ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-“ไม่มีหรอกค่ะ ทำงานร่วมกับกองทัพมา 2 ปีแล้ว เห็นอยู่แล้วว่ารัฐบาลจริงใจ และตั้งใจที่จะทำงาน รัฐบาลให้ความสำคัญกับงานด้านความมั่นคงอยู่แล้ว 2 ปีที่ผ่านมา ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกกับนักข่าว เมื่อถูกถามถึงคลิปเสียงของคนสองคน ที่พูดถึงกองทัพ จะทำให้การทำงานระหว่างกองทัพ และนายกฯ มีปัญหารือไม่
ยิ่งลักษณ์ ยังเอาสีข้างถูไปเรื่องอื่นตามปกติ “กังวลในประเด็นที่ว่า เราควรจะใช้เวทีพูดคุยกัน ในเรื่องของนโยบาย หรือสิ่งที่จะเกิดประโยชน์ให้กับประชาชนมากกว่านำมาเป็นประเด็นพูดกันไปต่างๆ นานา แล้วแก้ข่าวกันทุกวัน ความจริงแล้วเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการเปิดพื้นที่ในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน หรือนโยบายต่างๆ ที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือ ได้เปิดให้ประชาชนรับทราบ ก็ขอความกรุณา เชื่อว่าผู้ที่ฟังอยากให้ฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย
แม้กระทั่งในช่วงเวลาหลังจากนั้นของวันเดียวกัน เมื่อนักข่าวถามถึงคลิปเสียง ยิ่งลักษณ์ ก็ตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า "พอแล้ว ให้สัมภาษณ์วันละครั้งพอแล้ว ผู้นำต่างประเทศก็ให้สัมภาษณ์แค่วันละครั้งเท่านั้น"
นั่นทำให้“เปลว สีเงิน”เขียนวิจารณ์พฤติกรรมของยิ่งลักษณ์ อย่างไม่มีชิ้นดีว่า “"ยิ่งลักษณ์" บนความเป็นนายกฯวันนี้ ถ้าเป็นศพ ก็ต้องเรียกว่า "ผีไม่มีญาติ" ตั้งรอคนมารับเป็นเจ้าภาพสวดผ่านไปแล้ว 3 คืน มีแค่เสียงหมาหอน พรรคเพื่อไทย ต้นสังกัดเองแท้ๆ ก็...เมิน พรรคร่วม ก็...เมิน นปช. ก็...เมิน เหล่ารัฐมนตรี ก็...เมิน 3 เหล่าทัพ + 1 เหล่าตำรวจ ก็...เมิน กระทั่งแดงรับจ๊อบทั้งหลาย ก็...ยังเมิน !
ก็พอสรุปจากปฏิกิริยา "เมิน" ในทุกแนวร่วมได้ว่า คลิปเสียง "แม้ว ไวอะกร้า" สนทนากับ "อ๊อด ถั่งเช่า" ที่เขย่าสังคมประเทศมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนนั้น
มัน "ของจริง-เสียงจริง" !? ......
