ASTVผู้จัดการรายวัน-"เทือก"นำลูกทีม 8 คน ลาออกจาก ส.ส. หลังมติมหาชนให้สู้ต่อ จนกว่ารัฐบาลจะเอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษออกจากสภา ประกาศ 13-15 พ.ย. หยุดงานทั่วประเทศ ขณะที่เสื้อแดงประกาศลั่นหากไม่เลิกชุมนุม เจอระดมพลทั่วประเทศ นัดรวมพลปกป้อง"รัฐบาลปู"วันนี้ ที่เชียงใหม่ ด้านรัฐบาลอ้างถอนร่าง นิรโทษฉาวออกจากสภาก่อน 180 วันไม่ได้ วอนม็อบสลายตัวกลับบ้าน อย่ายกระดับไล่ พร้อมยอมเปิดสภาให้ใช้ มาตรา 179 อภิปรายแบบไม่ลงมติ
วานนี้ (11พ.ย. ) ซึ่งเป็นวันที่มีการคาดการณ์กันว่าอุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงถึงขีดสุด จะมีประชาชนมาชุมนุมคัดค้านการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมกันมากที่สุด เนื่องจากเป็นวันที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำการชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน ประกาศขีดเส้นตาย ให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สาบสูญไปจากสภา ก่อนเวลา 18.00 น. มิฉะนั้นจะมีการตั้ง"ศาลประชาชน" ยกระดับการชุมนุมกดดัน ขับไล่รัฐบาล
นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ศาลโลกจะอ่านคำพิพากษา ข้อพิพาทที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ที่กัมพูชายื่นให้ศาลโลกตีความ ในเวลา 16.00 น. ทำให้มีมวลชนมาร่วมชุมนุมที่ราชดำเนินเป้นจำนวนมาก
มติมหาชนดันต้านนิรโทษจนสุดซอย
เมื่อเวลา 18.10 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวบนเวทีปราศรัย ที่ถนนราชดำเนิน ว่า ถึงกำหนดเวลา18.00 น. ที่ได้ให้โอกาสรัฐบาลนำกฎหมายนิรโทษกรรมออกไปจากสภาฯ ซึ่งปรากฏแล้วว่า เมื่อถึงเวลารัฐบาลไม่ปฏิบัติตามสัญญา และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของประชาชน ในขณะที่รัฐบาลก็มีความพยายามสร้างกระแสข่าวใส่ร้าย และข่มขู่ผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่างๆ นานา จนประชาชนทนไม่ไหวต้องออกมาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น
"ถ้าพี่น้องไม่มาชุมนุมมากขนาดนี้ ป่านนี้สภาคงพิจารณา 3วาระรวด จนผ่านร่างจบไปแล้ว อย่างที่เคยทำ การออกมาเคลื่อนไหวจำนวนมากของประชาชนครั้งนี้ เป็นชัยชนะเบื้องต้น"
นายสุเทพ ยังประกาศย้ำว่า ถึงแม้วุฒิสภาจะมีมติไม่รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ยังไม่สามารถทำให้กฎหมายฉบับนี้ตกไปจากสภา เพราะยังคงต้องค้างร่างดังกล่าวไว้ 180 วัน ซึ่งหากเราหยุดแค่นี้ จะทำให้การออกมาเคลื่อนไหวของประชาชนครั้งนี้สูญเปล่า นี่คือความจริงที่ประชาชนควรรู้ เพราะถ้าวันใดที่มวลชนเผลอ รัฐบาลสามารถออกเป็นพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก. ด้วยมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะมีอำนาจใช้ทันที
ทั้งนี้ตนทราบมาว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้พูดเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีแล้ว วันนี้ขอให้ศาลประชาชนตัดสิน ขอให้มวลชนตั้งสติ พิจารณาแค่เฉพาะเรื่องนิรโทษกรรม ไม่รวมความผิดสะสมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยค่อยเอาไว้พิจารณากันวันหลัง เพราะให้พิจารณาแค่เรื่องนี้ประชาชนก็ตัดสินใจได้แล้ว
จากนั้น นายสุเทพ ได้ถามไปยังมวลชนที่ออกมาชุมนุมคัดค้านนิรโทษกรรม เพื่อขอมติของมหาชน และตนจะปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดย ทางเลือกที่ 1 ยินดีกับชัยชนะขั้นต้น ที่รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร ชะลอกฎหมายนิรโทษกรรมไว้ 180 วัน ทางเลือกที่ 2 ขอประชาชนสู้ต่อไปจนกว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะตายไปจากสภาฯ
โดยทันทีที่ นายสุเทพ ขอมติจากมวลชนที่ร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน ก็ได้เสียงตอบรับว่า จะคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวจนถึงที่สุด
"บัดนี้ขอประกาศว่า มติมหาชนของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และผู้รักชาติรักแผ่นดินมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ให้สู้ต่อไป"
"เทือก"นำลูกทีมอีก 8 ลาออกจากส.ส.
