บลจ.กสิกรไทยมั่นใจปี 57 ยังยึดเบอร์หนึ่งธุรกิจกองทุน กวาดสินทรัพย์รวมเพิ่มทะลุหลักล้านล้านบาท ระบุเศรษฐกิจโลกปีหน้าฟื้นตัวหนุนสินทรัพย์เสี่ยงน่าลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ส่วนดอกเบี้ยปีหน้าอาจปรับช่วงท้ายปีแต่ไม่น่าเกิน 3%
นายจงรัก รัตนเพียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทเชื่อว่าจะยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านธุรกิจกองทุนอีกเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยคาดว่าในปี 2557 จะมีสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 1.05 ล้านล้านบาท ส่วนในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 9.3 แสนล้านบาท ซึ่งในปีหน้าแนวโน้มของธุรกิจกองทุนคงจะมีการแข่งขันมากขึ้น หลังจากที่คนไทยเริ่มมีความเข้าใจการลงทุนผ่านกองทุนรวมมากขึ้นกว่าในอดีต
ทั้งนี้ การเติบโตในปีหน้าของบริษัทเชื่อว่าจะใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม ซึ่งกองทุนรวมถือว่ายังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมากหากเทียบกับฐานเงินฝากที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยการเติบโตของบริษัทน่าจะรักษาการเป็นผู้นำทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ กองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
“เราคงจะรักษาระยะห่างจากที่ 2 ประมาณแสนกว่าล้าน ซึ่งจะต้องจับตาในส่วนของกองทุนรวมเพราะมีความเป็นไปได้ที่คู่แข่งจะสามารถเพิ่มขนาดสินทรัพย์จากกองอสังหาฯ แต่ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคงยาก เพราะกองส่วนบุคคลยังห่างอยู่เป็นหลักหมื่นล้าน และถ้าจะเพิ่มจริงๆ ขนาดจะอยู่แค่หลักพันล้านบาทเท่านั้น”
นายจงรัก กล่าวอีกว่า ในปีหน้าบริษัทเชื่อว่าการลงทุนในต่างประเทศจะน่าสนใจมากขึ้น หลังจากที่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะขยายตัวได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงยังคงมีความน่าสนใจมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยน่าจะยังอยู่ในระดับต่ำ โดยการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้วจะได้เปรียบการลงทุนในประเทศเกิดใหม่ และคาดว่าเงินทุนจะไหลเข้าไปลงทุนใน 3 ตลาดหลัก อย่างสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นมากขึ้น รวมถึงการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเหนือ
ส่วนตลาดหุ้นไทยปีหน้าดัชนีน่าจะปรับตัวอยู่ในกรอบ 1,300-1,520 จุด แต่จะต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานของเศรษฐกิจหลังจากนี้ที่ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตได้ 4% หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงหากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการส่งออกที่ฟื้นตัวจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม คาดว่าการปรับตัวคงจะไม่ปรับลดลงไปมากเหมือนปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะยังเติบโตได้ในระดับ 17-18%
ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเชื่อว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 2.25% ไปจนถึงกลางปีหน้า และอาจมีการปรับขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่จะต้องดูปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยหากมีการปรับขึ้นคงจะไม่เกิน 3%
“การลงทุนในตลาดหุ้นไทย บลจ.กสิกรไทยมองว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนยังคงเติบโตได้ดีจากการบริโภคในประเทศ ซึ่งกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ส่งออก สินค้าโภคภัณฑ์ และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ บริษัทจะเน้นระยะเวลาลงทุนในระดับปานกลางเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในลักษณะผ่อนคลาย โดยที่ยังคงเน้นการลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐ ซึ่งเชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้ามาลงทุนกับตราสารหนี้ในประเทศ และจะทยอยเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ธนาคาร โดยเฉพาะสถาบันการเงินภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทนดี”