xs
xsm
sm
md
lg

ร้องรัฐละเมิด ปล่อยอัยการ นั่งบอร์ดรสก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 16 ต.ค.) พ.ท. พ.ญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ประธานเครือข่ายพ่อแม่เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา นายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ หัวหน้าพรรคพลังงานไทย เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ผ่านนางวิสา เบญจะมโน กรรมการสิทธิฯ ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการควบคุมดูแลให้รัฐบาลปฏิบัติตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิเด็ก และว่าด้วยการต่อต้านคอร์รัปชัน โดยพ.ท.พ.ญ.กมลพรรณ ระบุว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยบริหารประเทศโดยขัดต่ออนุสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่ไทยเป็นสมาชิกหลายฉบับ ทั้งการมีกฎหมายเอื้อต่อการคอร์รัปชัน มีผลประโยชน์ทับซ้อน และละเมิดสิทธิเด็กด้านการศึกษา เช่น การคงกฎหมาย พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ฉบับที่ 5 และ ฉบับที่ 6 พ.ศ. 2550 ที่กำหนดให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจนั้นสามารถ ไปดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการ หรือบอร์ดในรัฐวิสาหกิจอื่นๆ รวมทั้งรัฐธรรมนูญ มาตรา 255 วรรคหก ที่กำหนดให้พนักงานอัยการ สามารถไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจได้ ทำให้คนเหล่านี้ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือจัดการให้กลุ่มธุรกิจ สามารถหลบเลี่ยงการถูกตรวจสอบโดยแลกกับ ผลประโยชน์ตอบแทนในรูปของเบี้ยประชุมกรรมการ โบนัส การที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา102 งดเว้นไม่ให้ตรวจสอบกรณีการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา มาใช้บังคับกับการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ ที่มีอำนาจ กำกับ ดูแลควบคุม หรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชน ที่หน่วยงานของรัฐถือหุ้น หรือเข้าร่วมทุน
ขณะที่ในส่วนการละเมิดสิทธิเด็กพบว่า การจัดการศึกษาของรัฐ ที่ยึดระบบแอดมิชชั่น และหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่ได้เป็นไปตาม มาตรา 6 มาตรา 8 มาตรา 9 และ มาตรา 22 ของพ.ร.บ.การศึกษา พ.ศ.2545 ที่กำหนดว่า การจัดการศึกษาต้องยึดผู้เรียนสำคัญที่สุด สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ เพราะระบบการศึกษาปัจจุบันมีการบังคับเรียน และสอบแปดหมวดสาระ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพ ตามความถนัด ความสนใจของผู้เรียนได้ ทำให้เด็กไทยเรียนหนักที่สุดเป็นที่สองของโลก แต่ไอคิวเด็กไทยต่ำ คุณภาพการศึกษาไทยตกต่ำ ขณะเดียวกันก็มีการเก็บเงินจากผู้ปกครอง แสวงหาประโยชน์จากเด็กในรูปของโรงเรียนกวดวิชา อีกทั้งหลักสูตรการศึกษาที่จัดให้เด็กเรียนทุกวิชา ทั้งที่บางวิชาเรียนมาแล้ว หรือไม่ถนัดก็เพื่อให้โรงพิมพ์ต่างๆ มีรายได้จากการขายหนังสือ ภาระครูสอนหนัก แต่ไม่เกิดประโยชน์ต่อนักเรียน ส่งผลให้อัตราการออกจากโรงเรียนกลางคันเพิ่มขึ้น
“การที่นายกฯชี้แจงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเรื่องของสิทธิสตรี แต่สิทธิเด็กไทยกลับถูกละเมิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยต่างๆ ในการกำหนดหลักสูตรการเรียน การสอบ และระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย การแก้ไขปัญหาการศึกษาขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ผู้จัดการศึกษาล้วนเป็นคนเดิม ความคิดเดิม ทำให้การศึกษาไทยไม่พัฒนา และละเมิดศักยภาพเด็กมานาน จึงขอให้กรรมการสิทธิฯ ตรวจสอบการละเมิดสิทธิประชาชนและการไม่ทำตามพันธกรณีระหว่างประเทศของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีด้วย”
กำลังโหลดความคิดเห็น