สพฐ.เสนอ กมธ.ศึกษา ช่วยผลักดันเสนอของบประมาณปี 57 เพิ่มเติมอีก 1.5 หมื่นล.เพื่อหนุนในการจ้างบุคลากร-ซ่อมอาคารเรียนที่อายุมากกว่า 30 ปีใน ร.ร.กว่า 1 หมื่นโรง และงบซื้อครุภัณฑ์เพิ่มเติม
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายประกอบ รัตนพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังคณะ กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ประชุมสัญจรร่วมกับผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า กมธ.การศึกษาสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินสายประชุมสัญจรเยือนหน่วยงานด้านการศึกษา เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนการจัดการศึกษาและพัฒนาการศึกษาตามนโยบายรัฐบาล พร้อมติดตามโครงการที่มีความสำคัญกับผลการบริหารงานรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ว่ามีปัญหาและอุปสรรคใดบ้าง และดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายหรือไม่ รวมถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ด้วย โดยที่ประชุมได้หารือในประเด็นหลัก สำคัญ ได้แก่ กระบวนการจัดการเรียนการสอนแนวใหม่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่อยากให้ สพฐ.ดำเนินการแก้ปัญหาเชิงลึกอย่างจริงจังมากขึ้น และการแก้ปัญหาการศึกษาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.ได้นำเสนอผลการดำเนินงานที่สำคัญต่างๆ ที่เป็นหัวใจของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะประเด็นการจัดการเรียนการสอน ได้มีการเตรียมการและพัฒนาเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมของครูก่อนเปิดภาคเรียน รวมถึงลดชั่วโมงเรียนของเด็กให้น้อยลง และเน้นส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ ทักษะชีวิตของเด็กเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ สพฐ.ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติ ซึ่งหากต้องการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาก็จะช่วยทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพมากกว่าการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ ส่วนปัญหาการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการประสานหน่วยงานความมั่นคงในการดูแลความปลอดภัยครูอย่างเข้มงวด รวมถึงการปรับการจัดการเรียนการสอนในพื้นนี้จะต้องมีความเป็นอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่
ทั้งนี้ สพฐ.ยังได้เสนอต่อ กมธ.การศึกษา ในการขอสนับสนุนช่วยผลักดันงบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณรายจ่ายปี 2557 ที่ยังขาดอยู่ 3 เรื่อง ในวงเงิน 15,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.ความจำเป็นในการจ้างบุคลากร เนื่องจากอัตรากำลังครูมีจำกัด จึงต้องมีอัตราจ้างมาทดแทนเป็นการชั่วคราวก่อน ทั้งในส่วนของนักการภารโรง และครูในสาขาที่ขาดแคลน เช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ 2.การซ่อมแซมอาคารเรียน ที่ สพฐ.มีบัญชีรายชื่ออาคารเรียนมีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ในโรงเรียนมากกว่า 10,000 โรง จึงจำเป็นต้องทยอยให้การสนับสนุนเพื่อซ่อมแซม และ 3.คุรุภัณฑ์โรงเรียน ยังขาดแคลนและไม่มีความทันสมัยที่จะรองรับในการเข้าสู่ความเป็นสากลและความเป็นนานาชาติ
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายประกอบ รัตนพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังคณะ กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ประชุมสัญจรร่วมกับผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า กมธ.การศึกษาสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินสายประชุมสัญจรเยือนหน่วยงานด้านการศึกษา เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนการจัดการศึกษาและพัฒนาการศึกษาตามนโยบายรัฐบาล พร้อมติดตามโครงการที่มีความสำคัญกับผลการบริหารงานรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ว่ามีปัญหาและอุปสรรคใดบ้าง และดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายหรือไม่ รวมถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ด้วย โดยที่ประชุมได้หารือในประเด็นหลัก สำคัญ ได้แก่ กระบวนการจัดการเรียนการสอนแนวใหม่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่อยากให้ สพฐ.ดำเนินการแก้ปัญหาเชิงลึกอย่างจริงจังมากขึ้น และการแก้ปัญหาการศึกษาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.ได้นำเสนอผลการดำเนินงานที่สำคัญต่างๆ ที่เป็นหัวใจของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะประเด็นการจัดการเรียนการสอน ได้มีการเตรียมการและพัฒนาเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมของครูก่อนเปิดภาคเรียน รวมถึงลดชั่วโมงเรียนของเด็กให้น้อยลง และเน้นส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ ทักษะชีวิตของเด็กเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ สพฐ.ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติ ซึ่งหากต้องการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาก็จะช่วยทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพมากกว่าการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ ส่วนปัญหาการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการประสานหน่วยงานความมั่นคงในการดูแลความปลอดภัยครูอย่างเข้มงวด รวมถึงการปรับการจัดการเรียนการสอนในพื้นนี้จะต้องมีความเป็นอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่
ทั้งนี้ สพฐ.ยังได้เสนอต่อ กมธ.การศึกษา ในการขอสนับสนุนช่วยผลักดันงบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณรายจ่ายปี 2557 ที่ยังขาดอยู่ 3 เรื่อง ในวงเงิน 15,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.ความจำเป็นในการจ้างบุคลากร เนื่องจากอัตรากำลังครูมีจำกัด จึงต้องมีอัตราจ้างมาทดแทนเป็นการชั่วคราวก่อน ทั้งในส่วนของนักการภารโรง และครูในสาขาที่ขาดแคลน เช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ 2.การซ่อมแซมอาคารเรียน ที่ สพฐ.มีบัญชีรายชื่ออาคารเรียนมีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ในโรงเรียนมากกว่า 10,000 โรง จึงจำเป็นต้องทยอยให้การสนับสนุนเพื่อซ่อมแซม และ 3.คุรุภัณฑ์โรงเรียน ยังขาดแคลนและไม่มีความทันสมัยที่จะรองรับในการเข้าสู่ความเป็นสากลและความเป็นนานาชาติ
