ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-กล่าวได้ว่าคลิปฉาวที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนถือเป็น “หลักฐาน” ชั้นดีที่เปลือยตัวตนของคนเสียงคล้าย “นช.ทักษิณ ชินวัตร” อย่างล่อนจ้อนว่าเขาแต่งตั้งคนเสียงคล้าย “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ให้เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้ามาปฏิบัติภารกิจ “พาทักษิณกลับบ้าน” โดยอาศัยช่องทางของสภากลาโหม ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ขณะเดียวกันก็มีแผนชั่วที่คิดจะฮุบอำนาจกองทัพ และที่ร้ายที่สุดคือความคิดที่หวังจะใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อเข้ามาแสวงหาประโยชน์ และฟอกตัวให้คนหลงเชื่อว่าเขาจงรักภักดี
วรรคตอนใดบ้างที่ชี้ให้เห็นถึงแผนกินรวบประเทศไทย นักวิชาการซึ่งติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด และมีมุมมองที่แหลมคมเท่าทันต่อบริบทต่างๆ ทางการเมือง อย่าง “ผศ.ดร พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต” รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จะมาถอดรหัส ให้เห็นถึงเนื้อแท้และเป้าหมายอย่างหมดเปลือก
คลิปเสียงตอนที่ 1
ชายคนที่ 1 - เวลาไปตรวจนะครับ นายกฯ ท่านบอกว่า ให้ผมไปด้วยทุกครั้ง แล้วให้รายงานทุกเรื่อง ผบ.ทบ.สั่งอะไรให้รายงานหมด
ชายคนที่ 2 - นายกฯ อยากให้พี่มีอะไรจะพูดกับเขา โดยตรงเป็นหลัก คือถ้าพูดกับเขาเรียบร้อยแล้วอะไรแล้ว การพูดคุยต้องเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่คนภายนอกรู้ก่อน แล้วเขาไม่รู้อะไรอย่างนี้ เขาจะกลัวเขาเป็นคนที่ Sensitive เรื่องนี้
ชายคนที่ 1 - ก็พูดกันเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว นายกฯ บอกผม ต่อไปปูรู้ก่อน แล้วค่อยบอกคนอื่น
ชายคนที่ 2 - มันเป็นเรื่องของลีดเดอร์ชิป (Leadership) เพราะเขาโดนว่า โดนพูดเยอะ
บทสนทนาช่วงนี้ สิ่งที่เน้นมากคือประเด็นที่ต้องการให้นายพลถั่งเช่ารายงานทุกเรื่องให้นายกรัฐมนตรีรู้ เพราะจะเห็นว่าย้ำเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมานายกฯรัฐมนตรีมีปัญหาว่าไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายการเมืองที่ดูแลด้านความมั่นคง ทำนองว่ารายงานไปก็อาจจะไม่รู้เรื่อง
ชายคนที่ 1- ไอ้ ผบ.สูงสุด ตอนแรกก็พูดกับท่านนายกฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ก็เรียบร้อยละครับ มันก็มาพูดกับนายกฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ตรงๆ ว่าเมื่อก่อนนี้ผมยังมีอะไรเกี่ยงงอนอยู่บ้าง ผบ.สูงสุดก็สารภาพตรงๆ กับนายกฯ ว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
ประโยคนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยินยอมพร้อมใจที่จะยืนข้างยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือบทสนทนาต่อจากนี้ที่ทำให้เห็นถึงแผนการร้ายที่จะใช้สภากลาโหมเป็นเครื่องมือในการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เพื่อล้างผิดให้ตนเอง โดยให้แต่งหน้าตากฎหมายเป็น พ.ร.บ. เข้าไปก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น พ.ร.ก. เพื่อลัดขั้นตอน ในภายหลัง ซึ่งการงุบงิบออกกฎหมายผ่านช่องทางสภากลาโหมนี้ทั้งฝ่ายการเมือง สื่อ รวมทั้งประชาชน ไม่มีทางล่วงรู้ จนกว่ากฎหมายจะออกมาบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว
ชายคนที่ 2 - เห็นพี่บอกถ้ากฎหมายโอเคแล้ว พี่จะเอาเข้าผ่านสภากลาโหมด้วยหรือ
ชายคนที่ 1 - ผมจะเอาเข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้ ผบ.เหล่าทัพทุกเหล่าทัพมีความคิดอันเดียวกันเลย ถ้าไม่งั้นถ้าไม่เข้า เดี๋ยวคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที วิธีเดียวก็คือขออนุญาตเอาเรื่องนี้เข้าสภากลาโหมเพื่อหารือให้เกิดเป็นความคิดอันเดียวกัน
ชายคนที่ 2 - เอาเข้าสิ เอาเข้าสภาความมั่นคงฯ ส่งให้รัฐบาล จบ ลัดขั้นตอนเลย
ชายคนที่ 1 - จบเลย ครับ เอาเข้าได้ ก่อนที่จะเข้าก็ต้องหารือกับเหล่าทัพแต่ละคนก่อน เฮ้ย! ลื้ออ่านนะ มีอะไรที่จะแก้ไข มีอะไรที่จะพูด พูดกันนอกการประชุมเสียก่อน
ชายคนที่ 2 - เราเสนอเป็น พ.ร.บ. ไม่มีใครรู้ แต่พอถึงสภาความมั่นคงฯ ปุ๊บเนี่ย เราก็ เพื่อความไม่วุ่นวายเสนอเป็น พ.ร.ก.