จากนั้น นายสุเทพ ได้ประกาศลาออกจากความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เป็นการต่อสู้ของมวลชนโดยแท้จริง ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีส.ส.อีก 8 คนที่ร่วมลาออกเพื่อมาต่อสู้ร่วมกันในครั้งนี้ ประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายอิสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช นายชุมพล จุลไสย ส.ส.ชุมพร นายพุฒิพงศ์ ปุณณกันต์ ส.ส.กทม. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.กทม. นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม.
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า พวกเราต้องต่อสู้กับนางมารร้าย ทั้งในสภาและนอกสภา ดังนั้นตนกับเพื่อนรัก ต้องแยกทางกันเดินโดยเด็ด พวกที่มีหน้าที่สู้ในสภา ไปสู้ในสภาให้เข้มแข็ง ส่วนพวกตน 9 คน ขอถอดหัวใจหลอมชีวิต หลอมวิญญาณเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชน ต้อสู้ แบบอหิงสา สู้โดยสงบ ปราศจากอาวุธ เราต่อสู้ตามสิทธิที่กำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฏบัตรสหประชาชาติ
“เราจะยึดถนนราชดำเนินเป็นชัยภูมิในการต่อสู้จนกว่าเราจะชนะ มติกรรมการแกนนำ ขอให้ทุกเครือข่ายได้ปฏิบัติให้สอดคล้องโดยจะยกระดับการต่อสู้ โดยการเชิญชวนกระทำอารยะขัดขืนอย่างเข้มแข็งทั่วประเทศ 1. วันที่ 12 พ.ย. ให้ทุกคน ทุกบริษัท ทุกหน่วยงานราชการ สะสางงานของตัวเอง 1 วัน จากนั้น วันที่ 13 -15 พ.ย. เป็นวันหยุดงานทั่วประเทศ ขอความร่วมมือเจ้าของกิจการโปรดสั่งพนักงานของท่านให้หยุดงาน และมาร่วมชุมนุมกับเราทั่วประเทศ ไปเวทีไหนก็ได้ หน่วยงานไหน บริษัทเอกชนไหน จำเป็นจริงหยุดงานไม่ได้ ให้ชะลอความรวดเร็วในการทำงานลง สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยทุกแห่ง ให้อาจารย์และนักศึกษาไปให้ขึ้นป้ายได้ว่า 13-15 หยุดเรียน หยุดสอน โรงเรียนทุกแห่ง ทั้งมัธยม ประถม อนุบาล หยุดเรียนหยุดสอนทั่วประเทศ ขอให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจว่า นี่คือการกระทำอารยะขัดขืนของพลเมืองดี เพื่อประวัติศาสตร์จะได้จารึก 2.ขอให้บรรดาพ่อค้า นักธุรกิจช่วยกรุณราไปปรึกษากันว่า วิธีปฏิบัติในการชะลอการชำระภาษี อย่าใหรรัฐบาลมีเงินภาษีออกมาใช้ 3. ต่อสู้ด้วยสัญญาลักษณ์ ขอให้ทุกบ้านทุกสำนักงานชักธงชาติขึ้นทั่วประเทศ แขวนคอด้วยนกหวีด ไปไหนมาไหนพกไป 2 อย่างคือ นกหวีดและธงชาติ และ 4. ตั้งแต่นาทีนี้ ถ้าประชาชนพบเห็นนายกฯ รองนายกฯ รัฐมนตรีทั้ง และเหล่าลิ่วล้อ ไม่ต้องพูดกับมัน ไม่ต้องทำอะไร เป่านกหวีดอย่างเดียว”นายสุเทพ กล่าว
ตร.นางเลิ้งปลอมเป็นมอไซค์หาข่าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ได้รับข่าวจากประชาชาชนว่า ตำรวจสน.นางเลิ้ง ปลอมมาเป็นวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง เพื่อมาดูสถานการณ์การชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน และไปรายงานความเคลื่อนไหวของมวลชนให้เจ้านายทราบ ดังนั้นจึงอยากบอกประชาชนว่า เปลี่ยนใจได้ก็ให้เปลี่ยนใจมาร่วมชุมนุม เพราะเชื่อว่าวันนี้ประชาชนจะชนะแน่นอน
