ผบ.ตร.โว พ.ร.บ.มั่นคง ไม่กระทบชาวบ้าน แต่รับอยากให้เลิก จ่อเปิดถนนบางสาย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยมารอพบนายกฯ เล่าการใช้ พ.ร.บ.มั่นคง แต่รับอยากเลิกใช้ ขอดูปัจจัยอื่นก่อน พร้อมเปิดถนนบางเส้น โวไม่กระทบชาวบ้านมาก อ้างกฎหมายรองรับสถานการณ์ย่อมดี ยังไม่รู้มือมืดยิงปืนใส่ศาลฎีกา ด้านรอง ผบ.ตร.ไม่ประมาทกองทัพโค่นแม้ว

วันนี้ (8 ส.ค.) ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเวลา 08.00 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่าวันนี้ (8 ส.ค.) ได้มารายงานสถานการณ์ในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบ แต่โดยส่วนตัวอยากให้ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่ทั้งนี้ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม เห็นว่าควรจะเปิดเส้นทางในบางเส้นเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้จะต้องมีการหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะเป็นเส้นทางใดบ้าง แต่หากมีการชุมนุมรอบใหม่ในช่วงของการพิจารณาวาระ 3 ตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าจะออกมาอีก ก็จะต้องมีการพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ อีกครั้ง

“การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงที่ผ่านมาไม่กระทบต่อประชาชนมากนัก ซึ่งการมีกฎหมายไว้รองรับต่อสถานการณ์ย่อมส่งผลดีต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง” ผบ.ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการยิงปืนจุด 38 เข้าในบริเวณศาลฎีกาในช่วงเวลา 04.00 น.ของวันที่ 7 ส.ค.มีความคืบหน้าอย่างไร ผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ต้องขอตรวจสอบก่อน

ขณะที่รัฐสภา ในวันนี้จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ต่อในเวลา 10.00 น. ภายหลังจากที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา สั่งปิดการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยการรักษาความปลอดภัยโดยรอบรัฐสภา ตำรวจปราบจลาจลได้เข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยตามจุดต่างๆ และยังคงไม่เคลื่อนย้ายแท่งแบริเออร์ออกจากพื้นที่ โดยล่าสุดเริ่มมี ส.ส.บางส่วน เริ่มทยอยเดินทางเพื่อเตรียมตัวประชุมแล้ว

ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่า ทาง ศอ.รส. พอใจกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวานนี้ ที่ไม่ดื้อดึงเข้าไปเขตหวงห้าม ตาม พ.ร.บ.มั่นคง ทำให้ไม่มีเหตุวุ่นวายมากนัก แต่ทาง ศอ.รส.ขอประเมินสถานการณ์ในวันนี้ (8 ส.ค.) อีก 1 วัน ก่อนที่จะพิจารณาว่าจะยืดหรือลดวันประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง ที่เดิมกำหนดถึงวันที่ 10 ส.ค.นี้ ส่วนเหตุผลเพราะว่ายังมีกลุ่มผู้ชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. อยู่ที่สวนลุมพินี ซึ่งประมาทไม่ได้ว่าจะมีแผนทำอะไรอีก และไม่รู้ว่าจะมีมวลชนเข้ามาสมทบอีกมากแค่ไหน ดังนั้น ทาง ศอ.รส.จึงจำเป็นต้องตรึงกำลังตำรวจไว้ที่ 35 กองร้อย ควบคุมสถานที่สำคัญต่อไป

นอกจากนี้ กรณีที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุม 5 ราย รวมทั้ง ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล ที่ฝ่าฝืนเข้าเขตหวงห้ามนั้น พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ทาง ศอ.รส.มอบหมายให้คณะทำงานด้านกฎหมาย ที่มี พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.เป็นผู้ดูแลดำเนินการ เบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงต้องตั้งหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวต่อสู้คดีต่อไป