xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจบ้าน“ขวัญชัย ไพรพนา” “ใหญ่-เจ๋ง”กว่า อดุลย์-ผบ.ตร.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)ขวัญชัย ไพรพนา
สน.พระอาทิตย์/สามยอด

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจการออกมาอุ้มแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ฟอกขาว “ขวัญชัย สารคำ” หรือ “ขวัญชัย ไพรพนา” ประธานชมรมคนรักอุดรที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์การนำเครื่องแบบตำรวจปราบจลาจล(ปจ.) ชุดสีกรมท่า ปักป้ายชื่อขวัญชัย สารคำอกเสื้อด้านขวา และอกเสื้อซ้าย ปักสังกัด บก.ภ.จว.อุดรธานี มาใส่บริเวณหน้ารัฐสภา พื้นที่ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ วันที่มีการพิจารณาวาระร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของตำรวจใหญ่ระดับนายพล ทั้งพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และพล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ว่าไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย
ด้วยอ้างเหตุเป็นชุด “ตำรวจอาสา” หรือ “ตำรวจบ้าน” ซึ่งขวัญชัยผ่านการอบรมรุ่นที่ 3 เมื่อวันที่ 18-20 เมษายน 2556 มีสิทธิที่สามารถแต่งเครื่องแบบได้ และขวัญชัยก็ไม่ได้ติดยศตำรวจ มีเพียงอาร์มบ่งบอกเป็นอาสาสมัครเท่านั้น รวมทั้งไม่ได้ไปทำหน้าที่อะไรที่คล้ายตำรวจ
ขวัญชัยยังเป็น “ที่ปรึกษาตำรวจ จ.อุดรธานี”อีกตำแหน่ง!!!
การให้สิทธิ์ตำรวจอาสาหรือตำรวจบ้านซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการแต่งเครื่องแบบ ที่มีลักษณะคล้าย ทั้งชุดสีดำ สีกรมท่า หรือสีกากี เพื่อให้ผู้สวมใส่เกิดความมั่นใจ และความภาคภูมิในในการทำงาน เหมือน “ยาม”บริษัทรักษาความปลอดภัย ต้องมีเครื่องสวมใส่บ่งบอกหน้าที่ ความรัดผิดชอบ กระตุ้นให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วมทำงานกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ เป็นสิ่งถูกต้อง
แต่ความถูกต้องก็ต้องมีความเหมาะสมควบคู่ไปด้วยไม่ใช่นำเครื่องแบบไปใช้ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมใช้เกินเลยขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบเหมือนที่เรียกว่าเอาไป “กร่าง” ก็เป็นสิ่งไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
เช่นเดียวกับกรณีขวัญชัยแต่งเครื่องแบบชุดสีกรมท่า ที่ตำรวจใหญ่ต่างออกมาแก้ต่างให้ว่าเป็นชุดตำรวจบ้าน หรือตำรวจอาสา ก็ไม่น่าจะคลอบคลุมกับภาระหน้าที่ของตำรวจบ้าน ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี
ภาพการแต่งเครื่องแบบตำรวจบ้านอุดรธานีของขวัญชัยไปปรากฏอยู่บริเวณหน้ารัฐสภา พื้นที่ที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแห่งชาติ กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุม ถึงแม้ไม่ผิดในข้อกฎหมายแต่งกายเรียนแบบเจ้าพนักงาน แต่ในมุมทำให้หลงเชื่อว่าเป็นเจ้าพนักงานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่จะนำมาพิจารณา
“ขวัญชัย”เป็นตำรวจบ้านอุดรธานี เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจอุดรธานี ก็ต้องไปทำหน้าที่อยู่ที่จังวัดอุดรธานี ไม่ใช่รัฐสภา โดยเฉพาะมีเหตุผลใดที่ต้องแต่เครื่องแบบตำรวจบ้านอุดรธานี ที่คล้ายตำรวจ ปจ. ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ในการดูแลความสงบเรียบรอยในพื้นที่ควบคุมตามประกาศ 3 เขตในกรุงเทพมหานคร มาที่กรุงเทพฯ
แม้ขวัญชัยจะอ้างว่ามาเพื่อให้กำลังใจตำรวจจาก สภ.อุดรธานี ที่ถูกเรียกส่งกำลังไปรักษาความปลอดภัยรอบรัฐสภา ซึ่งมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และต้องการมาสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองทั่วไป
กระนั่นก็ต้องถามว่าการมาให้กำลังใจตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ที่ถูกเรียกตัวมาช่วยรักษาความปลอดภัยรอบรัฐสภา จำเป็นหรือไม่ที่ขวัญชัยต้องแต่เครื่องแบบตำรวจบ้านมา เพราะงานดูแลความปลอดภัยครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอกำลังตำรวจภูธรเข้ามาเสริมกำลังตำรวจนครบาล ไม่ได้ขอกำลังเสริมจากตำรวจบ้านมาทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน
