ASTVผู้จัดการรายวัน - อุทยานเสม็ด โร่แจ้งความหลังประดาน้ำพบปะการังกว่า 70% ถูกคราบน้ำมันดิบเกาะ “เพ้ง”ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริงปริมาณน้ำมันรั่ว คาดรู้ผลใน 7 วัน บิ๊กปตท.ขอโทษ-เสียใจ ลั่นชายหาดจะกลับมาสวยงามใน 2-3 วัน “เอ็นจีโอระยอง”จ่อพบปูเสนอปัญหา รมว.ท่องเที่ยวไอเดียเก๋ ชวนนักข่าวไทย-เทศ กินอาหารทะเลบนเกาะเสม็ด 17 ส.ค. กระตุ้นเชื่อมั่น ส่วนท่องเที่ยวระยอง จี้ปูกินอาหารทะเลโชว์ สมาคมต้านโลกร้อน จี้ "นายก" งัดมาตรา 9 ฟันปตปท.
กรณีท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้ว ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ (Single Point Mooring) ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะกำลังส่งน้ำมันมายังโรงกลั่น เมื่อเวลา 06.50 น. วันที่ 27 กรกฎาคม โดยมีน้ำมันดิบรั่วประมาณ 50,000 ลิตร และลอยตามคลื่นลมเข้าสู่ชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ตั้งแต่เวลา19. 00 น. วันที่ 28 กรกฎาคมนั้น
วานนี้(1 ส.ค.)ภาพถ่ายดาวเทียม และสถานีเรดาร์เพื่อการตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำชายฝั่ง เว็บไซต์ www.gistda.or.th ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) เผยแพร่ภาพจากดาวเทียมระบบเรดาร์ COSMO-SkyMed-3 เมื่อเวลา 06.09 น. วันที่ 1 สิงหาคม ด้านเหนือของเกาะเสม็ด แสดงให้เห็นบริเวณของคราบน้ำมันมีขนาดและปริมาณลดลงจากประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร เหลือ 5 ตารางกิโลเมตร และหดตัวลง จนกระจายตัวไปไม่ถึงเกาะปลาตีน เกาะขาม และเกาะกุฎี
นอกจากนี้เริ่มเห็นผิวน้ำสีอ่อนแทรกตัวอยู่ แสดงถึงความหนาแน่นของฟิล์มน้ำมันที่ลดลง ทั้งหมดเป็นสัญญาณที่ดีว่า มวลน้ำมันน่าจะมีปริมาณลดลง หลงเหลืออยู่บ้างบริเวณตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเสม็ด สำหรับชายฝั่งอ่าวเพด้านตะวันตก และเขาแหลมหญ้า ซึ่งพบคราบที่คาดว่าเป็นฟิล์มน้ำมันนั้น จะเร่งสำรวจต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเกาะเสม็ด เนื่องจากพื้นที่ท่องเที่ยวด้านหน้าทิศตะวันออก ยังมีน้ำทะเลที่ใส สวยงาม
นายสุเมษ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า นักประดาน้ำของศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง ดำน้ำลงไปสำรวจแนวปะการังอ่าวพร้าว พบว่ากว่าร้อยละ 70 เป็นสีดำ เนื่องจากน้ำมันดิบที่ถูกพ่นด้วยสารเคมีแตกตัวจมลงไปเกาะอยู่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาสั่งให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนที่สภ.เพ เพื่อเตรียมรวบรวมความเสียหาย ตามมาตรา 16 วรรค 4 กรณีทำให้ หิน ดินทราย ในพื้นที่อุทยานเสียหาย เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นลงบันทึกประจำวันครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังให้เร่งฟื้นฟู จึงสั่งปิดอ่าวพร้าวชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสภาพได้เร็วที่สุด
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที โกบอล เคมีคอล จำกัด(มหาชน) รายงานว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คือ คุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย ดร.วิเชียร กีรตินิจกาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยคณะกรรมการจะหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุน้ำมันดิบรั่ว กระบวนการทำงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการรับ-ส่งน้ำมันดิบ จากทุ่นรับน้ำมันดิบถึงโรงกลั่นน้ำมัน การบำรุงรักษาทุ่นรับน้ำมันดิบและอุปกรณ์รับ-ส่งน้ำมันดิบ นอกจากนี้ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่ทำให้น้ำมันดิบไปถึงอ่าวพร้าว ตรวจสอบขั้นตอนการขจัดคราบน้ำมันของบริษัท ซึ่งต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขอโทษและเสียใจอย่างแท้จริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้คราบน้ำมันดิบกระจายจากจุดเกิดเหตุไปถึงชายหาดอ่าวพร้าว ซึ่งขณะนี้กลุ่มปตท.