ชายคนที่ 1 - เพราะว่า ไอ้วาระนี้ ถ้าผมได้อยู่นะครับ ได้ทำ ผมจะไม่เอาเข้าวาระ แต่เป็นวาระที่ จรเข้าไปเลย บอกว่า ขอเสนอวาระสำคัญ
ชายคนที่ 2 - ในสภากลาโหมนี่ ก็ใช้วิธีว่า เอ้ย! สภาความมั่นคง ก็ใช้วิธีเข้าไปเสร็จปุ๊บ เนี่ย หน้าตาเป็น พ.ร.บ. และก็ในสภากลาโหมก็ไม่ต้องออกข่าว แต่บอกให้รู้ว่า ถ้าเพื่อความรวดเร็ว และไม่วุ่นวาย น่าจะเป็น พ.ร.ก. อะไรอย่างนี้ พูดไว้ บันทึกไว้ พอไปถึงสภาความมั่นคงปั๊บ พอเข้าไป บอกว่าเสนอเป็น พ.ร.บ. หน้าตาเป็น พ.ร.บ. นะ แล้วสภาความมั่นคงก็บอกว่า ขอให้รัฐบาลเสนอออกเป็น พ.ร.ก. มันจะได้มีอะไรรองรับ
ชายคนที่ 1- มันทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ไอ้ฝ่ายต่อต้านวันนี้นะ
ชายคนที่ 2 - นิดเดียวเอง เพียงแต่ว่าสำคัญคือ ทหารไม่เอาด้วยก็จบ
ชายคนที่ 1 - ทหารไม่เอาด้วยจบ แต่ต้องเอาทหารก่อน ผมถึงบอกต้องเอาทหารก่อน
คลิปเสียงตอนที่ 2
ชายคนที่ 2 - มันเป็นหน้าที่พี่นะ พี่เอาผมออกมา พี่ต้องเอาผมกลับ (หัวเราะ)
ชายคนที่ 1 - ผมบอก ... โอ้โห! ตอนท่านพูดกับผม ผมบอก โอ้โห นี่หนูช่วยราชสีห์แล้วนะ ผมดีใจนะ ดีใจจังได้ช่วยราชสีห์สักครั้งหนึ่ง
ชายคนที่ 2 - เอาออกไป ต้องเอากลับมาให้ได้
ชายคนที่ 1 - ต้องเอากลับมา แหม เป็นประวัติชีวิตเลย ต้องทำให้ได้สักที มันเป็นความภูมิใจนะครับ
บทสนทนาช่วงนี้ นักโทษชายหนีคดีได้ขอคำมั่นสัญญาจากนายพลถั่งเช่า ว่าจะพาเขากลับเข้าไทยโดยไม่ต้องรับโทษ เนื่องจากที่ผ่านมา 'บิ๊กโอ๋' เคยใช้ตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พาเขาหนีออกจากเมืองไทย เพราะรู้ล่วงหน้าว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองจะตัดสินให้ทักษิณติดคุกเพราะมีความผิดในคดีที่ดินรัชดา (เหตุเกิดเมื่อ ปี 2551) โดยวางแผนแต่งตั้งให้ทักษิณไปเป็นประธานในกิตติมศักดิ์ฝ่ายไทย ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้ทักษิณรอดพ้นคุกและเป็นนักโทษหนีคดีคอร์รัปชั่นมาได้ถึงทุกวันนี้
จากนั้นนายพลถั่งเช่าก็รายงานกับอดีตนายกรัฐมนตรีว่าตนเองได้แนะนำให้นายกรัฐมนตรีใช้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งสนิทสนมกับ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า เป็นตัวกลางในการล็อบบี้ 'มิน อ่อง ลาย' ซึ่งเป็นนายทหารที่มีอิทธิพลอย่างสูงในพม่า เพื่อให้ได้ประโยชน์จากโครงการทวาย ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในพม่า ซึ่งชี้ให้เห็นว่าระบอบทักษิณคิดแต่จะอาศัยตำแหน่งทางการเมืองเพื่อแสวงหาประโยชน์เท่านั้น
