xs
xsm
sm
md
lg

สุเทพ ต้องเป่านกหวีดออกมาตอนนี้อย่ายื้อรอจนแพ้แก้ไขไม่ทัน !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

หลายคนอาจจะผิดหวัง หรือบางคนอาจจะคิดไว้แล้วว่าน่าจะต้องออกมารูปนี้ สำหรับท่าทีของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์บางคน โดยเฉพาะ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เรียกว่าเป็น "ขาใหญ่"ระดับตำนานคนหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะก่อนหน้านี้พูดให้ความหวังกับคนที่อยู่ข้างหลังให้เข้าใจกันว่าคราวนี่เอาจริงแน่ เพราะทนไม่ไหวกับการละเมิดหลักนิติรัฐ นิติธรรมของบ้านเมือง จากรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เครือข่ายของระบอบทักษิณ ถ้าฟังจากบนเวทีผ่าความจริงเมื่อวันก่อนเข้าใจว่า คราวนี้ประชาธิปัตย์พร้อมที่จะ "เดินนำหน้าเอง" และความหมายก็คือจะเริ่ม "เป่านกหวีดยาว" ตั้งแต่ วันที่ 31 กรกฎาคม เป็นต้นไป ต่อเนื่องไปทั้งเดือนสิงหาคม

ถ้าฟังจากคำพูดบนเวที"ผ่าความจริง"ของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมที่สวนเบญจสิริ ไม่ว่าจะเป็น นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ที่เรียกร้องให้เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเข้ากรุงเทพฯกันได้เลย พวกเขาพร้อมที่จะนำแล้ว ถัดมาก็คนสำคัญ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่คราวนี้ปราศรัยเร่งเร้าอย่างดุเดือดส่งสัญญาณชัดว่า "ต้องเป่านกหวีดยาว"เริ่มตั้งแต่ขัดขวางการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมวาระแรก วันที่ 7 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยย้ำว่าถ้าแพ้ในสภาวันนั้น "ก็ให้เป่านกหวีดยาวไปทั้งเดือนเลย" นี่คือคำพูดของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่พูดจาท่าทางดุดันเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ด้วยท่าทีและคำพูดดังกล่าวของคนสำคัญในพรรคประชาธิปัตย์ทำให้หลายคนเชื่อว่าการชุมนุมต่อต้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษฯและรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ จะต้องดุเดือดและเข้มข้นกว่าทุกครั้งแน่ เพราะเมื่อมีมวลชนของพรรคประชาธิปัตย์ออกมานำและเมื่อสมทบกับสารพัดกลุ่มที่ "ไม่เอาทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ทั้งกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม กลุ่มหน้ากากขาว รวมทั้งกลุ่มพี่น้องมวลชนพันธมิตรฯที่เดินออกไปอย่างอิสระ เชื่อว่ามีพลังแน่ และเมื่อพิจารณาจากเวทีผ่าความจริงครั้งล่าสุดเมื่อค่ำวันพุธที่ 31 กรกฎคมที่ผ่านมา ก็มีมวลชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก ซึ่งก็ถือว่ามีแนวร่วม มีคนพร้อมเข้าร่วมเดินตามหลังพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก

อย่างไรก็ดีจากท่าทีล่าสุดของ สุเทพ เทือกสุบรรณ บนเวที กลับมีความชัดเจนไปอีกแบบนั่นคือ เขาบอกว่าจะยืนหยัดสู้ในสภาอย่างเต็มที่ ถ้าผ่านวาระแรก ไปถึงวาระสองในขั้นแปรญัตติก็จะอภิปรายแปรญัตติกันมุกเม็ดทุกมาตรา จนกระทั่งไปถึงขั้นลงมติวาระสาม ถึงตอนนั้นหากแพ้อีกก็"จะเป่านกหวีดเลยโดยไม่รอให้ใครสั่ง" ความหมายคราวนี้เริ่มผิดเพี้ยนไปจากเดิมที่บอกให้มวลชนเก็บเสื้อผ้ายีดใส่กระเป่าเข้ากรุงเทพฯมาตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมต่อเนื่องกันไป แต่ล่าสุด สุเทพ กลับพูดว่าให้รอหลังจากแพ้วาระสามก่อน มันอะไรกันแน่ "เรียกว่าพลิกพลิ้ว"หรือเปล่า

หรือว่าเป็นคำพูดที่มาทีหลัง หลังจากที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ไม่ชุมนุมเนื่องจากติดเงื่อนไขการประกันตัวจากศาล จากการถูกยัดเยียดคดีเป็นผู้ก่อการร้ายในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งเห็นว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯมีข้อจำกัดหากจะออกมาต้องมีเงื่อนไขให้เกิดการปฏิรูปทางการเมืองอย่างแท้จริงเท่านั้น ไม่ใช่ต้องการ "เปลี่ยนขั้วทางการเมือง" จะด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่าทำให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังไม่ยอมเป่านกหวีดนำขบวน

อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากคำพูดดังกล่าวของเขาที่ว่าจะสู้ในสภาจนถึงที่สุดนั้นคือเมื่อแพ้ในวาระที่สาม แล้วถึงเป่านกหวีดออกมา"แบบม้วนเดียวจบ" คำถามก็คือทำไมต้องทนรอนานถึงขนาดนั้น เพราะถึงอย่างไรคำตอบมีอยู่ล่วงหน้าแล้วว่า "มันแพ้แหงๆ"ไม่เห็นทางชนะในสภาได้เลย ต่อให้ยกสองเท้าขึ้นมาช่วยก็ยังแพ้ ดังนั้นเมื่อรู้ว่าแพ้ทำไมถึงไม่ออกมาขัดขวางตั้งแต่ต้น ทำไมต้องให้มวลชนที่เก็บเสื้อผ้าออกมาแล้วต้องละล้าละลัง อย่าให้คนอื่นเขาค่อนขอดรู้ทันว่า"ไม่ลงทุนชอบแอบอยู่ข้างหลังคนอื่นรอเก็บเกี่ยว" คราวนี้แหละถึงเวลาพิสูจน์แล้วว่า "มันไม่จริง"

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงและสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าต้องการล้มร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่อำพรางช่วย ทักษิณ ชินวัตรในวันหน้า จะต้องมีมวลชนประชาธิปัตย์ และที่สำคัญต้องมีคนสำคัญในพรรคประชาธิปัตย์ออกมานำขบวน และต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ไม่ต้องรีรออะไรอีกต่อไปแล้ว อย่าไปรอให้แพ้ในวาระที่สามเสียก่อนแล้วค่อยออกมา เพราะถึงอย่างไรมันก็แพ้อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นออกมาแล้วจะมีประโยชน์อะไร ในทางตรงกันข้ามการไปสู้แบบนั้นยิ่งไปสร้างความชอบธรรมให้กับระบอบทักษิณ เสียอีก ทำไมไม่ออกมาตั้งแต่ตอนนี้ ทำไมไม่"เป่านกหวีดยาวทั้งเดือน"อย่างที่พูดตั้งแต่แรก มัวรีรออะไรอยู่ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น