ทั้งนี้หลายพื้นที่ในต่างจังหวัดทราบว่ามีมวลชนคนเสื้อแดงกลับใจ เข้ามาร่วมต่อสู้ข้างประชาชนแล้ว และวันนี้ประชาชนคนไทยตื่นแล้วทั้งประเทศ เพราะคนไทยได้ให้โอกาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เข้ามาบริหารประเทศ แต่รัฐบาลกลับใช้อำนาจอย่างป่าเถื่อน โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเผด็จการยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ไป หากรัฐบาลแพ้จะกลายเป็นทรราช ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และให้สัญญาณในการระดมมวลชน คนเสื้อแดงออกมา นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ยอมเราแน่ แม้ที่ประชุมวุฒิสภา จะมีมติคว่ำกฎหมายนี้ รัฐบาลก็จะไม่ยอมให้กับประชาชนแน่นอน” นพ.วรงค์ กล่าว
เสื้อแดงพร้อมแสดงพลังทั่วประเทศ
พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยร่วมขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ขอท้าให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค มาร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับพรรคเพื่อไทย (พท. ) และนปช. เพื่อยืนยันว่า รัฐบาลนำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะไม่นำร่าง พ.ร.บ.กฎหมายนิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาในระบบรัฐสภาอีกต่อไป เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และต้องการให้การชุมนุมของกลุ่มคนพรรคประชาธิปัตย์ หรือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ยุติลง และขณะนี้ถือว่า เงื่อนไขการชุมนุมทุกอย่างจบลงแล้ว จึงไม่ควรยื้อการชุมนุมอีกต่อไป
พ.ต.ต.เสงี่ยม กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ ยังจะจัดการชุมนุมยืดเยื้ออีกต่อไป เพื่อต้องการขัดขวางไม่ให้รัฐบาลบริหารประเทศ ซึ่งถือเป็นการบีบคั้นและกดดันทางการเมืองให้นายกรัฐมนตรียุบสภา หรือ ลาออก พร้อมๆ กับต้องการสร้างสถานการณ์ ไม่ให้มีการบังคับใช้กฎหมายในประเทศจนประเทศไทยกลายเป็นรัฐที่ไร้ขือแป และที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการให้กองทัพออกมาปฏิวัติรัฐประหาร โดยฉกฉวยโอกาสจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง เพราะทราบดีว่า หากนายสุเทพ และ นายอภิสิทธิ์ มีความผิดในการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง บริเวณราชประสงค์ ทางกองทัพย่อมมีความผิดฐานรับคำสั่งไปด้วย แต่คนเสื้อแดงยังมั่นใจว่า กองทัพ ไม่ออกมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อทิศทางเป็นเช่นนั้น ทางกลุ่มคนเสื้อแดงจำเป็นต้องออกมาแสดงพลังทั่วประเทศ
พ.ต.ต.เสงี่ยม กล่าวว่า ในนามแกนนำคนเสื้อแดง ขอยืนยันว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ชุมนุมในพื้นที่กทม. เด็ดขาด เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะ และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ประชาชนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องสูญเสีย จนนำไปสู่สงครามกลางเมือง แต่จะชุมนุมเพื่อแสดงพลังป้องปกรัฐบาลในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ถือเป็นภาคที่มีฐานมวลชนสำคัญของพรรคและคนเสื้อแดง โดยวันที่ 11 พ.ย. ที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 12 พ.ย.นี้ สนามกีฬา 700 ปี จ.เชียงใหม่ วันที่ 13 พ.ย.ที่ จ.อุดรธานี และวันที่ 14 พ.ย. ที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยจะมีแกนนำคนสำคัญร่วมอย่างคับคั่ง
อ้างถอนร่างกม.นิรโทษก่อน 180 วันไม่ได้
นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล ได้แถลงภายหลังการหารือกับฝ่ายกฎหมายของรัฐสภา ว่า ทางฝ่ายกฎหมายยืนยันว่า หากวุฒิสภามีมติคว่ำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แล้วส่งคืนมายังสภา ทางสภาจะดำเนินการใดๆ เพื่อให้ร่างนี้สิ้นผลไปก่อนระยะเวลา 180 วันไม่ได้ จะต้องรอจนกว่าจะครบ 180 วัน แล้วจึงค่อยนำร่างดังกล่าวเข้าพิจารณา ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนที่มาชุมนุมได้เข้าใจว่า สภาไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายค้าน ที่จะให้นำร่างดังกล่าวมาพิจารณา ก่อน 180 วันได้ เพราะจะขัดรัฐธรรมนูญทันที และขอให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล 4 พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส. -ส.ว. ต่างยืนยันแล้วว่า จะไม่นำร่างดังกล่าวกลับมาพิจารณาอีก จึงควรที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และให้โอกาสรัฐบาลในการทำงาน
“ขณะนี้ยังมีเรื่องสำคัญคือ ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่กำลังจะผ่านการพิจารณาของ ส.ว. และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ที่รัฐบาลกำลังจะรับฟังความเห็นของประชาชนทั่วประเทศแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ จึงไม่ควรที่ประชาชนจะอยู่ชุมนุมที่จะเป็นการเลยเถิด ขับไล่รัฐบาลอีก”
เมื่อถามว่าผู้ชุมนุมต่อ ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ราชดำเนินไม่มีความมั่นใจต่อรัฐบาล เพราะมีการออกมาชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นายอำนวยกล่าวยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษฯ การชุมนุมก็เป็นสิทธิ์ของคนเสื้อแดง เช่นเดียวกับการชุมนุมที่ราชดำเนิน
ยอมให้อภิปรายไม่ลงมติ หวังลดกระแส
นายอำนวย กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติว่า ในวันพุธที่ 13 พ.ย. ซึ่งจะมีการประชุมรัฐสภา หลังการพิจารณาผลการเจรจากรอบการค้าเรื่องภาษีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แล้ว จะมีการเสนอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อหาทางออกในวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งคิดว่าสถานการณ์ขณะนี้จำเป็นที่ต้องใช้กลไกของรัฐสภาแก้ไขความขัดแย้ง
นอกจากนี้ที่ประชุมวิปรัฐบาลยังเห็นว่า ขณะนี้สังคมเกิดความสับสน ดังนั้นจึงขอให้ ส.ส.ที่จะอภิปรายได้ยึดระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ไม่มีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย หรือเสียดสี เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่จะส่งไปยังประชาชนมีการบิดเบือน รวมทั้งวิปรัฐบาลยังมีมติให้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามสถานการณ์ขณะนี้ โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อีกทั้งจะมีการหรือกับฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาเพื่อพิจารณาว่าจะมีช่องทางใดในการดำเนินการยับยั้งร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยไม่จำเป็นต้องรอระยะเวลา 180 วัน หลังจากที่ที่วุฒิสภามีมติคว่ำร่างและส่งกลับมายังสภา
ต่อมานายพีระพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุว่า ในการประชุม ครม.นัดพิเศษ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (11 พ.ย.) มีมติให้สภากำหนด เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 179 ตามที่วิปรัฐบาลเสนอ
