“บรรหาร” เผย ชทพ.ประชุมรับมือเลือกตั้ง คาดส่งแข่งขันแบบเดิม บัญชีรายชื่อลงเต็ม เขตส่งไม่ครบ อ้างต้องเชื่อ กกต.เลือกตั้งได้ ไม่ตอบหาก ปชป.บอยคอต ย้ำต้องเดินตามกรอบ รธน. รับยังรักกับ “สุเทพ” อยู่ ปัดไม่มี ส.ส.ลาออกพรรคอีก “นิกร” แจงตั้ง คกก.ดูแลเลือกตั้ง 4 ภาค ยึดนโยบายเดิมปรับตามสถานการณ์ เชื่อช่วยปลดล็อกการเมือง ชวนพวกเป็นกลางเข้าพรรค
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะประชุมสมาชิกพรรค เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 โดยจะกำหนดตัวบุคคลเพื่อรับผิดชอบในแต่ละพรรค ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ 125 คน เหมือนครั้งที่ผ่านมา ส่วน ส.ส.เขต คงส่งได้ไม่ครบ 250 คน เพราะในอดีตก็ไม่เคยส่งครบ ครั้งนี้ก็คงส่งได้เพียงประมาณ 200 เขต เพราะเวลาเหลือน้อย เมื่อถามว่าสถานการณ์อย่างนี้คิดว่าจะจัดการเลือกตั้งได้หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งมาแล้ว ก็ต้องเชื่อมั่น เราก็ต้องเคารพ จะคิดนอกเหนือจากนี้คงไม่ได้ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากพรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่ส่งผู้สมัคร นายบรรหารตอบว่า ตอบไม่ได้เพราะเป็นเรื่องอนาคต ยังไม่ถึงเวลา
ส่วนที่หลายฝ่ายเกรงว่าจะมีกระบวนการขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้ล้วงลึกถึงขนาดนั้น แต่เท่าที่ฟังนักวิชาการอิสระหลายคนมีความเห็นว่ารัฐธรรมนูญยังอยู่ก็ต้องเดินไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ ก็ต้องเป็นอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นจะฉีกรัฐธรรมนูญออกทำไม เมื่อถามว่าที่ผ่านมาได้คุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ บ้างหรือไม่ นายบรรหารตอบว่า ก็ยังเป็นเพื่อนรักกันอยู่ เมื่อถามอีกว่าจะมี ส.ส.ลาออกจากพรรคอีกหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่มี ก็มีแค่คนเดียว คนอื่นยังอยู่ครบ
ด้านนายนิกร จำนง แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาแถลงว่า หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีคำสั่งคณะกรรมการดูแลการเลือกตั้งเป็นรายภาค 4 ภาค ดังนี้ นายประภัตร โพธสุธน เป็นกรรมการดูแลการเลือกตั้งภาคกลาง 27 จังหวัด นายอนุรักษ์​ จุรีมาศ ดูแลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ภาคใต้ 14 จังหวัดมีตนดูแล และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ดูแลการเลือกตั้งภาคเหนือ 16 จังหวัด ส่วนนโยบายในการรณรงค์หาเสียงก็คงไว้ตามเดิมเหมือนครั้งที่แล้ว และปรับตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยเฉพาะการเมืองเน้นเรื่องสามัคคีปรองดอง เกษตร​และท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามคิดว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะช่วยปลดล็อกทางการเมืองและก้าวข้ามความขัดแย้งได้ ส่วนตัวยังเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้ง โดยเฉพาะต่างประเทศก็ส่งสัญญาณชัดเจนว่าสังคมประชาธิปไตยจะต้องมีการเลือกตั้ง จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจมีความเห็นสายกลางๆ เข้าสมัครลงรับเลือกตั้งในนามของพรรคชาติไทยพัฒนาได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. ส่วนผู้ที่ลาออกไปลงสมัครในนามพรรคอื่นก็มีเพียง 1-2 คน เนื่องจากมีปัญหาในเชิงพื้นที่ที่ลงสมัคร ส่วนที่อดีต ส.ส.พรรคอื่นย้ายมา ก็มีแต่ขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง