มือ กม.ปชป.คาด ปธ.ชมรมคนรักอุดรฯ ทำผิดใส่ชุด ตร.ปราบจลาจล แต่งเครื่องแบบโดยไม่มีสิทธิ และแต่งให้คล้าย ตร. มีโทษจำคุก 3 เดือน พร้อมแจ้งความวันนี้ แถมส่อผิด พ.ร.บ.มั่นคงฯ หาก ตร.ที่ขอให้ช่วยไม่เผยตัว “นฤมล” สวดยับ รบ.ประเมินสถานการณ์พลาด ใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ภาพลักษณ์ชาติเสียหาย ท่องเที่ยวกระทบ ส.ส.-ส.ว.ทำงานลำบาก จี้เลิกโดยด่วน
วันนี้ (8 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ใส่ชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลปักชื่อ “ขวัญชัย สาราคำ” สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ว่าพื้นที่ของอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้นั้นคือพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง หากใครจะเข้ามาก็ต้องผ่านการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรับผิดชอบ ในเบื้องต้นตนคิดว่านายขวัญชัยน่าจะทำความผิดใน 2 ลักษณะคือ 1. ทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 146 คือ การแต่งเครื่องแบบของเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ หรือการทำให้ผู้อื่นเชื่อได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่พนักงาน 2. ทำความผิดตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 108 และ 110 ระบุว่า ผู้ใดแต่งกายคล้ายเครื่องแบบตำรวจหรือทำให้ผู้อื่นเชื่อว่าเป็นตำรวจต้องระวังโทษจำคุก 3 เดือน ซึ่งจากภาพที่ปรากฏออกมาตนเชื่อประชาชนโดยทั่วไปก็ต้องเข้าใจว่านายขวัญชัยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ในวันนี้ตนจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีต่อนายขวัญชัยที่ สน.ดุสิต เพราะนายขวัญชัยถือเป็นจำเลยในข้อหาก่อการร้ายของศาลอาญา ซึ่งนายขวัญชัยอ้างว่าเขาเป็นผู้ช่วยของเจ้าพนักงาน หลักก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอให้นายขวัญชัยช่วยงานคือใคร ทำไมถึงไม่แสดงตัวออกมา เพราะถ้าไม่ปรากฏบุคคลที่ใช้นายขวัญชัย ก็ถือว่านายขวัญชัยทำผิดใน พ.ร.บ.ความมั่นคง และการที่ให้จำเลยในข้อหาก่อการร้ายเหมาะสมหรือไม่
ด้านนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 กล่าวว่ากรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงคุมเข้มและปิดถนนหลักหลายสายรอบทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะการตั้งแท่งคอนกรีตและรั้วลวดหนามปิดรอบรัฐสภา ถือว่าหน่วยความมั่นคงและหน่วยข่าวประเมิณสถานการณ์ม็อบผิดพลาดอย่างมาก เป็นการควบคุมเกินกว่าเหตุ และถือว่าเป็นการทำให้เกิดภาพลักษณ์ให้ดูน่ากลัวเกินไป การระดมเจ้าหน้าที่ตํารวจหลายกองร้อยจำนวนเจ้าหน้าที่เป็นพันนายที่ต้องมีภาระเรื่องของการใช้งบประมาณเรื่องเบี้ยเลี้ยงที่ไม่คุ้มกับสถานการณ์
นอกจากนี้ ภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกทำให้นานาชาติเกิดความไม่มั่นใจความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เกิดความหวั่นกลัวไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ยิ่งกว่านั้นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติทั้ง ส.ส.และส.ว.และเจ้าหน้าที่สภาที่กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณต้องเกิดปัญหาอย่างมากในการเดินทาง และสร้างความยากลำบากให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องเข้าชี้แจงสภาฯ โดยต้องแบกขนเอกสารเดินเท้าเข้ามาระยะไกลและเกิดอุปสรรคปัญหาอย่างมาก ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะมีวิจารณญาณสามารถพิจารณาแยกแยะได้ว่ากลุ่มไหนเป็นม็อบ กลุ่มไหนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มไหนหน่วยงานรัฐที่ต้องเข้ามาทำงานในสภาฯ ทั้งนี้ ขอเสนอให้รัฐบาลเร่งยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และเร่งรื้อเครื่องป้องกันกีดขวางการจราจรออกด่วน เพื่อให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นไปโดยราบรื่น
