ASTVผู้จัดการรายวัน-สมาคมอสังหาฯภูเก็ต เดินหน้าจับมือ ฮาริสัน จัดประมูลอสังหาฯภูเก็ต "P-REA AUCTION 2014" ขน 500 โครงการร่วม เผยนักลงทุนจีน อังกฤษ ไทย สนประมูลยกโครงการกว่า 50 ราย คาดเม็ดเงินสะพัด 3,000 ล้าน
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวยอมรับว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯในภูเก็ตอาจมีการชะลอตัวลงไปบ้าง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีสินค้าเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก โดยปีที่ผ่านมามีคอนโดฯ เปิดใหม่มากถึงปีละ 10,000 ยูนิต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันคาดมีคอนโดฯสร้างเสร็จเหลือขายประมาณ 3,000-4,000 ยูนิต โดยคาดว่าจะใช้เวลาขายประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง หากไม่รวมสินค้าที่จะเข้าสู่ตลาดในปีนี้ ซึ่งโครงการที่เหลือขายส่วนใหญ่มียอดขายเลยจุดคุ้มทุนมาแล้วจึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
จากสินค้าที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การขายชะลอตัวลง ทำผู้ประกอบการเริ่มชะลอการลง โดยคาดว่าจำนวนโครงการเปิดใหม่จะลดลงประมาณ 40-50 % ส่งผลทำให้ยอดขายชะลอตัวตามไปด้วยในอัตราที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตามในด้านของยอดโอนกลับมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นถึง 20% เนื่องจากเป็นการซื้อล่วงหน้า โครงการพึ่งสร้างเสร็จและโอนในปีนี้
นายธนูศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และช่วยทำการตลาดให้แก่สมาชิก สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต จึงได้ร่วมกับ บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) โบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ ในการจัดงาน “P-REA AUCTION 2014” ด้วยการเปิดประมูลโครงการอสังหาฯ บนพื้นที่ทำเลทองของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งงานดังกล่าวจะเป็นรวบรวมโครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และที่ดินเปล่าในทำเลที่สามารถพัฒนาโครงการได้ในอนาคตเพื่อการลงทุนในภูเก็ต ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกด้อง กว่า 500 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท หากการจัดงานครั้งนี้ได้ผล ทางสมาคมพร้อมที่จะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง
“อสังหาฯส่วนใหญ่เป็นโครงการใหม่ ทั้งจากเจ้าของโครงการและลูกค้าฝากขายโดยที่ยังไม่ได้เข้าอยู่อาศัย บางโครงการเจ้าของซื้อขายเปลี่ยนมือทำให้ไม่ได้นำออกมาขายก็จะนำมาขายในงานนี้ บางโครงการเป็นยูนิตเหลือขาย ที่เจ้าของต้องการขายยกล็อต รวมไปถึงโรงแรม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักภาพ เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก มีท่องเที่ยวเดินทางมาปีละหลายล้านคนรวมไปถึงนักลงทุน การซื้อเพื่อลงทุนมีกำไรแน่นอน ทำให้ราคาอสังหาฯปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ด้านนายสหัชชัย ขวัญชื้น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดการประมูลของฮาริสัน ได้นำเอาเทคนิคที่ช่วยเร่งการขายด้วยการประมูล ที่กำหนดราคาขั้นต่ำ และขายให้กับผู้ที่ให้ราคาประมูลสูงสุดมาใช้ ทำให้ฮาริสันได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเพราะต่างพึงพอใจในราคา นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าชมทรัพย์ก่อนการประมูล หรือ Open House ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าและผู้สนใจ เพราะทรัพย์ที่นำเข้าร่วมประมูลมีความโดดเด่นในเรื่องทำเล ที่ตั้ง
โดยการประมูลในครั้งนี้ มีกลุ่มลูกค้านักลงทุนแสดงความสนใจร่วมประมูลจำนวนมาก โดยต้องการประมูลแบบยกล็อต รวมถึงประมูลแบบยกโครงการ โดยเป็นกลุ่มนักลงทุนชาวไทยประมาณ 20 ราย ส่วนนักลงทุนต่างชาติที่แสดงความสนใจลงทุนในภูเก็ตมากที่สุดในขณะนี้คือ กลุ่มชาวจีน โดยแสดงความจำนงค์เข้าร่วมประมูลเกือบ 30 ราย บางส่วนได้บินมาดูทรัพย์บ้างแล้ว นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนชาวอังกฤษที่สนใจประมูล รวมไปถึงลูกค้าทั่วไป โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถประมูลได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายของฮาริสัน ในปี 2557 นี้จะรุกตลาดประมูลในจังหวัดที่มีศักยภาพ และแหล่งท่องเที่ยว สำคัญ เช่น เชียงใหม่, พัทยา, ภูเก็ต