วานนี้ (11พ.ย. ) ซึ่งเป็นวันที่มีการคาดการณ์กันว่าอุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงถึงขีดสุด จะมีประชาชนมาชุมนุมคัดค้านการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมกันมากที่สุด เนื่องจากเป็นวันที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำการชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน ประกาศขีดเส้นตาย ให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สาบสูญไปจากสภา ก่อนเวลา 18.00 น. มิฉะนั้นจะมีการตั้ง"ศาลประชาชน" ยกระดับการชุมนุมกดดัน ขับไล่รัฐบาล
นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ศาลโลกจะอ่านคำพิพากษา ข้อพิพาทที่บริเวณปราสาทพระวิหาร ที่กัมพูชายื่นให้ศาลโลกตีความ ในเวลา 16.00 น. ทำให้มีมวลชนมาร่วมชุมนุมที่ราชดำเนินเป้นจำนวนมาก
มติมหาชนดันต้านนิรโทษจนสุดซอย
เมื่อเวลา 18.10 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวบนเวทีปราศรัย ที่ถนนราชดำเนิน ว่า ถึงกำหนดเวลา18.00 น. ที่ได้ให้โอกาสรัฐบาลนำกฎหมายนิรโทษกรรมออกไปจากสภาฯ ซึ่งปรากฏแล้วว่า เมื่อถึงเวลารัฐบาลไม่ปฏิบัติตามสัญญา และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของประชาชน ในขณะที่รัฐบาลก็มีความพยายามสร้างกระแสข่าวใส่ร้าย และข่มขู่ผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่างๆ นานา จนประชาชนทนไม่ไหวต้องออกมาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น
"ถ้าพี่น้องไม่มาชุมนุมมากขนาดนี้ ป่านนี้สภาคงพิจารณา 3วาระรวด จนผ่านร่างจบไปแล้ว อย่างที่เคยทำ การออกมาเคลื่อนไหวจำนวนมากของประชาชนครั้งนี้ เป็นชัยชนะเบื้องต้น"
นายสุเทพ ยังประกาศย้ำว่า ถึงแม้วุฒิสภาจะมีมติไม่รับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ยังไม่สามารถทำให้กฎหมายฉบับนี้ตกไปจากสภา เพราะยังคงต้องค้างร่างดังกล่าวไว้ 180 วัน ซึ่งหากเราหยุดแค่นี้ จะทำให้การออกมาเคลื่อนไหวของประชาชนครั้งนี้สูญเปล่า นี่คือความจริงที่ประชาชนควรรู้ เพราะถ้าวันใดที่มวลชนเผลอ รัฐบาลสามารถออกเป็นพระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก. ด้วยมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะมีอำนาจใช้ทันที
ทั้งนี้ตนทราบมาว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้พูดเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีแล้ว วันนี้ขอให้ศาลประชาชนตัดสิน ขอให้มวลชนตั้งสติ พิจารณาแค่เฉพาะเรื่องนิรโทษกรรม ไม่รวมความผิดสะสมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยค่อยเอาไว้พิจารณากันวันหลัง เพราะให้พิจารณาแค่เรื่องนี้ประชาชนก็ตัดสินใจได้แล้ว
จากนั้น นายสุเทพ ได้ถามไปยังมวลชนที่ออกมาชุมนุมคัดค้านนิรโทษกรรม เพื่อขอมติของมหาชน และตนจะปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดย ทางเลือกที่ 1 ยินดีกับชัยชนะขั้นต้น ที่รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร ชะลอกฎหมายนิรโทษกรรมไว้ 180 วัน ทางเลือกที่ 2 ขอประชาชนสู้ต่อไปจนกว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะตายไปจากสภาฯ
โดยทันทีที่ นายสุเทพ ขอมติจากมวลชนที่ร่วมชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน ก็ได้เสียงตอบรับว่า จะคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวจนถึงที่สุด
"บัดนี้ขอประกาศว่า มติมหาชนของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และผู้รักชาติรักแผ่นดินมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ให้สู้ต่อไป"
"เทือก"นำลูกทีมอีก 8 ลาออกจากส.ส.
