ทำเอากองทัพบกสะเทือนเลื่อนลั่นกันเลยทีเดียว เมื่อ “โกตี๋” หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ประกาศเปรี้ยงออกมาชัดถ้อยชัดคำว่า “โกตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกเป็นคนออกคำสั่งให้ทหารไล่ล่าและไล่สังหาร
หรือพูดง่ายๆ ว่า โกตี๋กล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนสั่งฆ่า
งานนี้ คงต้องขอคารวะโกตี๋สัก 3 จอก เพราะการประกาศท้ารบกับผู้บัญชาการทหารบกนั้น ไม่ใช่เรื่องธรรมดา
คำถามก็คือ โกตี๋มีดีอะไรถึงได้กล้าท้าชนกับบิ๊กตู่แบบไม่อ้อมค้อมเช่นนี้
คำถามก็คือ โกตี๋มั่นใจอะไรถึงได้ปักใจเชื่อว่าบิ๊กตู่เป็นคนสั่งฆ่า
แน่นอน ต้องไม่ลืมว่า โกตี๋คือแกนนำคนเสื้อแดงที่มีกองกำลังและ “ของ” อยู่ในมือไม่น้อย
แน่นอน ต้องไม่ลืมว่า โกตี๋ไม่ใช่แกนนำคนเสื้อแดงธรรมดาหากแต่เป็นแกนนำระดับเพชรที่มี “ตำรวจ” อ้าขาปกป้องและคุ้มกะลาหัวอยู่ โดยลูกพี่ของโกตี๋ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตัวจริงที่มีชื่อว่า “แจ๊ด” เจ้าของฉายา “มีวันนี้เพราะพี่ให้”
เป็นโกตี๋ที่แจ๊ดเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี
เป็นโกตี๋ที่สามารถเข้านอกออกในทั้งที่ทำงานและที่บ้านแจ๊ดได้เสมอ
หลังจากโกตี๋กล่าวหาบิ๊กตู่ 1 วัน....วันรุ่งขึ้น สิ่งที่สังคมได้รับรู้ปฏิกิริยาของบิ๊กตู่ก็คือคำให้สัมภาษณ์ว่า “เขาเป็นใคร ผมไม่ให้ความสนใจขนาดนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรนอกกฎหมายได้อยู่แล้ว ควรไปคิดว่าควรเชื่อเขา หรือเชื่อผม ส่วนจะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่ เป็นเรื่องของกฎหมายที่ต้องว่ากันไป”
ดังนั้น คงต้องติดตามเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิดแล้ว บิ๊กตู่จะมีปัญญาจัดการอะไรกับโกตี๋หรือไม่ หรือทำได้แค่คำรามจนคอแหบคอแห้งไปเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เพราะการที่บิ๊กตู่ปล่อยให้กุ๊ยข้างถนนคนหนึ่งออกมาหยามเกียรติซึ่งๆ หน้าแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า เสียศักดิ์ศรีของกองทัพแบบที่ไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกหีบเลือกตั้งใบไหนได้เลยทีเดียว
ไปที่เรื่องอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจาก บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) นำโดย คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงานแถลงข่าวเปิดแผนธุรกิจ ปี2014 อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ณ อาร์เอส ฮอลล์ บมจ.อาร์เอส ภายใต้คอนเซปต์RS Media Revolutionist 2014 ผู้ปฏิวัติวงการสร้างสรรค์ผลงานบันเทิงคุณภาพด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จจากการสร้างเครือข่ายมีเดียในปีที่ผ่านมาให้แข็งแกร่ง ยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2014 อยู่ที่ 5,000ล้านบาท และเติบโต 43 % พร้อมนำช่อง8 ดิจิตอลฟรีทีวี มาเป็นหัวหอกขับเคลื่อนธุรกิจ
