อีสานโพลสำรวจประชาชนชาวอีสาน 20 จังหวัด ส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาลง กังวลอาจจะเกิดวิกฤต มูลค่าทรัพย์สิน หนี้สินครัวเรือน และความอยู่ดีกินดีในยุค “นายกฯ ปู” ไม่แตกต่างจาก “นายกฯ มาร์ค”
ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “ความเห็นชาวอีสาน ต่อภาวะเศรษฐกิจไทย” เพื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวอีสาน ต่อภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค. 2556 จากกลุ่มตัวอย่างคนอีสานอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,055 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ หนองคาย ชัยภูมิ เลย อุบลราชธานี อุดรธานี นครพนม หนองบัวลำภู สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สกลนคร มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และบึงกาฬ
ผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน อันดับหนึ่งร้อยละ 44.5 รู้สึกว่าเศรษฐกิจเป็นช่วงขาลง รองลงมาร้อยละ 26.9 รู้สึกว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงทรงตัว อีกร้อยละ 19.8 รู้สึกไม่แน่ใจ โดยมีเพียงร้อยละ 8.8 ที่รู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น
ส่วนความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในประเด็นต่างๆ เปรียบเทียบกับในอดีตนั้น เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างว่า หนี้สินครัวเรือนของกลุ่มตัวอย่างในปัจจุบัน คือช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปรียบเทียบกับในอดีต ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 61.9 รู้สึกว่ามีหนี้สินครัวเรือนพอๆ กัน รองลงมาร้อยละ 14.1 รู้สึกไม่แน่ใจ อีกร้อยละ 12.5 รู้สึกว่าหนี้สินครัวเรือนในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์สูงกว่า และอีกร้อยละ 11.5 รู้สึกว่าหนี้สินครัวเรือนในช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์สูงกว่า
สำหรับประเด็นของมูลค่าทรัพย์สินครัวเรือนของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.4 รู้สึกว่าช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์และช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีมูลค่าทรัพย์สินครัวเรือนพอๆ กัน รองลงมาร้อยละ 20.2 รู้สึกว่าช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีทรัพย์สินครัวเรือนมากกว่าช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ส่วนกลุ่มตัวอย่างอีกร้อยละ 14.7 รู้สึกไม่แน่ใจ และร้อยละ 5.5 รู้สึกว่าช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ครอบครัวของตนมีมูลค่าทรัพย์สินครัวเรือนมากกว่า
เมื่อให้เปรียบเทียบความอยู่ดีกินดี ของช่วงปัจจุบันคือช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และช่วงอดีตคือช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 46.7 รู้สึกว่า กินดีอยู่ดีพอๆ กัน รองลงมาร้อยละ 29.9 รู้สึกว่าช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ดีกินดีกว่า และร้อยละ 16.8 รู้สึกไม่แน่ใจ โดยมีเพียงร้อยละ 6.5 ที่รู้สึกว่าช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อยู่ดีกินดีมากกว่า
อีสานโพลได้สอบถามกลุ่มตัววอย่างชาวอีสานว่า มีความกังวลหรือไม่ประเทศไทยอาจเข้าสู่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ข้าวของแพง ผู้คนตกงาน มีหนี้สินมาก และธุรกิจย่ำแย่ ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 42.1 รู้สึกกังวลเล็กน้อย รองลงมาร้อยละ 38.9 รู้สึกกังวลมาก อีกร้อยละ 11.4 ไม่กังวลเลย และร้อยละ 7.6 รู้สึกไม่แน่ใจ
ดร.สุทินกล่าวว่า จากผลสำรวจจะเห็นว่า กลุ่มตัวอย่างชาวอีสานรู้สึกว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาลง และกังวลว่าวิกฤตทางเศรษฐกิจหรือความยากลำบากทางเศรษฐกิจอาจะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลา 1-2 ปี โดยในปัจจุบัน มีดัชนีชี้นำหลายตัว เริ่มบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังอยู่ในภาวะขาลง เช่น การหดตัวของการส่งออกจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การร่วงของตลาดหุ้น โดยเฉพาะหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่าร้อยละ 77.5 ของจีดีพี ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจขยายตัวดีปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงจะไม่ออกอาการ แต่ในช่วงเศรษฐกิจขาลงปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงจะออกลายเป็นตัวฉุดการบริโภคภายในประเทศให้ลดลงและกระทบเป็นลูกโซ่ ดังนั้น ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวมีแนวโน้มลากยาวไปถึงไตรมาส 4 เพราะฉะนั้นการตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทจึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการตั้งรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