จากนั้น นายสุเทพ ได้ประกาศลาออกจากความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เป็นการต่อสู้ของมวลชนโดยแท้จริง ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีส.ส.อีก 8 คนที่ร่วมลาออกเพื่อมาต่อสู้ร่วมกันในครั้งนี้ ประกอบด้วย นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายอิสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช นายชุมพล จุลไสย ส.ส.ชุมพร นายพุฒิพงศ์ ปุณณกันต์ ส.ส.กทม. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.กทม. นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม.
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า พวกเราต้องต่อสู้กับนางมารร้าย ทั้งในสภาและนอกสภา ดังนั้นตนกับเพื่อนรัก ต้องแยกทางกันเดินโดยเด็ด พวกที่มีหน้าที่สู้ในสภา ไปสู้ในสภาให้เข้มแข็ง ส่วนพวกตน 9 คน ขอถอดหัวใจหลอมชีวิต หลอมวิญญาณเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับประชาชน ต้อสู้ แบบอหิงสา สู้โดยสงบ ปราศจากอาวุธ เราต่อสู้ตามสิทธิที่กำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฏบัตรสหประชาชาติ
“เราจะยึดถนนราชดำเนินเป็นชัยภูมิในการต่อสู้จนกว่าเราจะชนะ มติกรรมการแกนนำ ขอให้ทุกเครือข่ายได้ปฏิบัติให้สอดคล้องโดยจะยกระดับการต่อสู้ โดยการเชิญชวนกระทำอารยะขัดขืนอย่างเข้มแข็งทั่วประเทศ 1. วันที่ 12 พ.ย. ให้ทุกคน ทุกบริษัท ทุกหน่วยงานราชการ สะสางงานของตัวเอง 1 วัน จากนั้น วันที่ 13 -15 พ.ย. เป็นวันหยุดงานทั่วประเทศ ขอความร่วมมือเจ้าของกิจการโปรดสั่งพนักงานของท่านให้หยุดงาน และมาร่วมชุมนุมกับเราทั่วประเทศ ไปเวทีไหนก็ได้ หน่วยงานไหน บริษัทเอกชนไหน จำเป็นจริงหยุดงานไม่ได้ ให้ชะลอความรวดเร็วในการทำงานลง สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยทุกแห่ง ให้อาจารย์และนักศึกษาไปให้ขึ้นป้ายได้ว่า 13-15 หยุดเรียน หยุดสอน โรงเรียนทุกแห่ง ทั้งมัธยม ประถม อนุบาล หยุดเรียนหยุดสอนทั่วประเทศ ขอให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจว่า นี่คือการกระทำอารยะขัดขืนของพลเมืองดี เพื่อประวัติศาสตร์จะได้จารึก 2.ขอให้บรรดาพ่อค้า นักธุรกิจช่วยกรุณราไปปรึกษากันว่า วิธีปฏิบัติในการชะลอการชำระภาษี อย่าใหรรัฐบาลมีเงินภาษีออกมาใช้ 3. ต่อสู้ด้วยสัญญาลักษณ์ ขอให้ทุกบ้านทุกสำนักงานชักธงชาติขึ้นทั่วประเทศ แขวนคอด้วยนกหวีด ไปไหนมาไหนพกไป 2 อย่างคือ นกหวีดและธงชาติ และ 4. ตั้งแต่นาทีนี้ ถ้าประชาชนพบเห็นนายกฯ รองนายกฯ รัฐมนตรีทั้ง และเหล่าลิ่วล้อ ไม่ต้องพูดกับมัน ไม่ต้องทำอะไร เป่านกหวีดอย่างเดียว”นายสุเทพ กล่าว
ตร.นางเลิ้งปลอมเป็นมอไซค์หาข่าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ได้รับข่าวจากประชาชาชนว่า ตำรวจสน.นางเลิ้ง ปลอมมาเป็นวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง เพื่อมาดูสถานการณ์การชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน และไปรายงานความเคลื่อนไหวของมวลชนให้เจ้านายทราบ ดังนั้นจึงอยากบอกประชาชนว่า เปลี่ยนใจได้ก็ให้เปลี่ยนใจมาร่วมชุมนุม เพราะเชื่อว่าวันนี้ประชาชนจะชนะแน่นอน