ได้ขจัดคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าวได้มากกว่า 80-90% คาดว่าชายหาดจะกลับมาสวยงามภายใน 2-3 วันนี้ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนเก็บรายละเอียดหินทุกก้อนและทรายทุกเม็ดให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามเรามีการติดตั้งกล้องทำเรียลลิตี้ถ่ายทอดหาดพร้าว 24 ชั่วโมง เพื่อให้เห็นภาพว่าอ่าวพร้าวเป็นอย่างไร โดยดูได้ที่ www.pttgcgroup.com และ www.pttplc.com รวมทั้งได้ติดต่อกับเอไอเอส เพื่อให้เรียลไทม์ผ่านมือถือเหมือนเจมส์ จิ "กลุ่มปตท.จะว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ มาติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมระยะยาว"
ดร.ไพรินทร์ กล่าวว่า สำหรับความเสียหายประเมินได้ยาก แต่ยอมรับว่ากระทบการท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งฝ่ายวิเคราะของมอร์แกน สแตนเล่ย์ ประเมินเหตุการณ์น้ำมันรั่วอยู่ที่ 361 บาร์เรล ความเสียหายประมาณ 8-65 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่ในวิสัยที่บริษัทรับผิดชอบได้ เนื่องจากทำประกันภัยไว้ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่น้ำมันรั่วไหลที่อ่าวเม็กซิโก ปี 2553 ที่ถึง 4.2 ล้านบาร์เรล มูลค่าความเสียหาย 4.22 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
"บริษัทพร้อมชดเชยค่าเสียหายเฉพาะหน้าได้ทันที ถ้าพิสูจน์ได้ชัดเจน ไม่ต้องรอเงินสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทประกันภัยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ท่อส่งน้ำมันฉีกขาด เพราะบริษัทเองก็สงสัย เนื่องจากท่ออ่อนนี้ใช้งานเพียงปีเศษ จากอายุการใช้งานจริง 5 ปี และที่ผ่านมาจะเปลี่ยนท่อทุก 2 ปี
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ไตรมาสนี้คาดว่ายังไม่ต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่าย เพราะต้องรอรวบรวมค่าเสียหายทั้งหมดก่อน ส่วนค่าเสียหายบางส่วน เช่น สารเคมีที่ฉีดสลายน้ำมัน และค่าแรงงาน คงไม่มากนัก
นายจัตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง กล่าวว่า ชาวประมงพบคราบน้ำมันเต็มชายหาด ติดกับท่าเรือน้ำลึกของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)ต.เชิงเนิน อ.เมือง จึงไปตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ของบริษัท และพนักงานเทศบาลนครระยอง กำลังเก็บกวาดคราบน้ำมันเป็นระยะทางยาว 100 เมตร นำไปเก็บไว้ในโรงงาน
สอบถามชาวประมงทราบว่า คราบน้ำมันมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สีดำ เหนียวติดมือ เชื่อว่าเป็นน้ำมันดิบที่รั่วไหล และถูกฉีดพ่นน้ำยาเพื่อสลายคราบให้แตกเป็นเม็ดเล็กๆจมลงก้นทะเล แต่ถูกกระแสคลื่นลมแรงซัดเข้าเกยหาด
ด้านนายสมควร ศิริภักดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง จัดประชุมกลุ่มประมงพื้นบ้าน และผู้ประกอบการ โดยมีนายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก และนายจัตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจ.ระยอง จัดทำบันทึกยื่นเสนอต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะลงพื้นที่อ่าวพร้าววันที่ 4 สิงหาคม
โดยนายสุทธิ กล่าวว่า ได้กำหนดภารกิจหลักให้กลุ่มประมงพื้นบ้าน สำรวจความเสียหายที่เกิดจากคราบน้ำมัน และทิศทางของคราบน้ำมันที่เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำยาสลายทั้งทางเรือและอากาศ ซึ่งอาจก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยจะประสานกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา มาร่วมตรวจสอบ เนื่องจากขณะนี้ไม่มีความมั่นใจในข้อมูลที่ได้รับ ว่าเป็นจริงหรือไม่ จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลเสนอรัฐบาล
