ความผยองลำพองในอำนาจของบักเหลี่ยม ถึงขั้นประกาศอย่างอหังการว่า “ถ้าจะสู้แล้วสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น” กำลังเผชิญกับการท้าพิสูจน์ เมื่อสารพัดกลุ่มมวลชน องค์กรต่างๆ รวมตัวเพื่อขับไล่รัฐบาลนางโพยปูโพรกให้ตกเก้าอี้
หลงลำพองอยู่ต่างประเทศ นึกว่าไม่มีใครหน้าไหนมีความสามารถเล่นงาน เอาตัวมาเข้าคุกได้ เมื่อตัวเองสยบกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ กลางน้ำและส่วนหนึ่งของปลายน้ำจนสิ้นสภาพ มองเห็นคนธรรมดาไม่อยู่ในสายตา
นึกว่ากลุ่มคนไม่ยอมสยบนั้นไร้พิษสง ไม่ต่างจากขบวนการขี้ข้าเลียแข้งเลียขา เป็นทาสไร้กระดูกสันหลัง ไม่ยอมรับการปลดปล่อย! ลืมไปว่าความยโสโอหังรังแต่เป็นบ่อเกิดของความหมั่นไส้ ที่ไหนมีแรงกดก็ย่อมมีแรงต้านเช่นกัน
ถ้าประเมินขุมกำลังความผยองอำนาจของฝ่ายบักเหลี่ยมคืออำนาจรัฐคุมโดยนางโพย มีองค์กรของรัฐทุกแห่งพร้อมสยบยินดีรับใช้คนหนีคุกทุกอย่าง! นี่เป็นความวิปริตพิสดารเมื่อคนหนีโทษจำคุกบงการรัฐบาลได้ทุกอย่าง
ภายใต้อำนาจรัฐ กลไกสำคัญในการจัดการมวลชนคือตำรวจ! นี่ยิ่งเป็นความอุบาทว์เมื่อตำรวจกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ต้องมารับใช้ คุ้มครองปกป้องโจรปล้นชาติ แทนการทำตามหน้าที่ ล่าเอาตัวมารับโทษในคุก
ความจริงสุดอนาถคือตั้งแต่หัวขบวนยันท้ายขบวนขององค์กรตำรวจมีเพียงนายตำรวจยศพันตำรวจโทกล้าประกาศว่าบักเหลี่ยมทำผิดกฎหมาย ตำรวจต้องทำหน้าที่เอาตัวมาเข้าคุกในข้อหากบฏ โกงบ้านกินเมืองทำลายชาติ
แล้วเป็นไง มีข่าวว่า ศอ.รส. ซึ่งมีหน้าที่กำกับการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จำกัดสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ จะเล่นงานนายตำรวจผู้นั้นให้มีความผิด! เท่ากับว่าตำรวจทำหน้าที่ปกป้องโจรหนีคุก แทนการทำงานให้คุ้มค่าเงินภาษี
ตำรวจได้แสดงพลังในการจัดการม็อบต่อต้าน คัดค้านพฤติกรรมชั่วของนักการเมืองกังฉินมาโดยตลอด ยกระดับความเหิมเกริม ทำให้ 3 เหล่าทัพถูกสงสัยในหัวใจประชาชนว่ายังยึดมั่นในคำปฏิญาณประดับหน้าประตูหรือไม่
“เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” แต่ผลงานที่ผ่านมากลับวางเฉย ไม่ใส่ใจพฤติกรรมรัฐบาลกังฉินกินเมือง ทั้งๆ ที่ไม่ปรากฏในคำปฏิญาณว่าต้องดูแลนักการเมือง สภาผู้แทนฯ วุฒิสภา แหล่งรวมของโจรชั่ว
