xs
xsm
sm
md
lg

“ชัชชาติ” เตรียมทบทวนมาตรการป้องกันและกำจัดคราบน้ำมันใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
“ชัชชาติ” เผยสัปดาห์หน้า กปน.เตรียมประชุมทบทวนมาตรการป้องกันและระงับเหตุ และการกำจัดคราบน้ำมัน โดยนำจุดบกพร่องเหตุท่อรับน้ำมันดิบของพีทีที โกลบอล พร้อมตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านปิโตรเลียม ประกันภัย และสิ่งแวดล้อมเพิ่ม 6 คน เล็งเพิ่มเครื่องมือ กำหนดพื้นที่เสี่ยง ชี้เกิดเหตุต้องเข้าพื้นที่ได้เร็ว เผยล่าสุดคราบน้ำมันพ้นเกาะเสม็ดแล้ว เหลือคราบบางๆ เท่านั้น

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (กปน.) จะประชุมเพื่อทบทวนแผนปฏิบัติการ และขั้นตอนการเผชิญเหตุในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันดิบซึ่งไม่ได้มีการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2547 โดยจะนำข้อบกพร่องจากเหตุการณ์ท่อรับน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รั่วกลางทะเล จังหวัดระยอง มาปรับปรุง เช่น กรณีเกิดเหตุจะต้องสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้เร็วทึ่สุด อุปกรณ์เครื่องมือเพียงพอหรือไม่ ซึ่ง กปน.จะตั้งกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญด้านปิโตรเลียม พลังงาน ประกันภัย สิ่งแวดล้อม เพิ่มเติมอีก 6 คน

“มาตรการและแผนปฏิบัติที่มีต้องทบทวนว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถนำมาใช้ได้ผลแค่ไหน ต้องกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องใดบ้าง เช่น กำหนดพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบกรณีเกิดเหตุน้ำมันรั่ว หรืออุปกรณ์เครื่องมือเพียงพอหรือไม่ ซึ่งหากต้องจัดหาเพิ่มบริษัทน้ำมันควรจจะรับผิดชอบเพราะมีกำไรจากธุรกิจนี้” นายชัชชาติกล่าว

สถานการณ์ของคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเล จังหวัดระยองล่าสุด จากภาพถ่ายทางอากาศสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช่วงเวลา 06.00 น.วันนี้ (31 ก.ค.) ไม่พบว่ามีปริมาณน้ำมันเพิ่มเนื่องจากถูกพัดเลยผ่านอ่าวพร้าวไปแล้ว โดยพบฟิล์มน้ำมันบางๆ ขนาดเล็กกว่ามิลลิเมตรกระจายอยู่ประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งสามารถแตกตัวเองตามธรรมชาติได้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า (จท.) สำรวจบริเวณหัวเกาะเสม็ดอย่างละเอียดว่ายังมีคราบน้ำมันจุดใดที่มีความหนาเพื่อกำจัดให้หมด

ด้าน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงมาตรการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันดิบ หลังเกิดเหตุการณ์ท่อรับน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอลฯ รั่ว ว่า ที่ผ่านมาได้มีกฎหมายในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันดิบมาแล้ว โดยมีการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ. 2547 ให้มีความเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพในทางปฏิบัติ แต่จากนี้ไปจะต้องมีมาตรการป้องกัน รวมถึงมาตรการระงับเหตุการณ์เข้าถึงพื้นที่ในการขจัดคราบน้ำมันหากเกิดเหตุรั่วไหลได้ทันที รวมไปถึงแผนฟื้นฟู

โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่กำกับดูแลควรจะเพิ่มความถี่ในการเข้าไปตรวจท่อรับน้ำมัน เครื่องมือ อุปกรณ์มีความพร้อมหรือไม่ ท่าเรือ สภาพเรือ ซึ่งรวมถึงแผนในการดำเนินงานของผู้ประกอบการ โดยสั่งการให้เลขานุการคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด

สำหรับภาพรวมและมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าน่าจะได้ข้อสรุป เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายจะไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น