แปลไทยเป็นไทยคือ คลิปเสียงระหว่าง แม้ว ไวอะกร้า กับ อ๊อด ถั่งเช่า ...ไม่มีตกแต่งสีสันใดๆ
แม้กระทั่ง ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ยังบอกว่า “ได้อ่านจากข้อความที่มีการถอดเทป คิดว่าคนที่จะพูดแบบนี้ได้ ต้องรู้ลึก เพราะหลายๆ เรื่องไม่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ถอยหลังไปเป็น 10 ปี เช่นในปี 2545 สมัยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผบ.ทบ. เกิดเหตุปะทะกับประเทศพม่า ซึ่งในตอนนั้นก็มีการเรียกประชุมลับ โดยมีผม ในฐานะรมว.มหาดไทย, พ.ต.ท.ทักษิณ, พล.อ.สุรยุทธ์, นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.การต่างประเทศ, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รมว.กลาโหม และรวมถึง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ซึ่งสมัยนั้นเป็น รมช.กลาโหมร่วมประชุมอยู่ด้วย โดยในที่ประชุมลับวันนั้นได้สอบถามว่า ยิงปืนใหญ่ไปประเทศพม่าทั้งหมดกี่นัด ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า 3,000 กว่านัด เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องลับสุดยอด มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ และถือว่าเป็นข้อมูลวงใน”
"ถ้าถามผมถึงเรื่องสำนวนการพูด ผมทำงานร่วมกับพล.อ.ยุทธศักดิ์มา จนรู้ว่าสำนวนการพูดของท่านเป็นอย่างไร แต่สำนวนกับเรื่องจริง จะเป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ผมไม่ทราบ แต่สังคมไม่รู้จักทั้งสองคนอย่างใกล้ชิด แต่อย่างน้อยสุดผมคิดว่า ใกล้เคียงกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์" ร.ต.อ.ปุระชัย ทิ้งท้ายไว้แบบไม่ต้องแปล
ที่สำคัญกว่า มีการตั้งคำถามถึงการทำงานร่วมกันระหว่าง รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม กับผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ
โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลา 11.09 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม เพื่อประกอบพิธีเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยกเลิกกำหนดการเข้าสักการะศาลหลักเมืองตามขั้นตอนประเพณีการปฏิบัติการเข้ารับตำแหน่งของรมว.กลาโหม โดยได้เข้ามาสักการะ เจ้าพ่อหอกลอง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และคณะนายทหารระดับสูง เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง
ทางกระทรวงกลาโหมได้จัดการสวนสนาม จากกองทหารเกียรติยศผสม เพื่อต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างสมเกียรติ จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ รมช.กลาโหม ปลัดกกระทรวง ผบ.สส. และ ผบ.เหล่าทัพ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการทำงาน
ท่ามกลางความไม่พอใจของกองทัพต่อพฤติกรรมของ รมช.กลาโหม และ ทักษิณ ชินวัตร
ทั้งนี้ บทสนทนาระหว่าง “แม้ว ไวอะกร้า”กับ “อ๊อด ถั่งเช่า”ได้ถูกเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ นำมาตีแผ่ ซึ่งเป็นบันทึกคำสนทนาระหว่างนายพลเกษียณอายุราชการ ที่มีเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม กับบุรุษเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุก อดีตนายกรัฐมนตรี
บทสนทนาดังกล่าวคลอบคลุมตั้งแต่เรื่องกองทัพ การเมือง ยันเรื่องบนเตียง
โดยมีประเด็นสำคัญด้วยกัน 4 ประเด็น ได้แก่ การวางเกมให้สภากลาโหมอนุมัติกฎหมายนิรโทษกรรม การควบคุมกองทัพ การเคลียร์ปัญหากับ “ป๋า” การเดินทางกลับประเทศของแม้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
1 ) มีการพูดถึงร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง โดยคนเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ พูดว่า "ผมจะเอาเข้าสภากลาโหม เพื่อหารือให้ ผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพมีความคิดอันเดียวกันเลย ถ้าไม่งั้นถ้าไม่เข้า เดี๋ยวคนนั้นพูดที คนนี้พูดที วิธีเดียวก็คือ ขออนุญาตเอาเรื่องนี้เข้าสภากลาโหม เพื่อหารือให้เกิดเป็นความคิดอันเดียวกัน" แต่คนเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า "เอาเข้าสิ เอาเข้าสภาความมั่นคง ส่งให้รัฐบาล จบ ลัดขั้นตอนเลย" "เราเสนอเป็น พ.ร.บ.ไม่มีใครรู้ แต่พอถึงสภาความมั่นคงปุ๊บเนี่ย เราก็ เพื่อความไม่วุ่นวาย เสนอเป็น พ.ร.ก."
2) การโยกย้ายนายทหาร... คนเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชื่นชอบ พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง คณะที่ปรึกษากองทัพเรือ และอยากให้ตั้งเป็น ผบ.ทร.
คนเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ พูดว่า "อมรเทพ ก็ดี ทหารอากาศเรียบร้อยไหมครับ ประจิน (พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.) ไอ้ประจินนี่ เมื่อก่อนเป็นมือของไอ้ชลิต เขา แต่ดีแล้วที่เราได้ประจิน แล้วเราใช้ประจินไปบีบไอ้ชลิตข้างบนอีกที ซึ่งมันเป็นไอ้องคมนตรีนะครับ ไอ้ชลิต ถึงแม้ว่ามันจะพลอยฟ้าพลอยฝนไปทำปฏิวัติคราวนั้นนะครับ แต่มันก็ยังพึ่งไอ้ประจินอยู่ เพราะฉะนั้น เราคุมประจินไว้ เพื่อให้ชลิตเนี่ยมันอ่อน ยอมลงมา"
คนเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า "ก็ปีหน้าก็เกษียณหมด 57...เกลี้ยงทุกเหล่า" อีกคนเสริมว่า "ตั้งเอาเองเลย ไม่ต้องนั่นเลย" และชายเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ตบท้ายว่า "เลือกเอาเองสบายๆ" พร้อมกับบอกว่า "ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.) มาก
3) คนเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ เอ่ยขึ้นว่า "ตอนคุยกับป๋า ผมก็จะบอกว่า ท่านป๋าเนี่ยผมมองนะฮะ เพราะกลัวท่าน (ทักษิณ) จะกลับมาเล่นการเมืองเต็มที่ ผมก็จะพูดเรื่องว่า " คนเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณชิงพูดขึ้นมา "ป๋าบอกมาเลย ... ผมไม่ได้ไปติดใจ ไม่ได้จะไปแก้แค้นใคร และไม่ได้จะอยากจะแก้แค้นทางการเมือง และจริงๆ แล้วอยากจะจบชีวิตอย่างสบายๆ ไม่ใช่ว่ามีปัญหาแบบนี้มันจบไม่ลงไง ถึงให้ผมจบลงดีกว่า จบลงก็คือ ผมไม่เล่นการเมืองได้เลย ผมไม่ติดใจการเมืองอะไร ขอให้ผมจบสักที "
คนเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ อ้างคำพูดป๋าว่า "ผมจะบอกป๋าบอกว่า ไอ้งานเรื่องเศรษฐกิจ งานเรื่องกีฬา เรื่องการศึกษาอะไรต่างๆ ที่มันยังล้าหลังอยู่เนี่ย ถ้าได้ท่านนายกฯ ทักษิณ มาจับแป๊บเดียว มันไปโลดเลย " อีกฝ่ายก็ยืนยันว่า "ถ้าสมมติ ให้ผมต้องมา คือผมเองไม่ได้ติดใจอะไรเลยนะ"
มีคำพูดจากคนเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า " เพราะคุยกับ ผบ.แล้วครับ ผบ.บอกต้องยืนยันนะ ต้องมีหลักฐานยืนยันนะ ว่าเมื่อท่านกลับมาแล้ว ท่านจะเอาอะไรมายืนยัน ผมก็บอกยืนยันว่าจะไม่ คล้ายๆ อย่างที่ท่านพูดเมื่อกี้ จะไม่แก้แค้นท่านนะ ท่านกลัวครับ"
คนเสียงคล้ายทักษิณ ก็แนะวิธีว่า "โอ๊ย... นี่ นี่ เอาอย่างงี้สิ บอกอย่างงี้สิ วิธีอยากดองผมง่ายนิดเดียว ตั้งผมไปเป็นที่ปรึกษาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไม่เป็นองคมนตรี ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าเมื่อถูกหนีบเอาไว้ตรงนั้นน่ะ ให้ Active ทางการเมืองยาก ถ้าถูกหนีบไว้ตรงนั้นนะ"
4) "มันเป็นหน้าที่พี่นะ พี่เอาผมออกมา พี่ต้องเอาผมกลับ (หัวเราะ)" ชายเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ พูด รายหลังจึงบอกว่า " โอโห! ตอนท่านพูดกับผม ผมบอก นี่หนูช่วยราชสีห์แล้วโว้ย ผมดีใจนะ ดีใจจัง ได้ช่วยราชสีห์สักครั้งหนึ่ง...ต้องเอากลับมา แหม เป็นครั้งสุดท้ายแล้วครับ ครั้งสุดท้ายในชีวิต ในประวัติ เป็นประวัติชีวิตเลย เพราะว่าหลังจากนี้ไปก็ไม่เป็นไรต่อละ พอละ แต่ต้องทำให้ได้สักที มันเป็นความภูมิใจนะครับ ของชีวิตของคนเรา"
ทั้ง 4 ประเด็น เป็นเหตุให้นำไปสู่บทสรุปว่า “เลวบัดซบ”!!!