ขุมพลังของรัฐบาลนอกจากตำรวจ ยังมีมวลชนเสื้อแดงจำนวนไม่ปรากฏชัด มีพฤติกรรมเผาบ้านเผาเมือง ฆ่าทหาร ปล้นห้างร้าน รีดไถ คุกคามประชาชน ยกพวกทำร้ายคนกลุ่มอื่นๆ สร้างความเสียหายเกินประเมินค่าได้
เสื้อแดงเป็นกองกำลังเถื่อนสนับสนุนซึ่งกันและกันกับตำรวจ แลกเสื้อ ชุดฟอร์ม ทำให้ชาวบ้านไม่รู้ว่าทำไมพวกก่อการร้ายจึงแต่งเครื่องแบบตำรวจปราบจลาจลได้ เมื่อม็อบเสื้อแดงระรานคุกคามศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีใครจับ
รัฐบาล ตำรวจ ม็อบเสื้อแดง ยังมีกองกำลังติดอาวุธสนับสนุน นับเป็นพลังแข็งแกร่ง มีกฎหมายเป็นเครื่องมือจัดการม็อบตรงข้ามรัฐบาลผ่านองค์กรอื่นๆ! ใช้ทั้งวิชามาร อำนาจมืด อิทธิพลเถื่อน รังควาญการชุมนุมฝ่ายตรงข้าม
แล้วซีกของมวลชนคนรักชาติ ต่อต้านรัฐบาลชั่วมีพลังอำนาจอะไร?
ไม่มี นอกจากคนธรรมดามือเปล่า ไร้อำนาจทางกฎหมาย แถมยังพร้อมจะโดนยัดเยียดข้อหาไร้สาระเมื่อมีการปฏิบัติหน้าที่แบบ 2 มาตรฐาน! มีเพียงสัจธรรมสนับสนุนด้วยความจริงที่ว่าไม่มีอำนาจใดต้านพลังประชาชนได้
ประเด็นนี้ยังต้องรอการพิสูจน์อีกครั้งในประเทศไทย ซึ่งมีประชากรเฉย นิ่ง ยอมรับสภาพภายใต้การกดดัน ความเสี่ยงต่อความทุกข์ยากในการดิ้นรนเลี้ยงปากท้อง เมื่อสภาพการเมือง สังคม เศรษฐกิจมีปัญหาเรื้อรังจากความไร้ความสามารถของรัฐบาลขี้ข้าภายใต้คำบงการของบักเหลี่ยม คนหนีคุก
ประชาชนคนรักชาติมีแต่จิตวิญญาณของความพร้อมในการต่อสู้กับอำนาจอธรรม สู้กับนักการเมืองกังฉินเลวทรามต่ำช้า พวกทรยศต่อแผ่นดิน หักหลังผู้เสียภาษี! มีแต่ใจ ความกล้าพร้อมเผชิญความเสี่ยงภัยและคดีอาญา
เพียงแต่ว่าขณะนี้คนไทยต่อต้านระบอบบักเหลี่ยมยังแสดงตัวไม่มากนัก ยุคนี้มีเพียงไม่กี่พันคนในการชุมนุมแต่ละครั้ง ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีประชากรมากกว่า 65 ล้านคน! น่าละอายเมื่อเทียบตัวเลขกับกัมพูชาซึ่งมีพลเมือง 14 ล้านคน แต่ละครั้งมีม็อบมากกว่าหมื่นคนเดินขบวนประท้วงทรราชฮุนเซน
กองทัพยังวางเฉย แม่ทัพบกย้ำซ้ำซากว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” ดูเหมือนไม่รับรู้ใส่ใจกับพฤติกรรมชั่ว เช่น การย่ำยีกฎหมายรัฐธรรมนูญ จาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ การโกงกินมูมมาม ทำลายความมั่นคงของประเทศ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมคนหนีคุกและนักการเมืองทุจริต
ความหวังจะชนะกลุ่มทรราชกังฉินคือจำนวนมวลชนมหาศาลกล้าออกมาเดินขบวนขับไล่ เหนือกว่าแรงต้านของตำรวจและม็อบเสื้อแดง!