ทั้งนี้ ชาวบ้านและกลุ่มประมงพื้นบ้านวิตกกังวลว่า หลังสลายคราบน้ำมันให้จมลงทะเลแล้วจะไม่มีการดูแลต่อไป ดังนั้นจะทำเป็นข้อเสนอหลักให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ หรือตั้งคนกลางเป็นคณะกรรมการพิจารณาบำบัด และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ให้ประเมินผลต่อเนื่อง 3-5 ปี ส่วนการเยียวยาเป็นอีกเรื่อง และสุดท้าย คือ ต้องมีมาตรการป้องกัน โดยใช้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ ผลักดันใหมีมาตรการป้องกันที่ดีกว่าเดิม หากนำเสนอไปแล้วไม่มีความคืบหน้า จะประสานสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน หาช่องทางฟ้องและบังคับให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ที่หาดทรายแก้ว บีช รีสอร์ท เกาะเสม็ด จ.ระยอง นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวรวิทย์ วงศ์สุวรรณ คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา ารท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ภาคตะวันออก ได้หารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกประเภท มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 80 คน โดยนายพิศณุ เขมะพรรค์ เจ้าของนิมมานรดี รีสอร์ท เกาะเสม็ด และประธานชมรมโรงแรมและที่พักจ.ระยอง กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวระยอง และเกาะเสม็ดเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกยกเลิกการจองเกือบ 100% สร้างความเสียหายมหาศาล
นอกจากนี้ยังสร้างความหวั่นวิตก เพราะไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาจากภาครัฐหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งที่เกาะเสม็ดทำรายได้เข้าสู่ประเทศมหาศาล แต่คราบน้ำมันจะทำการการท่องเที่ยวหยุดชะงักหรือเสียโอกาส ดังนั้นทุกหน่วยงานต้องเร่งกู้ภาพลักษณ์กลับคืนมาโดยเร็ว
นายสมศักย์ กล่าวว่า จะเร่งช่วยเหลือโดยด่วน เช่น ชดเชยความเสียหาย ค่าเสียโอกาสหลังถูกยกเลิกการจองห้องพัก ดอกเบี้ยที่ต้องชำระธนาคาร นอกจากนั้นต้องจัดตั้งกองทุนให้กับชาวระยองและพื้นที่ใกล้เคียง เช่นเดียวกับกองทุนโรงไฟฟ้า ที่สำคัญจะพาสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศมาพักผ่อนบนเกาะเสม็ด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว โดยรับประทานอาหารที่จับขึ้นมาได้จากทะเล ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ระยอง กล่าวตอนหนึ่งภายหลังหารือว่าเอกชนท่องเที่ยวต้องการให้นายกรัฐมนตรีเป็นพรีเซ็นเตอร์ทานอาหารทะเลที่เกาะเสม็ด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะขณะนี้คนไทยและต่างชาติไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการทานอาหารและลงเล่นน้ำทะเล"
นายบริสุทธิ์ ประสพทรัพย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย ททท. เตรียมฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ของเกาะเสม็ด เช่น เตรียมการท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดเยอรมัน ญี่ปุ่น และอังกฤษ รวมทั้งนำนักดนตรีสมัครเล่นในยูทูปมาจัดกิจกรรมดนตรีในเกาะเสม็ด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าเสม็ดเป็นความสุขในสภาพปกติ
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลังเกิดเหตุเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม จนสามวันแรกยังไม่เห็นมีรัฐมนตรีสักคนลงพื้นที่ มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่เมื่อผ่านไปสามวันแล้ว โทรศัพท์หาผู้มีอำนาจ หารัฐมนตรีรับผิดชอบไม่ได้ บอกว่าเอาอยู่ แต่สุดท้ายก็เข้าถึงอ่าวพร้าว
นอกจากนี้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทำหน้าที่บัญชาการ โดยส่วนตัวเชื่อว่าถ้าบริหารจัดการตั้งแต่วันแรกจะทำได้ดีกว่านี้ และอยากถามว่าหลังเกิดเหตุน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร มียางอายบ้างหรือไม่ ที่ปล่อยให้เสียหายหนักขนาดนี้ และอยากทราบข้อเท็จจริงเรื่องน้ำมันรั่วว่ามีปริมาณเท่าไหร่กันแน่
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุน.ส.ยิ่งลักษณ์ ติดภาระกิจเยือนโมซัมบิก ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญ ส่วนประเด็นหลุดมาที่อ่าวพร้าว ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งบริษัทต้องรับผิดชอบความเสียหาย โดยน้ำมันรั่วประมาณ 5 หมื่นลิตร คำนวณจากท่อจ่ายน้ำมันระเบิดประมาณ 3.5 หมื่นลิตร และระหว่างช่วงปิดวาล์ รวมแล้วไม่เกิน 5 หมื่นลิตร โดยจะชี้แจงข้อเท็จจริงเร็วๆนี้
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม และขณะนี้ได้ให้อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม และบินสำรวจ พบว่าอ่าวพร้าวยังเหลือคราบน้ำมันประมาณ 10% คาดว่าไม่กี่วันจะกลับสู่สภาพปกติ
ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย นำอุปกรณ์ที่บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ใช้ในการกำจัดคราบน้ำมันมาแสดง พร้อมเรียกร้องให้ปตท.ยอมรับความจริง ว่ามีน้ำมันรั่วจริงเท่าไหร่ กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนอย่างไร ไม่ใช่บอกเพียงว่าอีก 10% ก็เรียบร้อย เอาอยู่ 3-5 วันก็เจือจาง ปตท.เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต้องทราบว่ากฎหมายสิ่งแวดล้อมรุนแรงแค่ไหน และต้องความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
"แม้ว่าการพูดเรื่องจริงจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่สำคัญ ตนไม่เชื่อตามที่ปตท.ให้น้ำมันรั่ว 5 หมื่นลิตร เพราะเมื่อเทียบน้ำ 1 ลิตร คือ 1 ขวด ก็เท่ากับ 5 หมื่นขวดเท่านั้น แต่ภาพที่ปรากฎกระจายเป็นวงกว้างมาก"
นายนริศ ขำนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พัฒนาที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันที่ 7 สิงหาคม เวลา 09.30 น. กมธ.ร่วมกับ กมธ.การพลังงาน และกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ประชุมเพิจารณาการจัดการปัญหาน้ำมันดิบรั่ว ซึ่งปริมาณที่รั่วออกมา อาจมากกว่าที่ปตท.เปิดเผย เนื่องจากภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงคราบน้ำมัน 15 ตารางกิโลเมตร และการทำประกันภัยของปตท. วงเงิน1,500 ล้านบาท เชื่อว่าจะไม่เพียงพอต่อความเสียหาย เพราะอย่างประเทศเม็กซิโก ก็มีวงเงินเสียหายถึงแสนล้านบาท
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด้านอาชีวอนามัย โรงพยาบาลระยอง ประจำการที่หน่วยแพทย์อ่าวพร้าว เพื่อให้การดูแลสุขภาพผู้ปฏิบัติงานซึ่งมีวันละ 1,000 คน โดยวันที่ 30-31 กรกฎาคม มีผู้เข้ารับบริการ 102 คน ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ส่วนใหญ่มีอาการปวดศีรษะ และเวียนศีรษะ จึงแนะนำให้สวมใส่ชุดป้องกันการสัมผัสน้ำมันดิบให้รัดกุม คาดหน้ากากตลอดเวลา เพื่อป้องกันการสูดดมสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย โดยเเก็บปัสสาวะของผู้ปฏิบัติงานทุกคน เพื่อส่งตรวจหาสารเบนซีนตกค้าง และเฝ้าระวังสุขภาพต่อเนื่อง 5 ปี คาดว่าผลจะทราบผลใน 1-2 วันนี้
นายสุเมธ สมคะเน ประธานสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย กล่าวว่า การทำข่าวสถานการณ์เช่นนี้ ต้องมีอุปกรณ์เสริมป้องการสารพิษที่อยู่ในน้ำมันดิบ ที่จะเกิดผลกระทบด้านสุขภาพระยะยาว ให้กับผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ผู้ช่วยช่างภาพ และทีมข่าวที่ลงพื้นที่ทำข่าวบริเวณดังกล่าว ทางสหภาพจึงขอให้กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ หรือบริษัทสื่อ ได้ตระหนักถึงผลกระทบ หากกองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ หรือบริษัทใด สนับสนุนอุปกรณ์เสริมให้แล้ว ทางสหภาพขอขอบพระคุณในความห่วงใยต่อทีมข่าวเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุอันตรายของสารพิษในน้ำมันดิบว่า มีสารก่อมะเร็ง ซึ่งมีผลทั้งต่อระบบทางเดินหายใจ ประสาท ผิวหนัง หากมีอาการผิดปกติ ได้แก่ หายใจขัด แน่นหน้าอก หอบ วิงเวียนศีรษะ ระคายเคืองตา แสบตา คลื่นไส้อาเจียน ขอให้รีบพบแพทย์ทันที
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้มาตรา 9 แห่งพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 เพื่อจัดการปัญหาและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน 2547 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน หรือกปน. ไม่สามารถสั่งการ หรือแก้ปัญหาได้ และที่สำคัญตั้งแต่มีระเบียบบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2547 จนถึงขณะนี้ กปน.ไม่เคยจัดประชุม จึงเชื่อว่าไม่มีการจัดทำแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ จึงไม่มีแมาตรการรองรับอย่างเป็นระบบ
