xs
xsm
sm
md
lg

คลังจำนนจีดีพีปี56โตแค่2.8%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สศค.ปรับลดจีดีพีปี 56 โตแค่ 2.8% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าส่งผลกระทบต่อการส่งออก ส่วนการจับจ่ายใช้สอยในประเทศชะลอ การลงทุนมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ คาดถึงจุดต่ำสุดแล้ว มั่นใจปีหน้าเติบโตได้ 4% โดยมีภาคส่งออกที่ฟื้นตัวกับการอุปโภคบริโภคภายในประเทศเป็นปัจจัยหนุน

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แถลงคาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2556 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.8 ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ร้อยละ 3.7 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างล่าช้าส่งผลกระทบให้ความต้องการสินค้าส่งออกของไทยลดลง ประกอบกับอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่ปรับตัวลดลงและส่งผลให้ครัวเรือนและภาคธุรกิจระมัดระวังการใช้จ่ายและการลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐยังมีแนวโน้มลดลงจากที่เคยคาดไว้ อันเป็นผลมาจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณและการเบิกจ่ายเม็ดเงินตามแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าและบริการคาดว่าจะเติบโตในอัตราเร่งขึ้นจากปีก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากการส่งออกด้านบริการที่จะขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเกือบทุกภูมิภาค
สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2556 จะอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ลดลงจากปีก่อนหน้า ตามการชะลอตัวลงของอุปสงค์ภาคเอกชนประกอบกับราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลงอันเป็นผลมาจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอลง
นายสมชัยกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2557 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นมาขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5 – 4.5) ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ร้อยละ 5.1 โดยมีปัจจัยหลักจากการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่อาจมีความล่าช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะการเบิกจ่ายเม็ดเงินตามแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ตามคำสั่งของศาลปกครอง และการเบิกจ่ายเม็ดเงินตามแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่อยู่ระหว่างรอผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนการประกาศยุบสภาของรัฐบาลยังคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐให้เกิดความล่าช้าได้
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะยังคงได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการ นอกจากนี้ สถานการณ์การจ้างงานที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำจะช่วยสนับสนุนให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนสามารถขยายตัวได้ ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2557 จะอยู่ที่ร้อยละ 2.4 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.9 – 2.9) ตามอุปสงค์ภาคเอกชนที่ดีขึ้น”
“หากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองยืดเยื้อออกไปจะส่งผลกระทบทางลบต่อการท่องเที่ยวของไทย ผ่านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังประเทศไทยที่คาดว่าอาจลดลงถึง 3 แสนคน และอาจส่งผลให้การเบิกจ่ายโครงการลงทุนของภาครัฐมีความล่าช้าออกไปอีก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 – 4.0) จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.1%" ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกล่าวและว่า ในการประมาณการเศรษฐกิจยังต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยง อาทิ การดำเนินนโยบายทางการเงินของประเทศพัฒนาแล้วที่อาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนของไทย ภัยธรรมชาติและโรคระบาด อีกทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานในบางสาขาอุตสาหกรรม.
กำลังโหลดความคิดเห็น