การแต่งเครื่องแบบตำรวจบ้านมาครั้งนี้ของขวัญชัยจึงเรียกตามประสาชาวบ้านได้ว่าน่าจะเป็นการ“มั่วนิ่ม”เนียนมากับตำรวจอุดรธานี เพื่ออะไร มีวัตถุประสงค์ใด เป็นสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ต้องตรวจสอบ
เพราะต้องไม่ลืมว่า ตำรวจบ้านจะแต่งเครื่องแบบและเข้าปฏิบัติหน้าที่ใดๆได้ ในแต่ละครั้งต้อง อยู่ภายใต้การควบคุมของนายตำรวจสัญญาบัตรอย่างน้อยหนึ่งนาย ไม่ใช่มั่วแต่เครื่องแบบไปเลย
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพยายามรีบปิดประเด็นการแต่งกายเลียนแบบตำรวจของขวัญชัยให้จบเร็วที่สุด ด้วยการตัดตอนในมุมแค่เครื่องการมีสิทธิแต่งหรือไม่มีสิทธิแต่งเท่านั้น
ไม่ได้ตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆในเรื่องการแต่งเครื่องแบบ โดยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าพนักงาน รวมทั้งเรื่องความเหมาะสมในการแต่งเครื่องแบบที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ในฐานะต้องสังกัด ก็ไม่เห็นพล.ต.ต.บุญลือ ผู้การฯ นำประเด็นนี้มาพิจารณา
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นเช่นนี้ เพราะหากย้อนรอยขวัญชัยตามสายสัมพันธ์แวดวงสีกากีการเมือง ก็ต้องต้องบอกว่า ขวัญชัย น่าจะได้รับการขนานนามให้เป็น “ผบ.ขวัญชัย” เพราะช่วงที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายนายพลปีที่ผ่านมา ในสัมมนากลุ่มคนเสื้อแดง “ขวัญชัย”ก็ประกาศในวงประชุมด้วยย้ำเสียงหนักแน่น
การแต่งตั้งตำรวจในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานี หากจะเอาใครมาเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดี พี่ชาย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประเทศไทย ต้องถามความเห็นคนชื่อ “ขวัญชัย”ก่อน
ทั้งๆที่ตามระเบียบการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ การเสนอแต่งตั้งระดับ ผู้บังคับการ คนที่จะเสนอรายชื่อให้คณะกรรมการขาราชการตำรวจ(ก.ตร.) พิจารณาคือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ไม่ใช่ขวัญชัย ไพรพนา
แต่ดูเหมือนว่าในโลกแห่งความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเพียงข่าวลือ ไม่มีใครออกมายืนยันว่าข้อเท้จจริงเป็นเช่นไร แต่ก็มีเสียงลือหนาหูว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพล ตำแหน่ง รองผบ.ตร.-ผบช.ที่ผ่านมา มีชื่อ “ขวัญชัย”เข้ามาเกี่ยวข้องในการแต่งตั้งนายพลอีสาน
เสียงลือดังกล่าวถูกโฟกัสไปในรายของ พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. อดีตนายเวรและอดีตหัวหน้าสำนักงานเก่าของพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กำกับดุแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนั่งทำงานอยู่บนชั้น 7 สำนักงานพล.ต.อ.อดุลย์ จองเก้าอี้ “ผบช.ภ.4” คุมพื้นที่อีสานตอนบน ฐานเสียงสำคัญของพล.ต.อ.ประชา ตั้งแต่ไก่โห่โดยมีพล.ต.อ.อดุลย์ลูกน้องเก่าพล.ต.ออ.ประชา สนับสนุนอย่างเต็มที่
ทว่าพอชื่อพล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ปรากฏจะไปคุมอีสานตอนบน ก็มีข่าวลือในทำนองขวัญชัยพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ขอเปลี่ยนคนมาคุมในพื้นที่ตัวเองใหม่ เพราะมีความบาดหมางกับพล.ต.ท.ธีระศักดิ์ อยู่
สุดท้ายชื่อพล.ต.ท.ธีระศักดิ์ จึงตกไปอยู่พื้นที่ บช.ภ.3 และมีชื่อพล.ต.ต.อนุชัย เล็งบำรุง รองผบช.น. ขวัญใจคนเสื้อแดงมาแทนที่
ข่าวลือเรื่องนี้เท็จจริงอย่างไรก็ยังไม่มีใครอกมายืนยัน จริงหรือไม่ประการใด แต่ก็เป็นข่าวเมาธ์กันสนั่นเมืองในช่วงที่ผ่านมา
แต่ก็ดูสอดรับกับเหตุผล ทำไมตำรวจถึงมีท่าที่ “อุ้ม” ตำรวจบ้านอย่าง “ขวัญชัย ไพรพนนา”อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเช่นนี้.

กำลังโหลดความคิดเห็น