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องนำมาตรา 9 มาใช้โดยทันที หรืออาจมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการแทน หากไม่ดำเนินการหรือสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็อาจเข้าข่ายละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 257 ซึ่งอาจนำไปสู่การถอดถอนจากตำแหน่ง หรือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
กรณีท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้ว ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบ (Single Point Mooring) ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร ขณะกำลังส่งน้ำมันมายังโรงกลั่น เมื่อเวลา 06.50 น. วันที่ 27 กรกฎาคม โดยมีน้ำมันดิบรั่วประมาณ 50,000 ลิตร และลอยตามคลื่นลมเข้าสู่ชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ตั้งแต่เวลา19. 00 น. วันที่ 28 กรกฎาคมนั้น
วานนี้(1 ส.ค.)ภาพถ่ายดาวเทียม และสถานีเรดาร์เพื่อการตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำชายฝั่ง เว็บไซต์ www.gistda.or.th ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) เผยแพร่ภาพจากดาวเทียมระบบเรดาร์ COSMO-SkyMed-3 เมื่อเวลา 06.09 น. วันที่ 1 สิงหาคม ด้านเหนือของเกาะเสม็ด แสดงให้เห็นบริเวณของคราบน้ำมันมีขนาดและปริมาณลดลงจากประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร เหลือ 5 ตารางกิโลเมตร และหดตัวลง จนกระจายตัวไปไม่ถึงเกาะปลาตีน เกาะขาม และเกาะกุฎี
นอกจากนี้เริ่มเห็นผิวน้ำสีอ่อนแทรกตัวอยู่ แสดงถึงความหนาแน่นของฟิล์มน้ำมันที่ลดลง ทั้งหมดเป็นสัญญาณที่ดีว่า มวลน้ำมันน่าจะมีปริมาณลดลง หลงเหลืออยู่บ้างบริเวณตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเสม็ด สำหรับชายฝั่งอ่าวเพด้านตะวันตก และเขาแหลมหญ้า ซึ่งพบคราบที่คาดว่าเป็นฟิล์มน้ำมันนั้น จะเร่งสำรวจต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเกาะเสม็ด เนื่องจากพื้นที่ท่องเที่ยวด้านหน้าทิศตะวันออก ยังมีน้ำทะเลที่ใส สวยงาม
นายสุเมษ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า นักประดาน้ำของศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง ดำน้ำลงไปสำรวจแนวปะการังอ่าวพร้าว พบว่ากว่าร้อยละ 70 เป็นสีดำ เนื่องจากน้ำมันดิบที่ถูกพ่นด้วยสารเคมีแตกตัวจมลงไปเกาะอยู่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาสั่งให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนที่สภ.เพ เพื่อเตรียมรวบรวมความเสียหาย ตามมาตรา 16 วรรค 4 กรณีทำให้ หิน ดินทราย ในพื้นที่อุทยานเสียหาย เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นลงบันทึกประจำวันครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังให้เร่งฟื้นฟู จึงสั่งปิดอ่าวพร้าวชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสภาพได้เร็วที่สุด
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท พีทีที โกบอล เคมีคอล จำกัด(มหาชน) รายงานว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง คือ คุณหญิงทองทิพ รัตนะรัต ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย ดร.วิเชียร กีรตินิจกาล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยคณะกรรมการจะหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุน้ำมันดิบรั่ว กระบวนการทำงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการรับ-ส่งน้ำมันดิบ จากทุ่นรับน้ำมันดิบถึงโรงกลั่นน้ำมัน การบำรุงรักษาทุ่นรับน้ำมันดิบและอุปกรณ์รับ-ส่งน้ำมันดิบ นอกจากนี้ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่ทำให้น้ำมันดิบไปถึงอ่าวพร้าว ตรวจสอบขั้นตอนการขจัดคราบน้ำมันของบริษัท ซึ่งต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขอโทษและเสียใจอย่างแท้จริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้คราบน้ำมันดิบกระจายจากจุดเกิดเหตุไปถึงชายหาดอ่าวพร้าว ซึ่งขณะนี้กลุ่มปตท.ได้ขจัดคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าวได้มากกว่า 80-90% คาดว่าชายหาดจะกลับมาสวยงามภายใน 2-3 วันนี้ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนเก็บรายละเอียดหินทุกก้อนและทรายทุกเม็ดให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามเรามีการติดตั้งกล้องทำเรียลลิตี้ถ่ายทอดหาดพร้าว 24 ชั่วโมง เพื่อให้เห็นภาพว่าอ่าวพร้าวเป็นอย่างไร โดยดูได้ที่ www.pttgcgroup.com และ www.pttplc.com รวมทั้งได้ติดต่อกับเอไอเอส เพื่อให้เรียลไทม์ผ่านมือถือเหมือนเจมส์ จิ "กลุ่มปตท.จะว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ มาติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมระยะยาว"
