จับตาเปิดสภาสิงหาเดือด ม็อบโหมโรงสถานการณ์ร้อน

รายงานการเมือง

ฝ่ายต่อต้านปลุกเร้า เร่งระดมมวลชนต่อต้านฝ่ายรัฐบาลอย่างคึกคักเข้มข้น ในห้วงคาบเกี่ยวช่วงเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป 1 ส.ค. ยังไม่ทันเปิดสภาจริงจัง อุณหภูมิก็เริ่มอุ่นขึ้นๆ เพราะบางฝ่ายต้องการให้ร้อนทะลุจุดเดือด แม้โฟกัสประเด็นที่จะตีจุดตายยังไม่ชัดเจนนัก ก็ต้องโหมโรงกันไว้ก่อน

รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยแตะมือพรรคร่วมประกาศชัดจะเข็นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเงาะ วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 7 ส.ค. หรือในสัปดาห์ที่ 2 แต่ฝ่ายต่อต้านก็เล่นเกมดักคอ ดักทาง และตีขลุมปลุกมวลชน บอกว่ารัฐบาลจะสอดไส้เอามาพิจารณากันวันที่ 1 ส.ค.

สั่งประชาชนเตรียมพร้อมเดินทางมายังกทม. เพื่อชุมนุมต่อต้านพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลในการผลักดันกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เลิกเหนียมอาย เปิดหน้าเล่นจะเป็นผู้นำม็อบเต็มตัว พูดเปลือยแบบล่อนจ้อนว่าสู้ในสภาชนะไม่ได้ ต้องออกมาสู้ข้างถนน จะเปลี่ยนแนวที่ยึดมั่นระบอบรัฐสภา มาเล่นการเมืองกลางแจ้ง

พรรคเพื่อไทยก็ได้ทีขย่มแหลก จุดยืนพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป มาดผู้ดีกลายเป็นนักเลงข้างถนน ท้าตีท้าต่อย จ้องใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย โดนคนนินทา หมาดูถูก ไปชุดใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์เสียศูนย์ไปเยอะ

แต่ในเมื่อเลือกจะเล่นเกมนี้แล้ว ต้องไม่กลัวมอมแมม เก็บหน้าหล่อถอยฉากไปก่อน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรประชาธิปัตย์ ไปนั่งยักคิ้วหลิ่วตาสั่งการเฉยๆ เดี๋ยวเกมนี้ "เทพเทือก" ถือธงนำมาลุยเอง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ มือซ้าย ขวา ประกาศชัดเจน จะเป็นแกนนำม็อบลุยแล้ว!!

จับสัญญาณโหมเร่งเกมเร็วผิดปกติ วาระการพิจารณานิรโทษกรรมยังมาไม่ถึง ยังเหลืออีก 1 สัปดาห์ ทำไมจึงรีบร้อนกันนัก นั่นก็เป็นยุทธศาสตร์อุ่นไฟให้ร้อน รอถึงเวลานัดหมายก็สับได้ทันที เป็นการเพิ่มดีกรีไต่ระดับความร้อนแรง วันจริงอาจได้เผาจริง!!

ชั่วโมงนี้ไม่มีเรื่องอื่นใดจะเร่าร้อนกว่าการพิจารณากฎหมายสำคัญในสภาๆ ฝ่ายค้านโดยพรรรคประชาธิปัตย์สุมหัววอร์รูมกันแล้ว จ้องจะฟาดฟันในทุกร่างพ.ร.บ.ของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็น ร่างงบประมาณ เงินกู้ 2 ล้านล้าน นิรโทษกรรม และแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อเห็นช่องทางชำแหละถึง 4 จุดใหญ่ๆ ก็ผิงไฟรอลงดาบ ต้องการให้เดือนสิงหาคมทั้งเดือน เป็นสิงหาเดือด จะถึงขั้นเป็นสิงหาเลือด ก็เอา!!

จะหวังเร่งเกมอนุมานได้ว่าต้องการให้สอดผสานกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่นๆ ที่ขณะนี้ตั้งวงกันยกใหญ่ ม็อบหน้ากากขาวก็ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง สำคัญคือม็อบอพส. 2 หรือกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะหวั่นเกรงอยู่ไม่น้อย ประกาศมาแล้วจะชุมนุมโค่นล้มระบอบทักษิณกันวันที่ 4-7 ส.ค. โยนฟืนเข้ากองไฟกันอุตลุต

ฝ่ายรัฐบาลเองก็งงเหมือนกันไม่รู้ศัตรูจะมาไม้ไหน มากี่กระบวนการ ตั้งวอร์รูมประเมินกันแบบไม่ประมาท เหมือนคราวที่แล้วม็อบอพส.ของ เสธ.อ้าย จะมาแช่แข็ง เลยจัดไม้แข็งกำราบจนกระเจิดกระเจิงไปภายในวันเดียว มาคราวนี้ก็อีกเช่นกัน เตรียมจัดการขั้นเด็ดขาดลุยแตกหักกันในวันสองวัน

