xs
xsm
sm
md
lg

“กกร.”จี้รัฐโด๊ปยาแรง ส่งออกวูบ-หนี้ปชช.พุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “กกร.” 2 ก.ย. เล็งถกรับมือส่งออกปีนี้โตไม่ถึง 3% แถมแรงซื้อครึ่งปีหลังส่งสัญญาณดิ่งหนัก เผยภาคการผลิตเริ่มลดกำลังการผลิต ไม่จ้างคนเพิ่มรัดเข็มขัดมากขึ้น ขณะที่อีสานโพลชี้ เศรษฐกิจไทยเป็นช่วงขาลง ยุค “ปู-มาร์ค” ความอยู่ดีกินดีไม่ต่างกันประชาชนผู้บริโภคชาวบุรีรัมย์โวยไข่ไก่ราคาแพงฟองละ 4.50 บาท

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) วันที่ 2 ก.ย.นี้ ส.อ.ท.คงจะหารือถึงภาพรวมการส่งออกไทยและแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเห็นว่ารัฐบาลควรจะเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ ให้เร็วขึ้น รวมถึงความชัดเจนถึง โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โครงการเมกะโปรเจ็กต์ 2 ล้านล้านบาทเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า ส.อ.ท.คงจะหารือในที่ประชุมกกร.ถึงแนวโน้มการส่งออกของไทยปีนี้ซึ่งส่วนตัวคาดว่าจะโตเฉลี่ยไม่ถึง 3% โดยมีแนวโน้มจะโตเพียง 1-2% โดยคาดว่าไตรมาส 4 จะเริ่มเห็นการส่งออกขยับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่เศรษฐกิจโลกภาพรวมทั้งจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่นที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตามตลาดในประเทศเองพบว่าแรงซื้อต่ำลงมากโดยเฉพาะครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะยังคงไม่ฟื้นตัวเนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ผลพวงจากความไม่เชื่อมั่นการบริโภคทำให้ภาคการผลิตส่วนหนึ่งไม่สามารถใช้อัตรากำลังการผลิตได้เต็มที่โดยเฉลี่ยขณะนี้ลดกำลังการผลิตเหลือเพียง 60-70% จึงทำให้ไม่มีการขยายการจ้างงานในช่วงนี้

***อีสานโพลชี้ ศก.ขาลง

ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “ความเห็นชาวอีสาน ต่อภาวะเศรษฐกิจไทย” เพื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวอีสาน ต่อภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค. 2556 จากกลุ่มตัวอย่างคนอีสานอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,055 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ หนองคาย ชัยภูมิ เลย อุบลราชธานี อุดรธานี นครพนม หนองบัวลำภู สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สกลนคร มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และบึงกาฬ

ผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อันดับหนึ่งร้อยละ 44.5 รู้สึกว่าเศรษฐกิจเป็นช่วงขาลง รองลงมาร้อยละ 26.9 รู้สึกว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงทรงตัว อีกร้อยละ 19.8 รู้สึกไม่แน่ใจ โดยมีเพียงร้อยละ 8.8 ที่รู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น

หนี้สินครัวเรือนของกลุ่มตัวอย่างในปัจจุบัน คือช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปรียบเทียบกับในอดีต ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 61.9 รู้สึกว่ามีหนี้สินครัวเรือนพอๆ กัน รองลงมาร้อยละ 14.1 รู้สึกไม่แน่ใจ อีกร้อยละ 12.5 รู้สึกว่าหนี้สินครัวเรือนในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์สูงกว่า และอีกร้อยละ 11.5 รู้สึกว่าหนี้สินครัวเรือนในช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์สูงกว่า

สำหรับประเด็นของมูลค่าทรัพย์สินครัวเรือนของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.4 รู้สึกว่าช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์และช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีมูลค่าทรัพย์สินครัวเรือนพอๆ กัน

อีสานโพลได้สอบถามกลุ่มตัววอย่างชาวอีสานว่า มีความกังวลหรือไม่ประเทศไทยอาจเข้าสู่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ข้าวของแพง ผู้คนตกงาน มีหนี้สินมาก และธุรกิจย่ำแย่ ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 42.1 รู้สึกกังวลเล็กน้อย รองลงมาร้อยละ 38.9 รู้สึกกังวลมาก อีกร้อยละ 11.4 ไม่กังวลเลย และร้อยละ 7.6 รู้สึกไม่แน่ใจ

ดร.สุทินกล่าวว่า จากผลสำรวจจะเห็นว่า กลุ่มตัวอย่างชาวอีสานรู้สึกว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาลง และกังวลว่าวิกฤตทางเศรษฐกิจหรือความยากลำบากทางเศรษฐกิจอาจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลา 1-2 ปี ในช่วงเศรษฐกิจขาลงปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงจะออกลายเป็นตัวฉุดการบริโภคภายในประเทศให้ลดลงและกระทบเป็นลูกโซ่ ดังนั้น ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวมีแนวโน้มลากยาวไปถึงไตรมาส 4

*** บุรีรัมย์โวยไข่ไก่แพง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจราคาไข่ไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์พบว่าไข่ไก่ทุกขนาดปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะเบอร์ 0 ราคาฟองละ 4.50 บาท ส่วนเบอร์ 1 ฟองละ 4.20 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 4 บาท เบอร์ 3 ฟองละ 3.80 บาท ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ที่ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากไข่ไก่ถือเป็นอาหารหลัก นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบกับแม่ค้าขายปลีก ที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนด้วย

โดยนางประภา แก้วเอก อายุ 42 ปี แม่ค้าขายไข่ไก่ กล่าวว่า ปกติจะรับไข่ไก่มาขายวันละ 160 แผง แต่หลังจากไข่ไก่แพงขึ้น ต้องลดลงเหลือวันละประมาณ 80 แผง เนื่องจากไม่มีเงินทุนเพียงพอ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาทางแก้ไขปัญหาไข่แพง รวมถึงข้าวของอื่นๆที่ได้ปรับราคาสูงขึ้น

ขณะที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับแม่ค้าขายไข่ไก่ ในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เปิดจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้าราคาถูกกว่าท้องตลาดฟองละ 50 สตางค์ โดยนำไข่ไก่เบอร์ 3 มาจำหน่ายทุกวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ เฉลี่ยวันละ 200 แผง ติดต่อกันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น