ASTVผู้จัดการรายวัน- “บีโอไอ”สุดปลื้มค่ายรถแห่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนผลิตรถอีโคคาร์ 2 สูงถึง 10 รายโดยแบ่งเป็นรายเก่า 5 รายได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มิตซู และซูซูกิ และรายใหม่ 5 รายที่คาดว่าจะมีมาสด้า ฟอร์ด GM VW และMG มูลค่าลงทุนรวม 1.38แสนล้านบาทกำลังผลิตรวม 1.5 ล้านคัน โดยมูลค่าลงทุนสูงกว่าอีโคคาร์แรกกว่าแสนล้านบาท
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการปิดรับคำขอรับส่งเสริมการลงทุนของโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 หรือ อีโคคาร์ 2 ซึ่งเปิดให้ภาคเอกชนยื่นขอรับส่งเสริมมาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2556 และครบกำหนดในช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมพบว่ามีบริษัทยื่นขอรับส่งเสริมทั้งสิ้น 10 ราย รวมมูลค่าเงินลงทุน 138,889 ล้านบาท รวมกำลังการผลิต 1,581,000 คัน
“การเปิดให้ยื่นครั้งนี้ถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากเกินคาดสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกและยังส่งผลดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุนภายในประเทศโดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนของไทยที่จะต้องผลิตป้อนให้กับค่ายรถยนต์ใช้ในการผลิตอีโคคาร์ 2 ด้วยและที่สำคัญจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศไทยผลิตรถยนต์ได้ตามเป้าหมาย 3 ล้านคันภายในปี 2560 ”นายอุดมกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 10 ราย ที่ยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนโครงการอีโคคาร์ 2 แบ่งเป็นผู้ผลิตรายใหม่จำนวน 5 ราย เงินลงทุนรวม 86,810 ล้านบาท กำลังการผลิตรวม 753,000 คัน และผู้ผลิตรายเดิมจำนวน 5 ราย เงินลงทุนรวม 52,079 ล้านบาท กำลังการผลิตรวม 828,000 คัน โดยขั้นตอนหลังจากนี้ บีโอไอจะได้มีการพิจารณา รายละเอียดคำขอของแต่ละรายว่าเป็นไปตามเกณฑ์และข้อกำหนดที่ระบุไว้ในประกาศของบีโอไอหรือไม่ เมื่อโครงการที่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดครบถ้วน ก็จะได้นำเสนอคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอทันทีที่มีการแต่งตั้ง เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าได้ตามแผนงาน และในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางบีโอไอยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อของค่ายรถที่ยื่นครั้งนี้ได้เนื่องจากหลายค่ายรถยนต์ได้ขอไม่ให้เปิดเผยจนกว่าจะได้รับการอนุมัติ โดยค่ายรถเดิมที่เข้าร่วมในโครงการแรกและได้ยื่นเฟส 2 ต่อ 5 รายได้แก่ โตโยต้า ,ซูซูกิ,นิสสัน,ฮอนด้าและมิตซูบิชิ ด้านรายใหม่ที่ประกาศจะเข้าร่วมในโครงการเฟส 2 ที่ผ่านมาคาดว่าจะมี ฟอร์ด ,มาสด้า ,เจเนอรัลมอเตอร์(GM) โฟล์คสวาเกน(VW) และ MG เครือซีพี
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการปิดรับคำขอรับส่งเสริมการลงทุนของโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 หรือ อีโคคาร์ 2 ซึ่งเปิดให้ภาคเอกชนยื่นขอรับส่งเสริมมาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2556 และครบกำหนดในช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมพบว่ามีบริษัทยื่นขอรับส่งเสริมทั้งสิ้น 10 ราย รวมมูลค่าเงินลงทุน 138,889 ล้านบาท รวมกำลังการผลิต 1,581,000 คัน
“การเปิดให้ยื่นครั้งนี้ถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากเกินคาดสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกและยังส่งผลดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุนภายในประเทศโดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนของไทยที่จะต้องผลิตป้อนให้กับค่ายรถยนต์ใช้ในการผลิตอีโคคาร์ 2 ด้วยและที่สำคัญจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศไทยผลิตรถยนต์ได้ตามเป้าหมาย 3 ล้านคันภายในปี 2560 ”นายอุดมกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 10 ราย ที่ยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนโครงการอีโคคาร์ 2 แบ่งเป็นผู้ผลิตรายใหม่จำนวน 5 ราย เงินลงทุนรวม 86,810 ล้านบาท กำลังการผลิตรวม 753,000 คัน และผู้ผลิตรายเดิมจำนวน 5 ราย เงินลงทุนรวม 52,079 ล้านบาท กำลังการผลิตรวม 828,000 คัน โดยขั้นตอนหลังจากนี้ บีโอไอจะได้มีการพิจารณา รายละเอียดคำขอของแต่ละรายว่าเป็นไปตามเกณฑ์และข้อกำหนดที่ระบุไว้ในประกาศของบีโอไอหรือไม่ เมื่อโครงการที่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดครบถ้วน ก็จะได้นำเสนอคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอทันทีที่มีการแต่งตั้ง เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าได้ตามแผนงาน และในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางบีโอไอยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อของค่ายรถที่ยื่นครั้งนี้ได้เนื่องจากหลายค่ายรถยนต์ได้ขอไม่ให้เปิดเผยจนกว่าจะได้รับการอนุมัติ โดยค่ายรถเดิมที่เข้าร่วมในโครงการแรกและได้ยื่นเฟส 2 ต่อ 5 รายได้แก่ โตโยต้า ,ซูซูกิ,นิสสัน,ฮอนด้าและมิตซูบิชิ ด้านรายใหม่ที่ประกาศจะเข้าร่วมในโครงการเฟส 2 ที่ผ่านมาคาดว่าจะมี ฟอร์ด ,มาสด้า ,เจเนอรัลมอเตอร์(GM) โฟล์คสวาเกน(VW) และ MG เครือซีพี