ล่าสุดได้จัดการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงแต่หัววัน ใช้มาตรการเขียนเสือให้วัวกลัว ออกมาข่มขู่บลัฟกลับกันในยกแรก ก่อนหน้านี้ "เหลิมบางบอน" ก็ใช้วิธีปล่อยข่าวให้ม็อบหวาดผวา บอกว่าการชุมนุมอาจเจอระเบิดจากมือที่ 3 มือที่ 4 บ้าง ลึกๆเองก็หวาดกลัวม็อบมีเส้นม็อบนี้เช่นเดียวกัน

เจอมุขปลุกระดมของฝ่ายต่อต้านที่สามัคคีบาทากันขนาดนี้รัฐบาลก็ใจสั่นเหมือนกัน ยิ่งสืบทราบว่ามีการเกณฑ์คนมาเต็มที่ โดยเฉพาะจากเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ แต่เฉพาะจากภาคใต้และในกทม.ก็หลายหมื่น ไหนจะของอพส.และเครือข่ายอีก เพียงแต่ยังเป็นการอุ่นเครื่องโหมโรง รอวันดีเดย์เผด็จศึกเท่านั้น

ฉะนั้นรัฐบาลก็ต้องตัดไฟต้นลม แม้จะยังงงอยู่ก็ตามว่าจะมาต่อต้านกันเรื่องอะไรยังไม่มีชนวนเหตุจริงๆ จังๆ เรื่องนิรโทษกรรมก็ยังไม่เข้า แต่มากันแล้ว อีกทั้งเหตุผลก็ชี้แจงก็เป็นการนิรโทษประชาชน ไม่เกี่ยวแกนนำ แต่ก็ถูกเอาประเด็นช่วยทักษิณ และ แกนนำ มาซัดกันตูมตาม

ต้องจับตาว่าเปิดสภา 1 ส.ค. จะรุนแรงแค่ไหน ฝ่ายหนึ่งโหมโรง ฝ่ายหนึ่งตัดเกม ลั่นกลองศึกกันแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่ยังไม่สุกงอมเต็มที่จึงเชื่อว่าวันที่ 1 ส.ค. จะยังไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนัก แต่ต้องจับตาหลังจากนั้นไป จะมีการโหมประโคมประเด็น สาดโคลนกันต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มดีกรีความร้อนแรง

จนถึงวันพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม 7 ส.ค. เราอาจได้เห็นภาพซ้ำเดิม มวลชนปิดล้อมหน้าสภาไม่ให้ส.ส.เข้าไปทำหน้าที่พิจารณากฎหมาย โดยอ้างว่าจะเป็นการช่วยเหลือแกนนำ และ ทักษิณ นักโทษหลบหนีคดี ถ้าม็อบแข็งแรง สู้ไม่ถอยจริงๆ รัฐบาลตกที่นั่งลำบากแน่ แม้จะมีการเกณฑ์เจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่อาจนิ่งนอนใจ

หากม็อบกล้าขวางกล้าลุยจริงๆ ส.ส.คงแหกด่านเข้าสภาลำบาก ดีไม่ดีเข้าไปอาจถูกปิดล้อม เหตุการณ์คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้น อยู่ที่ทีมยุทธศาสตร์ของแต่ละฝ่ายจะแก้เกม พลิกบทให้มาอยู่เหนือคู่แข่งอย่างไร เพราะไม่ใช่แค่เรื่องนิรโทษกรรมเท่านั้นที่จะเป็นชนวน พรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายโค่นระบอบทักษิณ เตรียมลากยาวพ่วงกฎหมายฉบับอื่นๆ

น่าจับตาไปที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีการเตรียมประเด็นไว้โจมตีรัฐบาลอีกรอบ เรื่องกฎหมายการเงินต่างๆ ยิ่งน่าสนใจ กรณีที่องค์อิสระจะพิจารณากฎหมายต่างๆเหล่านี้ เป็นส่วนผสมที่สำคัญ หากวันดีคืนดีในช่วงเดือนส.ค. มีการตีความกฎหมายที่ยื่นไว้ บอกว่าขัดรัฐธรรมนูญ หรือขัดหลักการบริหารอะไรก็แล้วแต่ นั่นคือชนวนเชื้อไฟชั้นเลิศของฝ่ายต่อต้าน ที่จะเร่งเกมสุมฟืนใส่ไฟ ถึงชั่วโมงนั้นรัฐบาลอาจตั้งรับไม่ทัน

สารพัดศัตรูรอบทิศทาง นายใหญ่หรือแกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงได้พร่ำบอกส.ส.อยู่ทุกวันให้ขยันลงพื้นที่ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะสถานการณ์ที่ดูนิ่งๆ ลมสงบอาจมีพายุใหญ่ตามมา ถ้ากลับไม่ได้ไปไม่ถึง ก็ต้องยุบสภาไปเลือกตั้งใหม่ เป็นไพ่ใบสุดท้ายที่ต้องทิ้งลงไป ด้วยคิดว่าชั่วโมงนี้เลือกตั้งอย่างไรก็ชนะ!!