อ้อ! ยังมีความหวังริบหรี่กับ ป.ป.ช. และองค์กรอิสระเช่นศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะระดมความกล้าหาญวินิจฉัยพฤติกรรมผิดกฎหมายหรือไม่ และคดีค้างคาศาลขณะนี้จะเป็นดัชนีวัดความอยู่รอดของบ้านเมือง
หลงลำพองอยู่ต่างประเทศ นึกว่าไม่มีใครหน้าไหนมีความสามารถเล่นงาน เอาตัวมาเข้าคุกได้ เมื่อตัวเองสยบกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ กลางน้ำและส่วนหนึ่งของปลายน้ำจนสิ้นสภาพ มองเห็นคนธรรมดาไม่อยู่ในสายตา
นึกว่ากลุ่มคนไม่ยอมสยบนั้นไร้พิษสง ไม่ต่างจากขบวนการขี้ข้าเลียแข้งเลียขา เป็นทาสไร้กระดูกสันหลัง ไม่ยอมรับการปลดปล่อย! ลืมไปว่าความยโสโอหังรังแต่เป็นบ่อเกิดของความหมั่นไส้ ที่ไหนมีแรงกดก็ย่อมมีแรงต้านเช่นกัน
ถ้าประเมินขุมกำลังความผยองอำนาจของฝ่ายบักเหลี่ยมคืออำนาจรัฐคุมโดยนางโพย มีองค์กรของรัฐทุกแห่งพร้อมสยบยินดีรับใช้คนหนีคุกทุกอย่าง! นี่เป็นความวิปริตพิสดารเมื่อคนหนีโทษจำคุกบงการรัฐบาลได้ทุกอย่าง
ภายใต้อำนาจรัฐ กลไกสำคัญในการจัดการมวลชนคือตำรวจ! นี่ยิ่งเป็นความอุบาทว์เมื่อตำรวจกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ต้องมารับใช้ คุ้มครองปกป้องโจรปล้นชาติ แทนการทำตามหน้าที่ ล่าเอาตัวมารับโทษในคุก
ความจริงสุดอนาถคือตั้งแต่หัวขบวนยันท้ายขบวนขององค์กรตำรวจมีเพียงนายตำรวจยศพันตำรวจโทกล้าประกาศว่าบักเหลี่ยมทำผิดกฎหมาย ตำรวจต้องทำหน้าที่เอาตัวมาเข้าคุกในข้อหากบฏ โกงบ้านกินเมืองทำลายชาติ
แล้วเป็นไง มีข่าวว่า ศอ.รส. ซึ่งมีหน้าที่กำกับการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จำกัดสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ จะเล่นงานนายตำรวจผู้นั้นให้มีความผิด! เท่ากับว่าตำรวจทำหน้าที่ปกป้องโจรหนีคุก แทนการทำงานให้คุ้มค่าเงินภาษี
ตำรวจได้แสดงพลังในการจัดการม็อบต่อต้าน คัดค้านพฤติกรรมชั่วของนักการเมืองกังฉินมาโดยตลอด ยกระดับความเหิมเกริม ทำให้ 3 เหล่าทัพถูกสงสัยในหัวใจประชาชนว่ายังยึดมั่นในคำปฏิญาณประดับหน้าประตูหรือไม่
“เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” แต่ผลงานที่ผ่านมากลับวางเฉย ไม่ใส่ใจพฤติกรรมรัฐบาลกังฉินกินเมือง ทั้งๆ ที่ไม่ปรากฏในคำปฏิญาณว่าต้องดูแลนักการเมือง สภาผู้แทนฯ วุฒิสภา แหล่งรวมของโจรชั่ว
ขุมพลังของรัฐบาลนอกจากตำรวจ ยังมีมวลชนเสื้อแดงจำนวนไม่ปรากฏชัด มีพฤติกรรมเผาบ้านเผาเมือง ฆ่าทหาร ปล้นห้างร้าน รีดไถ คุกคามประชาชน ยกพวกทำร้ายคนกลุ่มอื่นๆ สร้างความเสียหายเกินประเมินค่าได้
เสื้อแดงเป็นกองกำลังเถื่อนสนับสนุนซึ่งกันและกันกับตำรวจ แลกเสื้อ ชุดฟอร์ม ทำให้ชาวบ้านไม่รู้ว่าทำไมพวกก่อการร้ายจึงแต่งเครื่องแบบตำรวจปราบจลาจลได้ เมื่อม็อบเสื้อแดงระรานคุกคามศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่มีใครจับ
รัฐบาล ตำรวจ ม็อบเสื้อแดง ยังมีกองกำลังติดอาวุธสนับสนุน นับเป็นพลังแข็งแกร่ง มีกฎหมายเป็นเครื่องมือจัดการม็อบตรงข้ามรัฐบาลผ่านองค์กรอื่นๆ! ใช้ทั้งวิชามาร อำนาจมืด อิทธิพลเถื่อน รังควาญการชุมนุมฝ่ายตรงข้าม
แล้วซีกของมวลชนคนรักชาติ ต่อต้านรัฐบาลชั่วมีพลังอำนาจอะไร?