ทั้งนี้หลายพื้นที่ในต่างจังหวัดทราบว่ามีมวลชนคนเสื้อแดงกลับใจ เข้ามาร่วมต่อสู้ข้างประชาชนแล้ว และวันนี้ประชาชนคนไทยตื่นแล้วทั้งประเทศ เพราะคนไทยได้ให้โอกาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เข้ามาบริหารประเทศ แต่รัฐบาลกลับใช้อำนาจอย่างป่าเถื่อน โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเผด็จการยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ไป หากรัฐบาลแพ้จะกลายเป็นทรราช ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และให้สัญญาณในการระดมมวลชน คนเสื้อแดงออกมา นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ยอมเราแน่ แม้ที่ประชุมวุฒิสภา จะมีมติคว่ำกฎหมายนี้ รัฐบาลก็จะไม่ยอมให้กับประชาชนแน่นอน” นพ.วรงค์ กล่าว
เสื้อแดงพร้อมแสดงพลังทั่วประเทศ
พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยร่วมขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ขอท้าให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค มาร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับพรรคเพื่อไทย (พท. ) และนปช. เพื่อยืนยันว่า รัฐบาลนำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะไม่นำร่าง พ.ร.บ.กฎหมายนิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาในระบบรัฐสภาอีกต่อไป เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และต้องการให้การชุมนุมของกลุ่มคนพรรคประชาธิปัตย์ หรือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ยุติลง และขณะนี้ถือว่า เงื่อนไขการชุมนุมทุกอย่างจบลงแล้ว จึงไม่ควรยื้อการชุมนุมอีกต่อไป
พ.ต.ต.เสงี่ยม กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ ยังจะจัดการชุมนุมยืดเยื้ออีกต่อไป เพื่อต้องการขัดขวางไม่ให้รัฐบาลบริหารประเทศ ซึ่งถือเป็นการบีบคั้นและกดดันทางการเมืองให้นายกรัฐมนตรียุบสภา หรือ ลาออก พร้อมๆ กับต้องการสร้างสถานการณ์ ไม่ให้มีการบังคับใช้กฎหมายในประเทศจนประเทศไทยกลายเป็นรัฐที่ไร้ขือแป และที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการให้กองทัพออกมาปฏิวัติรัฐประหาร โดยฉกฉวยโอกาสจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง เพราะทราบดีว่า หากนายสุเทพ และ นายอภิสิทธิ์ มีความผิดในการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง บริเวณราชประสงค์ ทางกองทัพย่อมมีความผิดฐานรับคำสั่งไปด้วย แต่คนเสื้อแดงยังมั่นใจว่า กองทัพ ไม่ออกมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อทิศทางเป็นเช่นนั้น ทางกลุ่มคนเสื้อแดงจำเป็นต้องออกมาแสดงพลังทั่วประเทศ
พ.ต.ต.เสงี่ยม กล่าวว่า ในนามแกนนำคนเสื้อแดง ขอยืนยันว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ชุมนุมในพื้นที่กทม. เด็ดขาด เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะ และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ประชาชนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องสูญเสีย จนนำไปสู่สงครามกลางเมือง แต่จะชุมนุมเพื่อแสดงพลังป้องปกรัฐบาลในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ถือเป็นภาคที่มีฐานมวลชนสำคัญของพรรคและคนเสื้อแดง โดยวันที่ 11 พ.ย. ที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 12 พ.ย.นี้ สนามกีฬา 700 ปี จ.เชียงใหม่ วันที่ 13 พ.ย.ที่ จ.อุดรธานี และวันที่ 14 พ.ย. ที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยจะมีแกนนำคนสำคัญร่วมอย่างคับคั่ง
อ้างถอนร่างกม.นิรโทษก่อน 180 วันไม่ได้
นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล ได้แถลงภายหลังการหารือกับฝ่ายกฎหมายของรัฐสภา ว่า ทางฝ่ายกฎหมายยืนยันว่า หากวุฒิสภามีมติคว่ำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แล้วส่งคืนมายังสภา ทางสภาจะดำเนินการใดๆ เพื่อให้ร่างนี้สิ้นผลไปก่อนระยะเวลา 180 วันไม่ได้ จะต้องรอจนกว่าจะครบ 180 วัน แล้วจึงค่อยนำร่างดังกล่าวเข้าพิจารณา ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนที่มาชุมนุมได้เข้าใจว่า สภาไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายค้าน ที่จะให้นำร่างดังกล่าวมาพิจารณา ก่อน 180 วันได้ เพราะจะขัดรัฐธรรมนูญทันที และขอให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล 4 พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส. -ส.ว. ต่างยืนยันแล้วว่า จะไม่นำร่างดังกล่าวกลับมาพิจารณาอีก จึงควรที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และให้โอกาสรัฐบาลในการทำงาน
“ขณะนี้ยังมีเรื่องสำคัญคือ ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่กำลังจะผ่านการพิจารณาของ ส.ว. และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ที่รัฐบาลกำลังจะรับฟังความเห็นของประชาชนทั่วประเทศแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ จึงไม่ควรที่ประชาชนจะอยู่ชุมนุมที่จะเป็นการเลยเถิด ขับไล่รัฐบาลอีก”
เมื่อถามว่าผู้ชุมนุมต่อ ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ราชดำเนินไม่มีความมั่นใจต่อรัฐบาล เพราะมีการออกมาชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นายอำนวยกล่าวยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.นิรโทษฯ การชุมนุมก็เป็นสิทธิ์ของคนเสื้อแดง เช่นเดียวกับการชุมนุมที่ราชดำเนิน
ยอมให้อภิปรายไม่ลงมติ หวังลดกระแส
นายอำนวย กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติว่า ในวันพุธที่ 13 พ.ย. ซึ่งจะมีการประชุมรัฐสภา หลังการพิจารณาผลการเจรจากรอบการค้าเรื่องภาษีระหว่างไทย-สหรัฐฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แล้ว จะมีการเสนอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อหาทางออกในวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งคิดว่าสถานการณ์ขณะนี้จำเป็นที่ต้องใช้กลไกของรัฐสภาแก้ไขความขัดแย้ง
นอกจากนี้ที่ประชุมวิปรัฐบาลยังเห็นว่า ขณะนี้สังคมเกิดความสับสน ดังนั้นจึงขอให้ ส.ส.ที่จะอภิปรายได้ยึดระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ไม่มีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย หรือเสียดสี เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่จะส่งไปยังประชาชนมีการบิดเบือน รวมทั้งวิปรัฐบาลยังมีมติให้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามสถานการณ์ขณะนี้ โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อีกทั้งจะมีการหรือกับฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาเพื่อพิจารณาว่าจะมีช่องทางใดในการดำเนินการยับยั้งร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยไม่จำเป็นต้องรอระยะเวลา 180 วัน หลังจากที่ที่วุฒิสภามีมติคว่ำร่างและส่งกลับมายังสภา
ต่อมานายพีระพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุว่า ในการประชุม ครม.นัดพิเศษ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (11 พ.ย.) มีมติให้สภากำหนด เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 179 ตามที่วิปรัฐบาลเสนอ