ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ยังมีข้อถกเถียงในเชิงตั้งคำถามกันทั้งในวงลับ-วงไม่ลับ ว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จะเกิดขึ้นหรือไม่
เพราะสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่นำโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ”ยังคงเดินหน้าของให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง
สวนทางกับแนวคิดของเพื่อไทย ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยมาคุยเรื่องปฏิรูปทีหลัง
กปปส.ต้องการเปลี่ยนกติกาก่อน หากใช้กติกาเดิมก็เตรียมตัว เตรียมใจแพ้วันยังค่ำ เพราะพื้นที่ฐานเสียงของประชาธิปัตย์ ยังเป็นรอง เพื่อไทย อยู่หลายขุม
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า ประชาธิปัตย์ จะบอยคอตการเลือกตั้งหรือไม่ แต่หากไม่มีการปฏิรูปก่อน โอกาสที่ กปปส.และ ประชาธิปัตย์ จะพ่ายแพ้ศึกที่ยอมทุ่มหมดหน้าตักครั้งนี้มีเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ปิดประตูเดินเข้าสู่ฐานอำนาจจนแทบจะมืดมิด หมดสิทธิ์จะกรุยทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลแน่นอน
ตรงกันข้ามกับ เพื่อไทย ไม่มีทางที่จะเห็นด้วยกับการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งเป็นแน่ เพราะต้องการรักษาฐานอำนาจเอาไว้ หากปล่อยให้ มีการปฏิรูป กฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดขึ้นมาใหม่ ซ่อนเล่ห์ซ่อนกล วางกับดักอะไรเอาไว้อีก
ดังนั้นเข็มทิศของ เพื่อไทย จึงมุ่งไปที่การเลือกตั้ง ไม่หยุดที่จะข้องแวะเพื่อต่อรองกับขั้วตรงข้ามให้เสียเวลา
บรรยากาศบนที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จึงเต็มไปด้วย “นักเลือกตั้ง”ที่เดินเข้าออกกันให้ฝุ่นตลบ ทั้งบรรดานักการเมืองแถว 1 (ไทยรักไทย) แถว 2 (พลังประชาชน) แถว 3 (เพื่อไทย) และบรรดานักการเมืองชื่อเก่า แต่หน้าใหม่ใน เพื่อไทย
อุปสรรคของ เพื่อไทยวันนี้ ไม่ใช่ขาดตัวผู้สมัคร ส.ส. แต่ปัญหาอยู่ที่จะส่งใครเป็นตัวแทนลงสมัคร การกลับมาของแถว 1 แถว 2 และการย้ายข้ามขั้วของ “มิตรเก่า”มาเป็น“สหายใหม่” ทำให้แกนนำเพื่อไทยตัดสินใจยากขึ้น
“กลุ่มมัชฌิมา”นำโดย “สมศักดิ์ เทพสุทิน”หอบส.ส.ในสังกัด เก็บข้าวของลาออกจากภูมิใจไทยมาซบตักพรรคของ“นายเก่า” อย่างเพื่อไทย
สมศักดิ์ พยายามนำ ส.ส.ในก๊วนมาสวามิภักดิ์ต่อ เพื่อไทยเพื่อต่อรองตำแหน่ง รัฐมนตรี มาหลายครั้งแล้ว
โดยมีดีลผ่าน “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์”หรือเจ๊แดง และดีลผ่าน “สมชาย วงศ์สวัสดิ์”มาโดยตลอด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะแรงต้านในเพื่อไทยยังสูงอยู่
แต่เมื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นายกรัฐมนตรี ชิงยุบสภา สมศักดิ์ ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ รีบแจ้นนำกลุ่มมัชฌิมาเข้ากรอกใบสมัครเป็นสมาชิกเพื่อไทยอย่างไม่รีรอ
โดยพื้นฐาน “กลุ่มมัชฌิมา”มีพื้นที่ฐานเสียงที่มั่นคงอยู่อย่างน้อย 3 จังหวัด ประกอบด้วย สุโขทัย ราชบุรี ชัยนาท ดังนั้น จึงการันตีได้เลยว่าการเข้ามาของ “กลุ่มมัชฌิมา”เป็นการเพิ่มตัวเลขส.ส.ของ เพื่อไทยให้สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
นอกจากคะแนนจากส.ส.เขตแล้ว เพื่อไทย ยังได้อานิสงส์ จากกลุ่มมัชฌิมา ที่จะเทคะแนนปาตี้ลิสต์มาเพิ่มเสริมเติมแต่งให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ เพื่อไทย มีโอกาสได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
บวกลบคูณหารการที่ กลุ่มมัชฌิมา ย้ายรังเข้ามา เพื่อไทยงานนี้มีแต่คุ้มกับคุ้ม
ยังไม่หยุดแค่ กลุ่มมัชฌิมา ล่าสุด “ปรีณา ไกรคุปต์”อดีต ส.ส.ราชบุรี “เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร”อดีตส.ส.อยุธยา 2 ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ขอย้ายมาเข้ามาสังกัด เพื่อไทย เพิ่มเติมอีก