ดร.ไพรินทร์ กล่าวว่า สำหรับความเสียหายประเมินได้ยาก แต่ยอมรับว่ากระทบการท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ซึ่งฝ่ายวิเคราะของมอร์แกน สแตนเล่ย์ ประเมินเหตุการณ์น้ำมันรั่วอยู่ที่ 361 บาร์เรล ความเสียหายประมาณ 8-65 ล้านเหรียญสหรัฐ อยู่ในวิสัยที่บริษัทรับผิดชอบได้ เนื่องจากทำประกันภัยไว้ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่น้ำมันรั่วไหลที่อ่าวเม็กซิโก ปี 2553 ที่ถึง 4.2 ล้านบาร์เรล มูลค่าความเสียหาย 4.22 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
"บริษัทพร้อมชดเชยค่าเสียหายเฉพาะหน้าได้ทันที ถ้าพิสูจน์ได้ชัดเจน ไม่ต้องรอเงินสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทประกันภัยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ท่อส่งน้ำมันฉีกขาด เพราะบริษัทเองก็สงสัย เนื่องจากท่ออ่อนนี้ใช้งานเพียงปีเศษ จากอายุการใช้งานจริง 5 ปี และที่ผ่านมาจะเปลี่ยนท่อทุก 2 ปี
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ไตรมาสนี้คาดว่ายังไม่ต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่าย เพราะต้องรอรวบรวมค่าเสียหายทั้งหมดก่อน ส่วนค่าเสียหายบางส่วน เช่น สารเคมีที่ฉีดสลายน้ำมัน และค่าแรงงาน คงไม่มากนัก
นายจัตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง กล่าวว่า ชาวประมงพบคราบน้ำมันเต็มชายหาด ติดกับท่าเรือน้ำลึกของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)ต.เชิงเนิน อ.เมือง จึงไปตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ของบริษัท และพนักงานเทศบาลนครระยอง กำลังเก็บกวาดคราบน้ำมันเป็นระยะทางยาว 100 เมตร นำไปเก็บไว้ในโรงงาน
สอบถามชาวประมงทราบว่า คราบน้ำมันมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สีดำ เหนียวติดมือ เชื่อว่าเป็นน้ำมันดิบที่รั่วไหล และถูกฉีดพ่นน้ำยาเพื่อสลายคราบให้แตกเป็นเม็ดเล็กๆจมลงก้นทะเล แต่ถูกกระแสคลื่นลมแรงซัดเข้าเกยหาด
ด้านนายสมควร ศิริภักดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง จัดประชุมกลุ่มประมงพื้นบ้าน และผู้ประกอบการ โดยมีนายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก และนายจัตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจ.ระยอง จัดทำบันทึกยื่นเสนอต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะลงพื้นที่อ่าวพร้าววันที่ 4 สิงหาคม
โดยนายสุทธิ กล่าวว่า ได้กำหนดภารกิจหลักให้กลุ่มประมงพื้นบ้าน สำรวจความเสียหายที่เกิดจากคราบน้ำมัน และทิศทางของคราบน้ำมันที่เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำยาสลายทั้งทางเรือและอากาศ ซึ่งอาจก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยจะประสานกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา มาร่วมตรวจสอบ เนื่องจากขณะนี้ไม่มีความมั่นใจในข้อมูลที่ได้รับ ว่าเป็นจริงหรือไม่ จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลเสนอรัฐบาล
ทั้งนี้ ชาวบ้านและกลุ่มประมงพื้นบ้านวิตกกังวลว่า หลังสลายคราบน้ำมันให้จมลงทะเลแล้วจะไม่มีการดูแลต่อไป ดังนั้นจะทำเป็นข้อเสนอหลักให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ หรือตั้งคนกลางเป็นคณะกรรมการพิจารณาบำบัด และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ให้ประเมินผลต่อเนื่อง 3-5 ปี ส่วนการเยียวยาเป็นอีกเรื่อง และสุดท้าย คือ ต้องมีมาตรการป้องกัน โดยใช้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ ผลักดันใหมีมาตรการป้องกันที่ดีกว่าเดิม หากนำเสนอไปแล้วไม่มีความคืบหน้า จะประสานสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน หาช่องทางฟ้องและบังคับให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ที่หาดทรายแก้ว บีช รีสอร์ท เกาะเสม็ด จ.