ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -28 เมษายน 2557 นักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตรได้สไกป์เข้ามายังที่ประชุมพรรคเพื่อไทยว่า เขาจะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มอดีต ส.ส.ภาคอีสานที่จะจัดชุมนุมคู่ขนานกับการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) .พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า อย่ามีเรื่อง หรือใช้ความรุนแรงใดๆ
“ การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีให้นายกรัฐมนตรีพ้นสภาพนั้น ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก อย่างมาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็พ้นสภาพนายกฯ เราก็สู้ต่อไป เพราะจะมีรองนายกฯ คนอื่นมาทำหน้าที่แทน”
ชัดเจน แจ่มแจ้งว่าศึกนี้เขาจะใช้ข้าทาสบริวารบรรดาอดีตส.ส.อีสานจัดเวทีคู่ขนานไปกับกลุ่มนปช. ที่มีจตุพร พรหมพันธุ์ กับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อเป็นแม่ทัพใหญ่คุมหัวจักรขบวน
อย่างไรก็ตาม งานนี้ก็ต้องมีการซักซ้อมระดมมวลชนเสื้อแดงเอาไว้มากๆเป็น เพราะนับจากนี้ชะตากรรมน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนับว่าอยู่ในช่วงหัวพาดเขียง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีความน.ส.ยิ่งลักษณ์โดยเฉพาะคดีโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) โดยจะไต่สวนปิดคดีในวันที่ 6 พ.ค.นี้ ซึ่งแม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะมีคำตัดสินคดีเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่แน่ว่าศาลอาจจะตัดสินออกมาทันทีหลังจากไต่สวนคดีเสร็จในวันที่ 6 พ.ค. หรืออย่างช้าที่สุดก็ 7 วันหลังจากนั้น
และนี่จึงเป็นเหตุผลที่นายใหญ่คนเสื้อแดงต้องสไกป์เข้ามากลางที่ประชุมเพื่อให้สมุนข้าทาสบริวารจัดเวทีเดินสายกล่อมมวลชนเสื้อแดงเอาไว้ให้มากๆ เพื่อเปิดศึกท้าชนองค์กรอิสระเพราะหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมาอันส่งผลให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องหลุดจากนายกรักษาการ ก็จะได้มีหมากเอาไว้เดินเกมต่อ
ทั้งนี้ อดีตส.ส.อีสานจะทำการจัดชุมนุมปราศรัยในภาคอีสานภายใต้นามว่า “ขบวนการคนอีสานปกป้องประชาธิปไตย” ซึ่งเริ่มระดมพลตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.ไปจนถึงวันที่ 8 พ.ค.57
ส่วนทางด้านกลุ่มนปช.เองก็ได้ประกาศเคลื่อนพลหยุดล้มล้างประชาธิปไตย ทั้ง 6จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ พิจิตร อุตรดิตถ์ ลพบุรี สุพรรณบุรี โดยมีการเดินสายปลุกระดมมวลชนเพื่อเป็นซักซ้อมก่อน เพราะของจริงจะเคลื่อนทัพเข้าถนนอักษะในวันที่ 5 พ.ค. โดยนายจตุพรกล่าวว่า จะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และยังย้ำอีกว่า จะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหากแพ้จะต้องยอมจำนนตลอดไป อีกทั้งการชุมนุมครั้งนี้ได้ประกาศเลื่อนวันลั่นกลองรบมาเป็นวันเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณคือวันที่ 5 พ.ค.
“ ที่ทางกลุ่ม นปช. ประกาศเลือกชุมนุมวันที่ 5 พฤษภาคมนั้น เนื่องจากคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีสถานภาพนายกรัฐมนตรีวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ จึงประกาศชุมนุมล่วงหน้า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยืนยันว่ากลุ่ม นปช.จะไม่ให้เกิดความรุนแรงและการนองเลือด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้ขบวนการล้มประชาธิปไตยผลักดันให้เกิดนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ตามความต้องการของกปปส. และเชื่อว่าสิ่งเดียวที่ขบวนการดังกล่าวจะทำได้คือต้องมีการรัฐประหารเพียงอย่างเดียว”
“และจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นัดชุมนุมใหญ่ กปปส.วันที่ 5 พฤษภาคมนี้ เชื่อว่าจะมีการปิดกั้นเส้นทางคนเสื้อแดง ที่จะนัดชุมนุมใหญ่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน นปช.ขอประกาศเลื่อนวันชุมนุมใหญ่เป็นวันที่ 5 พฤษภาคม นี้ ที่ถนนอักษะ กำหนดเป็นวันปราบกบฏ พร้อมเชิญชวนให้คนเสื้อแดงทั่วประเทศ เดินทางร่วมชุมนุมให้มากที่สุด ความชัดเจน จะมีการแถลงอีกครั้ง”นายจตุพรประกาศ
เรียกได้ว่า ศึกระดมมวลชนเสื้อแดงคราวนี้ ไม่ต้องเท้าความกันให้มากก็พอจะเดาออกว่า มีขึ้นเพื่อไว้ใช้กล่อมมวลชนเสื้อแดงให้เตรียมความพร้อม เพราะหากองค์กรอิสระเกิดตัดสินคดีความแล้วผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับนายใหญ่ขึ้นมาแล้ว จะได้มีกลุ่มองครักษ์พิทักษ์ปูออกมาขี้แพ้ชวนตี เรียกร้องว่าศาลตัดสินไม่เป็นธรรมได้ทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม การเรียกระดมพลครั้งนี้ก็คงจะมาไม่ถึงเรือนหมื่น เรือนแสนอีกเช่นเคย เพราะเคยมีปรากฏการณ์มาให้เห็นกันแล้ว ในครั้งที่นายจตุพรกับนายณัฐวุฒิที่ได้ทำการจัดชุมนุมใหญ่ที่ถนนอักษะ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ปรากฏว่าแป๊ก ไม่เห็นว่าจะมีมวลชนมากันถึงเรือนแสนอย่างที่คุยโวเอาไว้ เห็นก็แต่ทิ้งไว้แต่เศษขยะเกลื่อนกล่น
แต่ที่รู้ๆอยู่ก็คือ ดีกว่าจะปล่อยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเผชิญชะตากรรมแบบเสียวสันหลังตามลำพัง อย่างน้อยก็ช่วยซื้อเวลาให้ข้าศึกโจมตีถึงตัวขุนได้ยากยิ่งขึ้น ก็ต้องเล่นสงครามกล่อมมวลชนและใส่ร้ายองค์กรอิสระว่าทำหน้าที่ไม่เป็นธรรม ก้าวก่ายอำนาจบริหาร ทำการงัดวาทะไม้ตายที่เด็ดสุดยอดออกมาพูดก็คือ ถูกอำมาตย์กลั่นแกล้ง ไม่เป็นประชาธิปไตย
เวลานี้นับว่าระเบิดเวลาใกล้บึ้มเข้ามาเต็มทีแล้ว ก็ต้องมาคอยติดตามกันเอาว่า บรรดาสมุนข้าทาสบริวารทักษิณจะทำหน้าที่เป็นปราการด่านพิทักษ์น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้แค่ไหนกันเชียว.