ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันอังคารที่ 27 ส.ค. นี้ เวลา 09.00 น. กลุ่มติดตามน้ำมันปตท.รั่ว เตรียมบุกทำเนียบ เพื่อถามหาคำตอบจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าพร้อมตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์น้ำมันรั่วเสม็ดเมื่อไหร่ โดยมีเสียงประชาชนจากไทย และต่างประเทศกว่า 32,000คนเป็นแรงสนับสนุน
โดยรายชื่อดังกล่าวมาจากการรณรงค์ให้ประชาชนลงชื่อสนับสนุนผ่าน change.org/oilspill เรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบน้ำมันปตท.รั่ว เนื่องจากเห็นว่าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล ซึ่งมีคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต เป็นประธาน ที่ตั้งขึ้นมาโดยปตท.ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะปตท.เป็นผู้ก่อเหตุและมีส่วนได้เสียโดยตรง
การรณรงค์ดังกล่าวมีประชาชนร่วมลงชื่อทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศกว่าสามหมื่นคน และเป็นที่มาของการจัดแถลงข่าวเพื่อให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนที่เดือดร้อนจากเกาะเสม็ดร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลมีการแก้ไขปัญหาและให้ ปตท. รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ไม่มีสัญญานตอบรับ ทำให้ต้องมีการกดดันรัฐบาลมากขึ้น
นอกจากนี้ทางกลุ่มยังเห็นว่าฯ ผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯ ที่ปตท.ตั้งขึ้นมา ที่ระบุว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วเกิดจากความบกพร่องของท่อส่งน้ำมัน และไม่มีพบความผิดพลาดของการปฏิบัติงานของปตท. ตอกย้ำว่า ผลการสอบสวนดังกล่าวไม่่สามารถยอมรับได้ และจำเป็นต้องมีคณะกรรมการอิสระที่แท้จริงขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อหาข้อเท็จจริงและหาผู้รับผิดชอบตัวจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น
เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเมื่อปี 2552 ปตท. สผ. ออสตราเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. ได้เป็นต้นเหตุของการเกิดน้ำมันรั่วจากหลุมขุดเจาะที่แหล่งมอนทาราของประเทศออสเตรเลีย โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ จนทำให้ ปตท.ต้องเสียค่าปรับให้รัฐบาลและศาลออสเตรเลียไปกว่า 8,946ล้านบาท
ดังนั้นประเทศไทยควรจะมีมาตรฐานการตรวจสอบที่เป็นอิสระแบบประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งการดำเนินงานของกรรมการต้องเปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน โดยมีตัวแทนจาก ภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคกฎหมาย และภาคประชาชน
ทั้งนี้กลุ่มติดตามน้ำมันปตท.รั่ว เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจขององค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบไปด้วย มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH), มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (Enlaw), กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Greenpeace Southeast Asia), และสถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม (GSEI) ได้ทำการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อผ่าน change.org/oilspill เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งกรรมการอิสระตรวจสอบน้ำมันรั่ว ซึ่งมีประชาชนร่วมลงชื่อเกือบ32,000 คน
โดยกิจกรรม ทางกลุ่มฯได้เตรียมมนุษย์น้ำมันทาร์บอล ที่จะเตรียมแบนเนอร์ และ กล่องรายชื่อประชาชน 32,000 คน เพื่อมอบให้นายกฯด้วย
โดยรายชื่อดังกล่าวมาจากการรณรงค์ให้ประชาชนลงชื่อสนับสนุนผ่าน change.org/oilspill เรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบน้ำมันปตท.รั่ว เนื่องจากเห็นว่าคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล ซึ่งมีคุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต เป็นประธาน ที่ตั้งขึ้นมาโดยปตท.ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะปตท.เป็นผู้ก่อเหตุและมีส่วนได้เสียโดยตรง
การรณรงค์ดังกล่าวมีประชาชนร่วมลงชื่อทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศกว่าสามหมื่นคน และเป็นที่มาของการจัดแถลงข่าวเพื่อให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนที่เดือดร้อนจากเกาะเสม็ดร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลมีการแก้ไขปัญหาและให้ ปตท. รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ไม่มีสัญญานตอบรับ ทำให้ต้องมีการกดดันรัฐบาลมากขึ้น
นอกจากนี้ทางกลุ่มยังเห็นว่าฯ ผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯ ที่ปตท.ตั้งขึ้นมา ที่ระบุว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วเกิดจากความบกพร่องของท่อส่งน้ำมัน และไม่มีพบความผิดพลาดของการปฏิบัติงานของปตท. ตอกย้ำว่า ผลการสอบสวนดังกล่าวไม่่สามารถยอมรับได้ และจำเป็นต้องมีคณะกรรมการอิสระที่แท้จริงขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อหาข้อเท็จจริงและหาผู้รับผิดชอบตัวจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น
เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเมื่อปี 2552 ปตท. สผ. ออสตราเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. ได้เป็นต้นเหตุของการเกิดน้ำมันรั่วจากหลุมขุดเจาะที่แหล่งมอนทาราของประเทศออสเตรเลีย โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ จนทำให้ ปตท.ต้องเสียค่าปรับให้รัฐบาลและศาลออสเตรเลียไปกว่า 8,946ล้านบาท
ดังนั้นประเทศไทยควรจะมีมาตรฐานการตรวจสอบที่เป็นอิสระแบบประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งการดำเนินงานของกรรมการต้องเปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน โดยมีตัวแทนจาก ภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคกฎหมาย และภาคประชาชน
ทั้งนี้กลุ่มติดตามน้ำมันปตท.รั่ว เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจขององค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบไปด้วย มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH), มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (Enlaw), กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Greenpeace Southeast Asia), และสถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม (GSEI) ได้ทำการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อผ่าน change.org/oilspill เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งกรรมการอิสระตรวจสอบน้ำมันรั่ว ซึ่งมีประชาชนร่วมลงชื่อเกือบ32,000 คน
โดยกิจกรรม ทางกลุ่มฯได้เตรียมมนุษย์น้ำมันทาร์บอล ที่จะเตรียมแบนเนอร์ และ กล่องรายชื่อประชาชน 32,000 คน เพื่อมอบให้นายกฯด้วย
