xs
xsm
sm
md
lg

“สาธิต” จี้ยางอาย รมต. นิ่งจัดการน้ำมันรั่ว “เพ้ง” ยันดูแลแต่ต้น “วิเชษฐ์” คาดปกติเร็ววัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ส.ปชป.เจ้าของพื้นที่น้ำมันรั่ว กระทู้สดอัด รบ.แก้ปัญหาล้มเหลว ชี้ครั้งที่ 4 แล้วที่กระทบปชช. ติงไร้เงา รมต.ลงพื้นที่ 3 วันแรก ยกระเบียบสำนักนายกฯ ให้ รมว.คมนาคมเป็นหัวหน้าดูแล บี้ยางอายปล่อยเอกชนจัดการ “พงษ์ศักดิ์” ป้อง ปตท.ซ้อมรับมือตลอด ยันแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น คิดว่าคุมอยู่ ขอระวังพูดกระทบท่องเที่ยว “วิเชษฐ์” เผยลงพื้นที่ 29 ก.ค. สั่งฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม คราบน้ำมันมีแค่อ่าวพร้าว อากาศไม่อันตราย ปะการังยังสมบูรณ์

วันนี้ (1 ส.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี กรณีมาตรการการควบคุมสถานการณ์น้ำมันรั่วในทะเล จ.ระยอง ว่ารัฐบาลแก้ปัญอย่างไร้ประสิทธิภาพและมีความล้มเหลว 3 ปัจจัยหลัก คือ ความล้มเหลวด้านความเชื่อมั่นระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับประชาชน ความล้มเหลวในการป้องกันความเสียหายย่อยยับทางทรัพยากรทางทะเล และความล้มเหลวของแผนงานการแก้ปัญหาของเอกชน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่สร้างผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง และจำเป็นที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่า 3 วันแรกที่เกิดเหตุกลับไม่มีรัฐมนตรีคนใดลงไปดูแลแก้ปัญหาในพื้นที่เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันไหลมาถึงชายฝั่ง โดยตนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่บริษัท พีทีที โกบอล เคมีคอล ถึง 3 ครั้ง แต่ได้รับการแจ้งว่าเอาอยู่ทุกครั้ง ซึ่งจากระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ พ.ศ. 2547 ที่ออกมาสมัยรัฐบาลทักษิณ กำหนดให้ รมว.คมนาคม รักษาการตามระเบียบเป็นหัวหน้าบัญชาการ โดยมีพาณิชยนาวีเป็นเลขาธิการ ไปขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ซึ่งควรจะมีการเร่งดำเนินการตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นมีการดำเนินการใดๆ แต่กลับให้เอกชนซึ่งเป็นผู้ก่อมลภาวะไปแก้ปัญหาเอง ตนอยากทราบว่านายกรัฐมนตรีอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ รวมถึง รมว.คมนาคม และรัฐมนตรีอีก 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันแรกไปอยู่ที่ไหน ทำไมปล่อยให้เอกชนทำลำพัง มียางอายบ้างหรือไม่ เสียหายขนาดนี้มีใครจะรับผิดชอบทางการมือง

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันที่ 27 ก.ค. เรือที่ขนส่งน้ำมันเกิดระเบิดท่อแตกเป็นชิ้นๆ แม้มีการปิดวาล์วอัตโนมัติ แต่ยังมีการรั่วไหลต่อเนื่อง ประมาณ 50,000 ลิตร ที่ผ่านมาบริษัทมีการซ้อมอยู่ตลอดเวลาร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทุก 3 ปี และในวันที่ 28 มีการเอาสารเคมีโรยบนผิวน้ำเพื่อให้คราบน้ำมันจับตัวเป็นก้อนและจมลงทะเล คาดว่าปฏิบัติการครบถ้วนเรียบร้อย คิดว่ามีการตรวจการรอบๆ เกาะเป็นระยะ โดยกองทัพเรือ และมีการสั่งการให้ทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ และมีการประชุมทางโทรศัพท์กับบริษัทที่รับผิดชอบอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา จึงคิดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จากนั้นพบว่ามีน้ำมันลอยมาชายฝั่งในช่วงค่ำ โชคดีที่น้ำมันดิบเข้ามาอ่าวพร้าวเพียงอ่าวเดียว ตนเป็นห่วงเรื่องการท่องเที่ยว จึงขอความร่วมมือต้องระมัดระวังต่อการพูดจาที่อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยว ส่วนการตำหนิบริษัทนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องยอมรับ อย่างไรก็ตาม ในเช้าวันนี้สภาพเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ส่วนการดูแลให้เข้าสู่สภาพเดิมอย่างไร ได้มอบให้ รมว.ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเข้าไปดูแล

ขณะที่นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่าตนไม่นิ่งนอนใจ โดยลงไปในพื้นที่วันที่ 29 ก.ค. เพื่อหาทางแก้ไข มีคนช่วยกัน 300 กว่าคน ส่วนเรื่องทรัพยากรทางทะเล ตนได้สั่งตั้งคณะทำงานติดตามประเมินสถานการณ์แก้ไขฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง โดยมีนักวิชาการจากสถาบันต่างๆ ร่วมกับบริษัท ปตท. พร้อมทั้งวิเคราะห์ปัญหาที่จะตามมา และเบื้องต้นได้สั่งอธิบดีกรมควบคุมมลพิษบินสำรวจคราบน้ำมันบริเวณอ่าวเพ และอ่าวปากคลองแกลง ไม่พบคราบน้ำมัน เหลือที่บริเวณอ่าวพร้าวจากภาพถ่ายดาวเทียม พบว่ามีการเจือจางในระดับฟิล์ม และมีการระดมกำลังคนทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ปตท. คาดว่าเหลือคราบน้ำมันเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่สอบคุณภาพอากาศพบว่าปลอดภัยไม่เป็นอันตราย โดยมีการนำน้ำไปวิเคราะห์คาดว่าสิบวันจะได้ผล ส่วนชายฝั่งให้นักประดาน้ำไปดำนำรอบๆ ชายหาดในระยะร้อยตารางเมตร พบว่าแนวปะการังยังสมบูรณ์มีปลาและสัตว์น้ำอาศัยอยู่ เพียงแต่มีตะกอนเล็กๆ จากสารเคมีที่โปรยลงไป แต่จะย่อยสลายไปโดยแบคทีเรียและแสงอาทิตย์ อีกทั้งมีคู่มือแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจากคราบน้ำมันและคู่มือประเมินความเสียหายจากคราบน้ำมัน คาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าสู่ปกติโดยเร็ววัน

อย่างไรก็ตาม นายสาธิตยังถามถึงความโปร่งในปริมาณน้ำมันที่รั่วไหล เพราะยังมีความคลุมเคลือถึงตัวเลขที่แท้จริง อีกทั้งรัฐบาลไม่ควรรีบออกมาบอกว่าสามารถแก้ปัญหาได้แล้ว หรือไม่มีผลกระทบอะไร โดยยังไม่มีการสำรวจ เพียงเพื่อต้องการเรียกความเชื่อมั่น แต่ต้องยอมพูดความจริง

กำลังโหลดความคิดเห็น