และหัวหินให้มากขึ้น เชื่อว่าภายในปี 2557 จะสามารถสร้างรายได้ให้ฮาริสันอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวยอมรับว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯในภูเก็ตอาจมีการชะลอตัวลงไปบ้าง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีสินค้าเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก โดยปีที่ผ่านมามีคอนโดฯ เปิดใหม่มากถึงปีละ 10,000 ยูนิต ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันคาดมีคอนโดฯสร้างเสร็จเหลือขายประมาณ 3,000-4,000 ยูนิต โดยคาดว่าจะใช้เวลาขายประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง หากไม่รวมสินค้าที่จะเข้าสู่ตลาดในปีนี้ ซึ่งโครงการที่เหลือขายส่วนใหญ่มียอดขายเลยจุดคุ้มทุนมาแล้วจึงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
จากสินค้าที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การขายชะลอตัวลง ทำผู้ประกอบการเริ่มชะลอการลง โดยคาดว่าจำนวนโครงการเปิดใหม่จะลดลงประมาณ 40-50 % ส่งผลทำให้ยอดขายชะลอตัวตามไปด้วยในอัตราที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตามในด้านของยอดโอนกลับมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นถึง 20% เนื่องจากเป็นการซื้อล่วงหน้า โครงการพึ่งสร้างเสร็จและโอนในปีนี้
นายธนูศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และช่วยทำการตลาดให้แก่สมาชิก สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต จึงได้ร่วมกับ บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) โบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ ในการจัดงาน “P-REA AUCTION 2014” ด้วยการเปิดประมูลโครงการอสังหาฯ บนพื้นที่ทำเลทองของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งงานดังกล่าวจะเป็นรวบรวมโครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และที่ดินเปล่าในทำเลที่สามารถพัฒนาโครงการได้ในอนาคตเพื่อการลงทุนในภูเก็ต ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกด้อง กว่า 500 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท หากการจัดงานครั้งนี้ได้ผล ทางสมาคมพร้อมที่จะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง
“อสังหาฯส่วนใหญ่เป็นโครงการใหม่ ทั้งจากเจ้าของโครงการและลูกค้าฝากขายโดยที่ยังไม่ได้เข้าอยู่อาศัย บางโครงการเจ้าของซื้อขายเปลี่ยนมือทำให้ไม่ได้นำออกมาขายก็จะนำมาขายในงานนี้ บางโครงการเป็นยูนิตเหลือขาย ที่เจ้าของต้องการขายยกล็อต รวมไปถึงโรงแรม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักภาพ เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก มีท่องเที่ยวเดินทางมาปีละหลายล้านคนรวมไปถึงนักลงทุน การซื้อเพื่อลงทุนมีกำไรแน่นอน ทำให้ราคาอสังหาฯปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ด้านนายสหัชชัย ขวัญชื้น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดการประมูลของฮาริสัน ได้นำเอาเทคนิคที่ช่วยเร่งการขายด้วยการประมูล ที่กำหนดราคาขั้นต่ำ และขายให้กับผู้ที่ให้ราคาประมูลสูงสุดมาใช้ ทำให้ฮาริสันได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเพราะต่างพึงพอใจในราคา นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าชมทรัพย์ก่อนการประมูล หรือ Open House ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าและผู้สนใจ เพราะทรัพย์ที่นำเข้าร่วมประมูลมีความโดดเด่นในเรื่องทำเล ที่ตั้ง
โดยการประมูลในครั้งนี้ มีกลุ่มลูกค้านักลงทุนแสดงความสนใจร่วมประมูลจำนวนมาก โดยต้องการประมูลแบบยกล็อต รวมถึงประมูลแบบยกโครงการ โดยเป็นกลุ่มนักลงทุนชาวไทยประมาณ 20 ราย ส่วนนักลงทุนต่างชาติที่แสดงความสนใจลงทุนในภูเก็ตมากที่สุดในขณะนี้คือ กลุ่มชาวจีน โดยแสดงความจำนงค์เข้าร่วมประมูลเกือบ 30 ราย บางส่วนได้บินมาดูทรัพย์บ้างแล้ว นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนชาวอังกฤษที่สนใจประมูล รวมไปถึงลูกค้าทั่วไป โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถประมูลได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายของฮาริสัน ในปี 2557 นี้จะรุกตลาดประมูลในจังหวัดที่มีศักยภาพ และแหล่งท่องเที่ยว สำคัญ เช่น เชียงใหม่, พัทยา, ภูเก็ต และหัวหินให้มากขึ้น เชื่อว่าภายในปี 2557 จะสามารถสร้างรายได้ให้ฮาริสันอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท