xs
xsm
sm
md
lg

TMBลุ้นกนง.ลดดอกเบี้ย อุ้มเศรษฐกิจQ4-ปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีระบุเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะกนง.จะลดดบ.0.25%ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี จากจีดีพีลดต่ำกว่าคาด และสภาวะการเมืองป่วนกดดันเศรษฐกิจ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) มองปัจจัยเศรษฐกิจสนับสนุนการลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันที่ 27 พ.ย. นี้ จากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยโดนความเสี่ยงรุมเร้า เงินเฟ้อพื้นฐานใกล้หลุดกรอบนโยบาย และการใช้จ่ายของรัฐที่ล่าช้าออกไป กลับมาเป็นประเด็นให้นักเศรษฐศาสตร์ต้องวิงเวียนกันอีกครั้งเมื่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสามของปีนี้ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แผ่วตัวลงอีกจากระดับร้อยละ 2.9 ในไตรมาสสอง เนื่องจากการบริโภคและการลงทุนในประเทศหดตัว ทำให้สภาพัฒน์ฯ หั่นประมาณการทั้งปีให้ไทยขยายตัวเพียงร้อยละ 3.0 ลดฮวบจากก่อนหน้าที่ให้ไว้ร้อยละ 3.8 - 4.3
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจทั้งภาครัฐและเอกชนต่างทยอยกันปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ จากเดิมที่เชื่อว่าจะขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3.5 มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 3 ทางด้าน TMB Analytics ก็ปรับประมาณการเศรษฐกิจของเราลงเล็กน้อยเช่นกัน จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ร้อยละ 3.1 (ปรับครั้งก่อน ณ เดือนกันยายน) มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.9
อัตราการขยายตัวในระดับที่กล่าวข้างต้นนับว่าต่ำกว่าที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ไว้ที่ร้อยละ 3.7 ในรายงานนโยบายการเงินฉบับตุลาคม 2556 ค่อนข้างมาก ทำให้ TMB Analytics ประเมินว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ กนง. จะนำกระสุนที่เก็บมาตั้งแต่ช่วงกลางปีออกมาใช้เพื่อพยุงการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสี่ และไตรมาสแรกของปีหน้า
นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงเพิ่มและยืดเยื้อขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะกดดันเศรษฐกิจในตอนนี้ เพราะนอกจากจะกระทบความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนแล้ว ยังส่งผลถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอีกด้วย และยังอาจลามไปถึงภาคการท่องเที่ยวซึ่งเสมือนเป็นความหวังสุดท้ายของการเติบโตในปีนี้ รวมทั้งการเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่ก็จะถูกเลื่อนออกไปด้วย
แม้การลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพียงร้อยละ 0.25 อาจไม่สามารถส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจจริงของประเทศกลับมาดี อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ รวมทั้งทิศทางของค่าเงินบาทก็ไม่ได้อยู่ในขาแข็งที่จะกดดัน กนง. ให้ลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายการเงินเพิ่มเติมน่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจได้ ไม่มากก็น้อย และที่สำคัญกว่าคือการสร้างความเชื่อมั่นต่อการดำเนินนโยบายร่วมกันของภาครัฐ เพราะเมื่อนโยบายการคลังประสบปัญหา ก็อาจถึงคราวของนโยบายการเงินต้องออกโรงบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น