โดยเฉพาะ เกื้อกูล ที่ดีดลูกคิดคำนวณ “กระสุนดินดำ”ในกระเป๋าแล้วร่อยหรอไปไม่น้อย เพราะศึกเลือกตั้ง 3กรกฎาคม 2554 เกื้อกูล หมดไปเยอะ แถมไม่ได้รับการตอบแทนจาก “หลงจู๊ใหญ่”อย่าง “บรรหาร ศิลปอาชา”ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา
หาก เกื้อกูล ยังฝืนสู้ต่อมีหวังหมดกระเป๋า เพราะพื้นที่จังหวัดอยุธยา กระแส “คนเสื้อแดง”แรงเหลือเกิน สู้ย้ายมาสังกัด “ค่ายแดง” ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า
ปล่อยให้ บรรหาร ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก คิดหนัก-เครียดหนักกว่าเดิม เพราะลำพัง ส.ส. 18 ที่นั่ง ที่มีอยู่ ยังต่อรองเก้าอี้ “รัฐมนตรี” แสนจะยากลำบาก หากลดไปอีก 3-4 ที่นั่ง มีหวัง “หลงจู๊”ลมจับแน่
ปรากฏการณ์ “เลือดไหล”ของ ชาติไทยพัฒนา อาจจะมีให้เห็นอีก เพราะแต่ละพื้นที่ยังคงไม่นิ่ง โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตร ที่สิ้นบุรุษชื่อ “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์”ไปแล้ว ต้องรอติดตามดูว่ายังคงมีมนต์ขลังมากน้อยเพียงใด
หากไม่เกณฑ์กำลังลงไปช่วยลำพังแค่ "ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์" หรือ ลูกยอด คงรับมือกับบรรดานักเลือกตั้งมืออาชีพ ที่พร้อมทุ่มเพื่อแย่งชิงพื้นที่ไม่ไหว
อาการของ ชาติไทยพัฒนา แสนสาหัส จะเหลือรอดส.ส.สักกี่เก้าอี้ ต้องรอลุ้นกันยาวๆ แต่ที่แน่ๆ “ศตรู”คู่แข่งเพิ่มขึ้นมากโข
ทั้งหมดคือ “แนวร่วม-แนวรบ”ใหม่ที่จะมาเป็นอาวุธสำคัญให้ เพื่อไทย ใช้ขับเคี่ยวในศึกเลือกตั้งที่มีเดิมพันสูงลิบครั้งนี้
ในส่วนของ เพื่อไทย เริ่มมีการคิดยุทธศาสตร์ใหม่ในการเดินเกมต่อสู้กับ “ขั้วตรงข้าม”ที่ยังเต็มไปด้วย “อำมาตย์”ที่ถือกฎหมายเป็นอาวุธ
ล่าสุดมีข่าวกระเซ็นกระสายจากทีมยุทธศาสตร์ เพื่อไทย ออกมาว่า มีการเสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมถอยครึ่งก้าว เปลี่ยนเกมถอดคนเครือข่าย “ชินวัตร”ออกจากสาระบบการเมืองไปก่อนชั่วคราว
เพื่อขจัดเงื่อนไขที่ “ฝั่งตรงข้าม”นำมาผลิตวลี “ทำเพื่อพี่”-“ทำเพื่อชินวัตร”ให้หมดไป เมื่อหมดเงื่อนไขไปหนึ่งข้อ ฝั่งตรงข้ามจะนำเงื่อนไขอื่นมาปลุก มวลชน ก็ดูมีพลังน้อยลงไปทันที
งานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะยอมถอย เพื่อนำเงื่อนไขไปต่อรองกับ ฝั่งอำมาตย์ ได้ ยอมล้างไพ่ใหม่ กำหนดเกมใหม่ ล่อเป้าให้ ขั้วตรงข้าม ออกมาพลิกเกมเล่นใหม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมเซ็ตทีมงาน-มือทำงานใหม่ถอดด้าม แต่เป็น “มือเก๋า”ทั้งหมด ชั่วโมงนี้คนเครือข่าย ชินวัตร พร้อมลงสนามกำหนดทิศทางประเทศ ทำเพื่อ “นาย”อีกครั้งแล้ว
โดยมีชื่อบรรดาทีมงาน “ไทยรักไทย”และ “พลังประชาชน”ที่พ้นโทษแบนทางการเมืองมาทั้งหมดแล้ว เป็นกำลังเสริมชิ้นดี
อย่างน้อยก็ลูกเล่นแพรวพราวกว่าบรรดาแถว 3 เกรด ซี ที่ "ยิ่งลักษณ์" ใช้งานอยู่ตอนนี้
แว่วมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กำหนดเกมทุกอย่างไว้เกือบหมดแล้ว โดยหากมีการเลือกตั้ง และสามารถเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลได้ จะกำหนดให้รัฐบาล มีอายุแค่ 2 ปีเท่านั้น
“มือทำงาน”ทั้งหมด ต้องเร่งสปีดทำงานให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ การเดินหน้านโยบายประชานิยม การกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำหนดไว้ ก็พร้อมที่จะยุบสภาอีกครั้ง เพื่อเซ็ตซีโร่เกมใหม่ หลังจากนั้นทุกอย่างอาจจะเข้าทางพ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หมากเกมทั้งหมดยังรอการพิสูจน์อยู่ว่าจะเป็นตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำหนดชะตาของประเทศไว้หรือไม่ โดยมีการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ เป็นด่านแรกที่ต้องฝ่าไปให้ได้
อย่างน้อยก็ให้เข้าโหมดเลือกตั้งให้ได้ หวังใช้คะแนนโหวตมา "ฟอกตัว" ตามสูตร
ชะตากรรมประเทศไทย ต้องวัดกันวันต่อวัน วัดกันเกมต่อเกม แต่บางทีคนถือไพ่เหนือกว่า อาจจะไม่ได้ใช่คนกำหนดเกมตัวจริง