นแหล่งที่ใหญ่มาก ครอบคลุม จ.กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และนครสวรรค์ ขุดขึ้นมาปีละ2000 ล้านลิตร เพชรบูรณ์ปีละ 94 ล้านลิตร สุพรรณบุรีปีละ 90 ล้านลิตร เชียงใหม่ปีละ 60 ล้านลิตร ส่วนในทะเลแหล่งใหญ่ๆ เช่น แหล่งบงกชสามารถขุดขึ้นมาปีละกว่า 1 หมี่นล้านลิตร เราอาจไม่ใช่ประเทศผลิตพลังงานอันดับหนึ่งหรือสองของโลกก็จริง แต่จากข้อมูลของกระทรวงพลังงานเอง ไทยจัดเป็นประเทศที่มีแหล่งพลังงานมากอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้"
ทั้งนี้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ ได้อธิบายถึงเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า ประเด็นที่ว่าประเทศไทยมีบ่อน้ำมันเกือบ 6,000 หลุมขุดเจาะทั่วประเทศนั้น แบ่งออกเป็นบ่อน้ำมัน 3 ประเภท คือ บ่อน้ำมันเพื่อการผลิต บ่อน้ำมันเพื่อการสำรวจ และบ่อน้ำมันเพื่อการพัฒนา ตัวเลข2,768 หลุม เป็นหลุมผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ได้งานได้ เพื่อแปรสภาพให้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปชนิดต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการประเด็นเด็ดเจ็ดสี ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้เผยแพร่รายงานกรณีที่ทหารกองบัญชาการกองทัพไทย และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบการลักลอบขุดเจาะน้ำมันดิบของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 จุดที่คาดว่าจะอยู่ในพื้นที่ป่าปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก. ซึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ มีบ่อน้ำมัน 95 บ่อ ในขณะที่ทั้งประเทศมีบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรวม 6,200 บ่อ
จากการตรวจสอบด้วยเครื่องจีพีเอส พบว่าอยู่ในพื้นที่ป่า สปก. จริง จึงมีคำสั่งให้หยุดเดินเครื่องจักรทุกตัว จากการตรวจสอบพบการขุดน้ำมันดิบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี ปริมาณไม่ต่ำกว่า 1,200 บาร์เรลต่อบ่อ มีบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งลำเลียงน้ำมันออกไม่ต่ำกว่าวันละ 3 เที่ยวต่อบ่อ ขัดแย้งกับเอกสารขออนุญาตกับ สปก. เพื่อการขุดน้ำมันใช้สำรวจปิโตรเลียมเท่านั้น
พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส นายทหารประจำกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบ เป็นที่ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ สปก. มีเอกสารประกอบ และทาง สปก. ยืนยันว่าเป็นที่ดินของ สปก. เมื่อความผิดสำเร็จชัดเจนแล้ว เจ้าพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาต่อไป
นายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ ที่ปรึกษาภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ กล่าวว่า การลักลอบขุดน้ำมันและนำออกจากบริเวณนี้ มีให้เห็นทุกวัน และเนื่องจากที่ผ่านมา ไม่จ่ายค่าภาคหลวง ทำให้สร้างความเสียหายต่อภาครัฐไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท โดยการเอื้อประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองในพื้นที่ให้กับบริษัททุนต่างชาติ
"สปก. ต้องร่วมรับผิดชอบ มีความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรมพลังงานก็มีความผิด เนื่องจากไม่ได้ติดตาม ทำให้รัฐเสียประโยชน์ในเรื่องน้ำมัน การที่ สปก. ให้อนุญาตแค่สำรวจเท่านั้น เป็นการยืนยันว่าประเทศไทยมีน้ำมัน มีก๊าซธรรมชาติ ปตท. หยุดเลิกโฆษณาชวนเชื่อเสียทีว่าน้ำมันจะหมดจากประเทศ" นายวิวัฒนชัยกล่าว
ทั้งนี้ หลังรายการออกอากาศแล้ว ได้มีการแชร์คลิปรายการในโซเชียลมีเดีย ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์แก่ผู้ที่สนใจความเคลื่อนไหวเรื่องพลังงานอย่างกว้างขวาง
สำหรับบ่อน้ำมันที่สั่งปิดไปนั้น กำลังการผลิตปริมาณไม่ต่ำกว่า 1,200 บาร์เรลต่อบ่อ หากคำนวณตามมาตราตวงแล้ว 1 บาร์เรลคิดเป็น 35 แกลลอนอังกฤษ หรือ 159.11 ลิตร เท่ากับผลิตน้ำมันดิบได้ 190,932 ลิตรต่อวัน และหากนับรวมกันทั้งปี (โดยคิดจากจำนวนวัน 365 วัน) จะผลิตน้ำมันดิบได้มากถึง 69,690,180 ลิตรต่อบ่อ และเมื่อคำนวณ 5 ปี จะผลิตน้ำมันได้มากถึง 348,450,900 ลิตร
อนึ่ง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ กำแพงนิล พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อน้ำมันดิบของบริษัท อีโก้ โอเรี้ยนท์ รีซอสเซส หรือ แพนโอเรี้ยน รีซอสเซส ประเทศไทย ในพื้นที่ ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หลังได้รับแจ้งว่าบริษัทดังกล่าวนี้ ได้ลักลอบขุดเจาะน้ำมันในเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ สปก. จำนวน 7 บ่อ ในพื้นที่ 7 แปลง
ผลการตรวจสอบพบว่า บ่อน้ำมันดิบในเขต สปก. จำนวน 6 บ่อ บริษัท แพนโอเรี้ยนท์ หยุดดำเนินการแล้ว เหลืออีก 1 บ่อ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านหนองบัวขาว ยังดำเนินการอยู่ โดยเจ้าหน้าที่บริษัทอ้างว่า อยู่นอกเขต สปก. จากการตรวจสอบบ่อน้ำมันดังกล่าว พบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ฝั่งซ้ายแม่น้ำป่าสักโซน E ที่กรมป่าไม้ ได้มอบให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดสรรให้เกษตรกร
อีกด้านหนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 ชาวบ้านใน ต.บ่อรัง ร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อตรวจสอบการผลิตน้ำมันปิโตรเลียมของบริษัท อีโค โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) ซึ่งนางหทัยรัตน์ ทองใจสด นายก อบต.บ่อรัง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่แหล่งขุดเจาะน้ำมันที่ตั้งอยู่ ได้กล่าวว่า ปัจจุบัน อบต.ได้รับการจัดสรรค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ลดลงเหลือแค่ร้อยละ 10 จากยอดเงินในปี 2552 ได้รับการจัดสรรถึง 17 ล้านบาทเศษ
โดยเพียงได้รับแจ้งว่า กำลังการผลิตลดลงและการใช้พื้นที่บางส่วน ยังไม่ได้รับอนุญาตจากทาง สปก. จึงต้องหยุดการผลิตจากแหล่งนี้ไว้ก่อน ส่วนปริมาณการผลิตที่ผ่านมามีเท่าไรนั้น ทาง อบต. ไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ที่ยังค้านสายตาชาวบ้านก็คือ รถบรรทุกน้ำมัน ยังมีจำนวนไม่แตกต่างไปจากเดิม ยังทำให้ถนนทรุดพัง เพราะน้ำหนักรถบรรทุกเกินมาตรฐาน อบต.ไม่มีงบประมาณพอเพียงจะไปซ่อมแซม