ไม่มี นอกจากคนธรรมดามือเปล่า ไร้อำนาจทางกฎหมาย แถมยังพร้อมจะโดนยัดเยียดข้อหาไร้สาระเมื่อมีการปฏิบัติหน้าที่แบบ 2 มาตรฐาน! มีเพียงสัจธรรมสนับสนุนด้วยความจริงที่ว่าไม่มีอำนาจใดต้านพลังประชาชนได้
ประเด็นนี้ยังต้องรอการพิสูจน์อีกครั้งในประเทศไทย ซึ่งมีประชากรเฉย นิ่ง ยอมรับสภาพภายใต้การกดดัน ความเสี่ยงต่อความทุกข์ยากในการดิ้นรนเลี้ยงปากท้อง เมื่อสภาพการเมือง สังคม เศรษฐกิจมีปัญหาเรื้อรังจากความไร้ความสามารถของรัฐบาลขี้ข้าภายใต้คำบงการของบักเหลี่ยม คนหนีคุก
ประชาชนคนรักชาติมีแต่จิตวิญญาณของความพร้อมในการต่อสู้กับอำนาจอธรรม สู้กับนักการเมืองกังฉินเลวทรามต่ำช้า พวกทรยศต่อแผ่นดิน หักหลังผู้เสียภาษี! มีแต่ใจ ความกล้าพร้อมเผชิญความเสี่ยงภัยและคดีอาญา
เพียงแต่ว่าขณะนี้คนไทยต่อต้านระบอบบักเหลี่ยมยังแสดงตัวไม่มากนัก ยุคนี้มีเพียงไม่กี่พันคนในการชุมนุมแต่ละครั้ง ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีประชากรมากกว่า 65 ล้านคน! น่าละอายเมื่อเทียบตัวเลขกับกัมพูชาซึ่งมีพลเมือง 14 ล้านคน แต่ละครั้งมีม็อบมากกว่าหมื่นคนเดินขบวนประท้วงทรราชฮุนเซน
กองทัพยังวางเฉย แม่ทัพบกย้ำซ้ำซากว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” ดูเหมือนไม่รับรู้ใส่ใจกับพฤติกรรมชั่ว เช่น การย่ำยีกฎหมายรัฐธรรมนูญ จาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ การโกงกินมูมมาม ทำลายความมั่นคงของประเทศ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมคนหนีคุกและนักการเมืองทุจริต
ความหวังจะชนะกลุ่มทรราชกังฉินคือจำนวนมวลชนมหาศาลกล้าออกมาเดินขบวนขับไล่ เหนือกว่าแรงต้านของตำรวจและม็อบเสื้อแดง!
อ้อ! ยังมีความหวังริบหรี่กับ ป.ป.ช. และองค์กรอิสระเช่นศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะระดมความกล้าหาญวินิจฉัยพฤติกรรมผิดกฎหมายหรือไม่ และคดีค้างคาศาลขณะนี้จะเป็นดัชนีวัดความอยู่รอดของบ้านเมือง
