ผู้ประกอบการยันเสม็ดยังน่าเที่ยว หลังพิษน้ำมันทำท่องเที่ยวทรุด จี้"พีทีทีจีที"รับผิดชอบ

สถานการณ์ล่าสุดของอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ. ระยอง รมว.ทส. ยันกำจัดคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าวได้แล้วกว่า 70% มีการบินสำรวจคราบน้ำมันบริเวณใกล้เคียง ทั้งอ่าวเพ อ่าวปากคลองแกลง ยังไม่พบคราบน้ำมันกระจายไปที่อื่น เริ่มเห็นเกลียวคลื่นมีสีขาว แต่ยังมีคราบน้ำมันตามชายหาด ด้านผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยววอนสื่อเสนอข่าว 17 อ่าวยังเที่ยวได้ และเรียกร้องให้บริษัท พีทีที แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจน นอกเหนือจากการขจัดคราบน้ำมันซึ่งเป็นเหตุเฉพาะหน้า

วิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการกำจัดคราบน้ำมันรั่วไหลที่บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ว่า สามารถกำจัดคราบน้ำมันไปได้แล้วกว่าร้อยละ 70 โดยมีการบินสำรวจคราบน้ำมันบริเวณใกล้เคียง ทั้งอ่าวเพ อ่าวปากคลองแกลง ยังไม่พบคราบน้ำมันกระจายไป

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลอาจมีผลกระทบจากการฉีดสารเคมีพ่นคราบน้ำมันนั้น ถือเป็นทางออกสุดท้ายที่จะใช้สลายคราบน้ำมัน เนื่องจากการใช้สารเคมีจะช่วยใช้สลายอนุภาพคราบน้ำมันได้ดี แต่จะมีผลกระทบกับระบบนิเวศ คือสารเคมีจะไปจับคราบน้ำมันและจมลงทะเลต้องใช้เวลาในการย่อยสลายด้วยแบคทีเรีย และแสงแดด แต่จากการส่งนักประดาน้ำไปสำรวจสภาพระบบนิเวศในทะเลด้านทิศตะวันตกของอ่าวพร้าว ห่างฝั่งไปประมาณ 300 เมตร พบว่าปะการังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สัตว์น้ำอาศัยอยู่ปกติ แต่น้ำจะมีตะกอนเม็ดเล็กๆ คาดว่าอาจต้องใช้เวลาสลายนานนับเดือน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวอีกว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันบูรณาการทำงานร่วมกัน ซึ่งได้แต่งตั้งคณะทำงานติดตามประเมินสถานการณ์แก้ไข และฟื้นฟูผลกระทบสิ่งแวดล้อมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อร่วมกันดูแลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและวางมาตรการแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงน้ำทะเลลงทำให้คราบน้ำมันบริเวณชายฝังไม่ค่อยพบเห็น โดยมีเจ้าหน้าที่ของ ปตท.ลงมาช่วยกันจัดเก็บคราบน้ำมันที่ยังหลงเหลืออยู่ตามชายหาด คาดว่าในช่วงบ่ายน้ำทะเลขึ้น ทางบริษัท ปตท.จะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บอีกครั้ง และจะขนคราบน้ำมันที่จัดเก็บใส่ภาชนะไว้แล้วนำไปกำจัดต่อไป ซึ่งเมื่อสังเกตคลื่นทะเลพบว่าเริ่มมีเกลียวคลื่นสีขาวให้เห็นบ้างแล้ว

ด้านผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด มีการประชุมผู้ประกอบการที่หาดทรายแก้ว บีช รีสอร์ต หาข้อสรุปของผลกระทบที่เกิดขึ้นและหาแนวทางในการดำเนินการ โดยกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดระยองเรียกร้องสื่อมวลชนถ่ายทอดข้อเท็จจริง ว่าเหตุคราบน้ำมันตกค้างมีเพียงอ่าวพร้าวแห่งเดียว แต่อีก 17 อ่าวยังสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้

ทั้งนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยนักท่องเที่ยวยกเลิกจองที่พักแล้วในขณะนี้จนถึงปลายปี ทั้งบนเกาะและตัวเมืองระยอง จึงเรียกร้องให้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจน นอกเหนือจากการขจัดคราบน้ำมันซึ่งเป็นเหตุเฉพาะหน้า
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com