ตามต่อด้วยกิตยาภรณ์ ชัยถาวรเสถียร (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่าย กลุ่มผลิตภัณฑ์ Guy Laroche บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) สุชาติ ลายลักษณ์ศิริ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ Guy Laroche และ DAKS พร้อมด้วยเหล่าศิลปินดารา และผู้ให้การสนับสนุนกิจกรรม ให้เกียรติมาร่วมงานและเป็นสักขีพยานในพิธีจับรายชื่อผู้โชคดีในแคมเปญโชคข้ามขอบฟ้า ปี 4 ตอน ‘Romance Trips’ ณ ห้องจามจุรี โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในเชิงสังคมเพื่อขอบคุณและคืนกำไรให้กับลูกค้า โดยนำผู้โชคดี5 คู่บินลัดฟ้าไปท่องเที่ยวยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ ประเทศอิตาลี ถึง 9 วัน 6คืน มูลค่ากว่า 900,000.00 บาท
และปิดท้ายกับเหลียง หง เซิง รองผู้แทนรัฐบาล สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิด งาน “The Glory Eden 2014 @CentralPlaza Rama 3” ผลิบานความสุข ฉลองตรุษสุดอัศจรรย์เพื่อมอบเป็นของขวัญแห่งความสุขให้แก่กัน ภายในงานมี มุกดา เอื้อวัฒนะสกุล, รัตนา,สุทธิภัค จิราธิวัฒน์,ปานจิตร สันทัดกลการ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพมหานคร รณิดา รตนชัยโชค ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 โดนัท - มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล เข้าร่วมงาน ณ ลานลิฟท์แก้ว ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com
คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน รักเร้นในโลกคู่ขนาน SPUTNIK SWEETHEART
ความซับซ้อนในด้านอารมณ์แห่งความรัก ที่โหมกระหน่ำจนยากจะ ควบคุม เป็นความรักที่เดินทางย้อนแย้งที่ต่างฝ่ายต่างปรารถนาจะครอบครองทั้งหัวใจและเรือนร่าง
หนังสือรักเร้นในโลกคู่ขนาน ผลงานของ ฮารูกิ มูราคามิ เต็มไปด้วยความคมคายของบทสนทนา มูราคามิจะกรีดลึกเข้าไปถึงความสับสนของผู้คน ความขัดแย้งด้านความต้องการ เปลี่ยวเหงา อ้างว้างได้อย่างได้หมดเปลือก
กลวิธีในการดำเนินเรื่องของมูราคามิคล้ายกับหนังสือของเขามีเวทมนต์เสมอ มีมิติซับซ้อนชวนอ่าน แล้วด้วยบทสนทนาที่เป็นเสมือนการตั้งคำถามของผู้คนในยุคปัจจุบันด้วยแล้ว ก็ยากที่จะละจากเรื่องราวของเขาเข้าสู่กิจวัตรปกติได้
ฤดูใบไม้ผลิที่ยี่สิบสอง สุมิเระตกหลุมรักเป็นครั้งแรกในชีวิต รักเข้มข้นดูดดื่ม ความรักที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่พอจะสถาปนาเป็นอนุสาวรีย์ได้ ผู้ที่เธอหลงรักอายุแก่กว่าเธอ 17 ปี แต่งงานแล้ว และน่าจะเพิ่มเติมด้วยว่า 'เป็นสตรี'
แต่ด้วยความรักที่เกิดขึ้น มูราคามิยังเพิ่มความซับซ้อนลงไปอีก เมื่อตัวละครที่ทำหน้าที่ดำเนินเรื่องระหว่างสุมิเระที่ตกหลุมรักมิว เขาก็กลับมีความรู้สึกที่ยากจะหักห้ามใจที่มีให้สุมิเระเช่นกัน..
ทำไมคนเราถึงได้เหงาขนาดนี้ คำอธิบายแท้จริงซ่อนอยู่ที่ไหน คนบนโลกนับล้านคน ทุกผู้ทุกคนโหยหาใครสักคน ที่จะมาปลอบประโลมให้คลายเหงา แต่ก็กระถดตัวหนี ปลีกตัวไปอยู่เดียวดาย ทำไม....
เป็นไปได้หรือไม่ว่า โลกถูกส่งให้มาลอยดวงกลางอวกาศเวิ้งว้าง เพียงเพื่อให้เป็นที่พำนักของคนเหงา
และผลงานของมูราคามิเล่มนี้ได้เล่นกับความรู้สึกอ่อนไหวของผู้คน แยกย่อยความหมายจนบางครั้งการอ่านงานของเขา ก็เหมือนกับทำความรู้จักตัวเราเอง
ลองซื้อมาอ่านดู..แล้วคุณจะเข้าใจความรักบนโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น