“ความน่าเชื่อถือ” แทบไม่หลงเหลือในใจชาวไทยส่วนใหญ่ต่อไปอีกแล้ว มีแค่เพียง “ความสับสน” ในข้อมูลข่าวสารกรณีน้ำมันดิบรั่วลงทะเลระยอง ปนเปื้อนเกาะเสม็ด และอ่าวพร้าว
ถึงแม้ขณะนี้การเก็บกู้คราบน้ำมันจะดำเนินไปใกล้เสร็จสิ้น แต่ผลกระทบที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า อาจเรียกได้ว่าเป็น “หายนะ” ระยะยาวต่อทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศละแวกนั้นอย่างมหาศาลเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าทาง พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (พีทีทีจีซี) บริษัทต้นเหตุน้ำมันรั่ว ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว แต่บุคคลในคณะกลับประกอบไปด้วยผู้ก่อเหตุและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับกรณีนี้ ทางเครือข่ายภาคประชาชนซึ่งเรียกตนเองว่า “PTT Oil Spill Watch - กลุ่มติดตามน้ำมัน ปตท. รั่ว” จึงขอตั้งหัวข้อรณรงค์ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “ตั้งกรรมการอิสระตรวจน้ำมันรั่ว ปตท.” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระซึ่งประกอบไปด้วยคณะทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้อย่างแท้จริง
“องค์ประกอบของคณะกรรมการจะต้องมีตัวแทนจากอย่างน้อยจาก 5 ฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคกฎหมาย และภาคประชาชน” ทางเครือข่ายรณรงค์ระบุความต้องการเอาไว้อย่างชัดเจน
ถามว่าเหตุใดทางเครือข่ายจึงระแวงสงสัยข้อมูลที่ถูกนำเสนอผ่านคณะกรรมการชุดปัจจุบันที่ทาง พีทีทีจีซี ตั้งขึ้น? ในรายละเอียดการรณรงค์ย้อนรอยอดีตการกระทำของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้บอกให้ได้ฉุกคิดเอาไว้ว่า
เมื่อปี 2552 บริษัทลูก ปตท. ที่ออสเตรเลียเคยทำน้ำมันดิบรั่วไหลจากแท่นขุดเจาะกลางทะเลครั้งใหญ่ที่สุด เป็นเหตุให้ศาลของออสเตรเลียสั่งปรับไปกว่า 8,946 ล้านบาท
“ในครั้งนั้น ปตท. ประเมินว่ามีการรั่วไหลเพียง 4.5 ล้านลิตร แต่รัฐบาลออสเตรเลียได้ตั้งคณะกรรมอิสระขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง และประเมินว่าอาจมีน้ำมันรั่วถึง 34 ล้านลิตร คณะกรรมการอิสระชุดนี้มีส่วนทำให้ ปตท. ต้องเสียค่าปรับ และจ่ายค่าทำความสะอาดเหมาะสมตามความเป็นจริง
เหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งเดียวกันนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อนิเวศน์ทางทะเลและชาวประมงในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทางรัฐบาลอินโดนีเซียเรียกร้องค่าชดเชยเป็นเงิน 75,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากไม่มีกลไกอิสระในการสืบสวน ทำให้ ปตท.สผ.ออสตราเลเซีย (บริษัทลูกของ ปตท.) ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นในน่านน้ำอินโดนีเซีย และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชยใดๆ เป็นบทเรียนที่ทำให้เราเห็นความสำคัญของการมีคณะกรรมการที่เป็นอิสระเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริง”
และเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นในไทย ปริมาณน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงสู่ทะเลอาจถูกบิดเบือนเฉกเช่นที่เคยเกิดกับประเทศออสเตรเลียก็ได้ อาจจะไม่ใช่ 50,000 ลิตร อย่างที่เข้าใจกันอยู่ขณะนี้
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากให้ความจริงถูกเปิดเผย สามารถร่วมลงชื่อผลักดันการรณรงค์นี้ได้ที่ www.change.org/th ในหัวข้อ “ตั้งกรรมการอิสระตรวจน้ำมันรั่ว ปตท.” (คลิก)
ยังต้องการอีกหลายพันรายชื่อกว่าจะครบหมื่น เพื่อยื่นเรื่องขอแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระ ตรวจสอบความจริงให้สังคมได้รับรู้... ความจริงที่ไม่ใช่จากมุมมองของใคร แต่เป็นความจริงที่เรียกว่า “ข้อเท็จจริง”
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
ขอบคุณข้อมูล (คลิก): Change.org
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
น้ำมันรั่วพ่นพิษ คนหวั่นภัยสุขภาพ เกิดโรคกลัวปลา ระแวงหอย!
การเผชิญหน้าระหว่าง นักอนุรักษ์ กับ ปตท. ตอบทุกคำถามที่สังคมอยากรู้
ภาพลักษณ์ป่นปี้! นักอนุรักษ์ยี้ ปตท. ขอตบเท้าคืนรางวัล!
ทะเลสีดำ ทำคนกลัว-หมดศรัทธา! เมื่อ ปตท.เปิดความตายสู่ทะเล
พลิกลิ้น! น้ำมันรั่ว 'ปตท.' บอกไม่เป็นไร..ยังไงก็ 'เอา(ไม่)อยู่'
“หมอหม่อง”สุดทน ปตท.สร้างภาพ เตรียมคืนรางวัลลูกโลกสีเขียวพร้อมเงิน 1 แสน