xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยทรุดต่อเนื่อง ดัชนีร่วงต่ออีกกว่า 30 จุด ตลาดผวา ศก.ไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นเปิดในแดนลบ ดัชนีภาคเช้าร่วงหนักกว่า 34 จุด หลังกระแสข่าวสะพัด ศก.ไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย โบรกฯ ยอมรับดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจไทยส่อแววแย่ลงต่อเนื่อง แถมความกังวลเฟดชะลอคิวอีเริ่มสูงขึ้น กรอบ 1,375-1,420 จุด

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ส.ค.) ดัชนีเปิดในแดนลบปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน โดยเมื่อเวลา 10.14 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,372.34 จุด ลดลง 26.14 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.87% มูลค่าการซื้อขาย 7,533.26 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวานนี้ เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจในประเทศส่อแววแย่ลงมากขึ้น หลังจากที่สภาพัฒน์ประกาศปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงเหลือเติบโต 3.8-4.3% จากเดิมคาดไว้ในช่วง 4.2-5.2% ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ประกอบกับการพิจารณา พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ก็เลื่อนออกไป เศรษฐกิจไทยจึงขาดปัจจัยสำคัญมากระตุ้น

ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ เริ่มมีมากขึ้น หลังจากที่พันธบัตรอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ เศรษฐกิจในประเทศ และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ในวันที่ 22-24 ส.ค. นี้ ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับคิวอีหรือไม่

ทั้งนี้ แนะนำให้ชะลอการลงทุน ส่วนนักลงทุนระยะสั้นแนะนำซื้อเมื่อดัชนีอยู่ระดับแนวรับ และขายทันทีเมื่อปรับขึ้น เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนอยู่มาก โดยประเมินแนวรับแรกที่ 1,380 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,375 จุด ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,415 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,420 จุด

ขณะที่นักลงทุนเริ่มกังวลมากขึ้น หลังสำนักข่าวชื่อดังในต่างประเทศ และสถาบันการเงินชั้นนำทั้งในและนอกประเทศต่างออกมายอมรับว่า เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว 2 ไตรมาส เข้าสู่ภาวะถดถอยจริง

โดยก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบีบีซี จากอังกฤษรายงานว่า เศรษฐกิจไทยได้ก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างคาดไม่ถึง หลังจากที่จีดีพีในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หดตัวลง 0.3% ขณะที่ไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวที่ 1.7% ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่สวนทางกับภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีที่แล้วที่ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งมากกว่า 6%

ซันเจย์ มาเธอร์ นักหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจจาก ธนาคารอาร์บีเอส ให้ความเห็นว่า ภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจน่าจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกในอนาคต เนื่องจากไทยกำลังเผชิญทั้งปัญหาการส่งออก และการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวลงพร้อมๆ กัน อีกทั้งความเชื่อมั่นทางธุรกกิจก็ลดลงตามไปอีกด้วย

“ปัญหาหลักไม่ใช่อยู่ที่ภาคการส่งออก แต่ยังเกี่ยวกับการบริโภคภายในประเทศด้วย” ซันเจย์ มาเธอร์ กล่าวพร้อมเสริมว่า เป้าจีดีพีของไทยในปีนี้น่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.5% และผลจากความคาดหวังว่าเศษฐกิจไทยจะขยายตัวนำหน้าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้ ก็ทำให้ตัวเลขจีดีพีที่ออกมากลายเป็นความผิดหวังครั้งใหญ่”

ทั้งนี้ การชะลอตัวของการบริโภคภายในเป็นผลมาจากการที่โครงการลงทุนป้องกันน้ำท่วมมูลค่า 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลที่ถูกศาลสั่งให้ระงับการดำเนินงาน เพื่อตรวจสอบศึกษาถึงผลกระทบของสิ่งแวดล้อม และรับฟังความเห็นจากประชาชน

นอกจากนี้ ผลจากการที่ภาวะหนี้ครัวเรือน และระดับราคาสินค้าภายในที่ปรับตัวสูงขึ้นก็ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การบริโภคภายในของไทยต้องชะลอตัวลงอีกด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.20 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,364.37 จุด ลดลง 34.11 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.44% มูลค่าการซื้อขาย 10,984.90 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น