ระยอง นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวรวิทย์ วงศ์สุวรรณ คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา ารท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ภาคตะวันออก ได้หารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกประเภท มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 80 คน โดยนายพิศณุ เขมะพรรค์ เจ้าของนิมมานรดี รีสอร์ท เกาะเสม็ด และประธานชมรมโรงแรมและที่พักจ.ระยอง กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวระยอง และเกาะเสม็ดเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกยกเลิกการจองเกือบ 100% สร้างความเสียหายมหาศาล
นอกจากนี้ยังสร้างความหวั่นวิตก เพราะไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาจากภาครัฐหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งที่เกาะเสม็ดทำรายได้เข้าสู่ประเทศมหาศาล แต่คราบน้ำมันจะทำการการท่องเที่ยวหยุดชะงักหรือเสียโอกาส ดังนั้นทุกหน่วยงานต้องเร่งกู้ภาพลักษณ์กลับคืนมาโดยเร็ว
นายสมศักย์ กล่าวว่า จะเร่งช่วยเหลือโดยด่วน เช่น ชดเชยความเสียหาย ค่าเสียโอกาสหลังถูกยกเลิกการจองห้องพัก ดอกเบี้ยที่ต้องชำระธนาคาร นอกจากนั้นต้องจัดตั้งกองทุนให้กับชาวระยองและพื้นที่ใกล้เคียง เช่นเดียวกับกองทุนโรงไฟฟ้า ที่สำคัญจะพาสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศมาพักผ่อนบนเกาะเสม็ด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว โดยรับประทานอาหารที่จับขึ้นมาได้จากทะเล ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.ระยอง กล่าวตอนหนึ่งภายหลังหารือว่าเอกชนท่องเที่ยวต้องการให้นายกรัฐมนตรีเป็นพรีเซ็นเตอร์ทานอาหารทะเลที่เกาะเสม็ด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะขณะนี้คนไทยและต่างชาติไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการทานอาหารและลงเล่นน้ำทะเล"
นายบริสุทธิ์ ประสพทรัพย์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย ททท. เตรียมฟื้นฟูและสร้างภาพลักษณ์ของเกาะเสม็ด เช่น เตรียมการท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตลาดเยอรมัน ญี่ปุ่น และอังกฤษ รวมทั้งนำนักดนตรีสมัครเล่นในยูทูปมาจัดกิจกรรมดนตรีในเกาะเสม็ด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าเสม็ดเป็นความสุขในสภาพปกติ
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า หลังเกิดเหตุเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม จนสามวันแรกยังไม่เห็นมีรัฐมนตรีสักคนลงพื้นที่ มีนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่เมื่อผ่านไปสามวันแล้ว โทรศัพท์หาผู้มีอำนาจ หารัฐมนตรีรับผิดชอบไม่ได้ บอกว่าเอาอยู่ แต่สุดท้ายก็เข้าถึงอ่าวพร้าว
นอกจากนี้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทำหน้าที่บัญชาการ โดยส่วนตัวเชื่อว่าถ้าบริหารจัดการตั้งแต่วันแรกจะทำได้ดีกว่านี้ และอยากถามว่าหลังเกิดเหตุน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร มียางอายบ้างหรือไม่ ที่ปล่อยให้เสียหายหนักขนาดนี้ และอยากทราบข้อเท็จจริงเรื่องน้ำมันรั่วว่ามีปริมาณเท่าไหร่กันแน่
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุน.ส.ยิ่งลักษณ์ ติดภาระกิจเยือนโมซัมบิก ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญ ส่วนประเด็นหลุดมาที่อ่าวพร้าว ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งบริษัทต้องรับผิดชอบความเสียหาย โดยน้ำมันรั่วประมาณ 5 หมื่นลิตร คำนวณจากท่อจ่ายน้ำมันระเบิดประมาณ 3.5 หมื่นลิตร และระหว่างช่วงปิดวาล์ รวมแล้วไม่เกิน 5 หมื่นลิตร โดยจะชี้แจงข้อเท็จจริงเร็วๆนี้
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม และขณะนี้ได้ให้อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม และบินสำรวจ พบว่าอ่าวพร้าวยังเหลือคราบน้ำมันประมาณ 10% คาดว่าไม่กี่วันจะกลับสู่สภาพปกติ
ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย นำอุปกรณ์ที่บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ใช้ในการกำจัดคราบน้ำมันมาแสดง พร้อมเรียกร้องให้ปตท.ยอมรับความจริง ว่ามีน้ำมันรั่วจริงเท่าไหร่ กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนอย่างไร ไม่ใช่บอกเพียงว่าอีก 10% ก็เรียบร้อย เอาอยู่ 3-5 วันก็เจือจาง ปตท.เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต้องทราบว่ากฎหมายสิ่งแวดล้อมรุนแรงแค่ไหน และต้องความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
"แม้ว่าการพูดเรื่องจริงจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่สำคัญ ตนไม่เชื่อตามที่ปตท.ให้น้ำมันรั่ว 5 หมื่นลิตร เพราะเมื่อเทียบน้ำ 1 ลิตร คือ 1 ขวด ก็เท่ากับ 5 หมื่นขวดเท่านั้น แต่ภาพที่ปรากฎกระจายเป็นวงกว้างมาก"
นายนริศ ขำนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พัฒนาที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันที่ 7 สิงหาคม เวลา 09.30 น. กมธ.ร่วมกับ กมธ.การพลังงาน และกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ประชุมเพิจารณาการจัดการปัญหาน้ำมันดิบรั่ว ซึ่งปริมาณที่รั่วออกมา อาจมากกว่าที่ปตท.เปิดเผย เนื่องจากภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงคราบน้ำมัน 15 ตารางกิโลเมตร และการทำประกันภัยของปตท. วงเงิน1,500 ล้านบาท เชื่อว่าจะไม่เพียงพอต่อความเสียหาย เพราะอย่างประเทศเม็กซิโก ก็มีวงเงินเสียหายถึงแสนล้านบาท
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด้านอาชีวอนามัย โรงพยาบาลระยอง ประจำการที่หน่วยแพทย์อ่าวพร้าว เพื่อให้การดูแลสุขภาพผู้ปฏิบัติงานซึ่งมีวันละ 1,000 คน โดยวันที่ 30-31 กรกฎาคม มีผู้เข้ารับบริการ 102 คน ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ส่วนใหญ่มีอาการปวดศีรษะ และเวียนศีรษะ จึงแนะนำให้สวมใส่ชุดป้องกันการสัมผัสน้ำมันดิบให้รัดกุม คาดหน้ากากตลอดเวลา เพื่อป้องกันการสูดดมสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย โดยเเก็บปัสสาวะของผู้ปฏิบัติงานทุกคน เพื่อส่งตรวจหาสารเบนซีนตกค้าง และเฝ้าระวังสุขภาพต่อเนื่อง 5 ปี คาดว่าผลจะทราบผลใน 1-2 วันนี้
นายสุเมธ สมคะเน ประธานสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย กล่าวว่า การทำข่าวสถานการณ์เช่นนี้ ต้องมีอุปกรณ์เสริมป้องการสารพิษที่อยู่ในน้ำมันดิบ ที่จะเกิดผลกระทบด้านสุขภาพระยะยาว ให้กับผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ผู้ช่วยช่างภาพ และทีมข่าวที่ลงพื้นที่ทำข่าวบริเวณดังกล่าว ทางสหภาพจึงขอให้กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ หรือบริษัทสื่อ ได้ตระหนักถึงผลกระทบ หากกองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ หรือบริษัทใด สนับสนุนอุปกรณ์เสริมให้แล้ว ทางสหภาพขอขอบพระคุณในความห่วงใยต่อทีมข่าวเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุอันตรายของสารพิษในน้ำมันดิบว่า มีสารก่อมะเร็ง ซึ่งมีผลทั้งต่อระบบทางเดินหายใจ ประสาท ผิวหนัง หากมีอาการผิดปกติ ได้แก่ หายใจขัด แน่นหน้าอก หอบ วิงเวียนศีรษะ ระคายเคืองตา แสบตา คลื่นไส้อาเจียน ขอให้รีบพบแพทย์ทันที
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้มาตรา 9 แห่งพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 เพื่อจัดการปัญหาและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน 2547 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน หรือกปน. ไม่สามารถสั่งการ หรือแก้ปัญหาได้ และที่สำคัญตั้งแต่มีระเบียบบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2547 จนถึงขณะนี้ กปน.ไม่เคยจัดประชุม จึงเชื่อว่าไม่มีการจัดทำแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ จึงไม่มีแมาตรการรองรับอย่างเป็นระบบ
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องนำมาตรา 9 มาใช้โดยทันที หรืออาจมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการแทน หากไม่ดำเนินการหรือสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็อาจเข้าข่ายละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 257 ซึ่งอาจนำไปสู่การถอดถอนจากตำแหน่ง หรือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