ชายคนที่ 1- แล้วเรื่องของพม่า ผมบอกกับนายกฯ ไปแล้วนะครับ บอกว่าใช้ ผบ.สูงสุดให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเลย เพราะไอ้มินอ่องลาย ซึ่งเป็น ผบ.สูงสุดของพม่า มันเป็นมือหนึ่งของท่านประธานาธิบดีเต็งเส่งเลย แล้วเต็งเส่งให้ความเกรงใจมากที่สุด และทีนี้ไอ้ ผบ.สูงสุดเขากับ ผบ.สูงสุดไทยนี่ มันมาเป็นเคาน์เตอร์พาร์ตกัน ผลัดกันกินข้าวคนละเดือน คนละเดือน เพราะฉะนั้นถ้าจะบีบอะไรเรื่องทวาย นายกฯ เรียก ผบ.สูงสุดมาใช้ได้อีกงานหนึ่ง เป็นงานต่างประเทศ
ชายคนที่ 2- ผมไปสงกรานต์กับไอ้เนี่ย ผบ.สูงสุดน่ะ
ชายคนที่ 1 - อ๋อ! ไอ้อ่องมินลายนี่นะฮะ โอ้โฮ มันชั้นหนึ่งเลย มันบอกผมนะ เฮ้ยไอ้รัฐมนตรีกลาโหมเนี่ย มันตั้งนะ มันเป็น ผบ.สูงสุด แต่ตั้งรัฐมนตรีนะ มันบอกเลย มันบอก และรัฐมนตรีอีกหลายคนมันเป็นคนตั้ง ไอ้นี่ต้องเอาไว้นะ
ชายคนที่ 2 - พวกผมทั้งนั้นแหละ มันยกที่ให้ผมแปลงนึง ใจกลางเมืองย่างกุ้ง
ชายคนที่ 1 - ไอ้นี่ต้องเอาไว้นะครับ ถ้าได้ พม่านี่เสร็จเราหมดเลย
คลิปเสียงสนทนาตอนที่ 3
บทสนทนาในตอนที่ 3 ก็ยังมีช็อตเด็ดที่เป็นหลักฐานชัดเจนว่า นักโทษชายหนีคดี ได้สั่งการให้นายพลถั่งเช่าแต่งตั้ง “บิ๊กต้อม” เป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือ คนต่อไป ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรีปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยล้วงโผกองทัพ และพี่ชายไม่เคยยุ่งกับการแต่งตั้งโยกย้ายนั้นก็เป็นแค่เรื่องลวงโลก
ชายคนที่ 1 - กองทัพเรือก็เขาไม่มีอะไรตอนนี้ เขาจะเกษียณอีก 2 เดือน เขาก็ไม่มีอะไร
ชายคนที่ 2 - ใครจะขึ้น มันมีรอง กับมีอมรเทพ ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษา มันก็มี เสธ.อีกคนหนึ่ง แต่ผู้ช่วยไม่ได้เรื่อง
ชายคนที่ 1 - เอาคนที่พูดง่ายหน่อย
ชายคนที่ 2 - ผมว่าอมรเทพ มันเตรียมน้ำมาก่อน มันมีระบบ แต่อมรเทพนี่ ไอ้หรุ่ม มันอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่ เพราะมันแข่งกัน เมียมัน เป็นไอ้เนี่ย ... พี่สาว หรือน้องสาวพรทิวา ผมรู้จักพ่อมัน รู้จักมานาน
จากนั้น นักโทษชายหนีคดี และนายพลถั่งเช่าก็พูดคุยกันถึงแผนในการยึดอำนาจกองทัพอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งเชื่อว่าในปี 2557 บรรดาบิ๊กๆในกองทัพที่มีไม่ยอมลงให้จะครบวาระเกษียณอายุราชการไปหมด หลังจากนั้นก็สามารถแต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆได้ตามชอบใจ ซึ่งเป็นการควบรวมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ รวมถึงพยายยามจะล็อบบี้องคมนตรีมาเป็นพวกด้วย
ชายคนที่ 1 - อมรเทพก็ดี ทหารอากาศเรียบร้อยไหมครับ ประจิน ไอ้ประจินนี่เมื่อก่อนเป็นมือของไอ้ชลิตเขา แต่ดีแล้วที่เราได้ประจิน แล้วเราใช้ประจินไปบีบไอ้ชลิตข้างบนอีกที ซึ่งมันเป็นไอ้องคมนตรีนะครับ ไอ้ชลิตถึงแม้ว่ามันจะพลอยฟ้าพลอยฝนไปทำปฏิวัติคราวนั้นนะครับ แต่มันก็ยังพึ่งไอ้ประจินอยู่ เพราะฉะนั้นเราคุมประจินไว้ เพื่อให้ชลิตเนี่ยมันอ่อน ยอมลงมา
ชายคนที่ 2 - ก็ ปีหน้าก็เกษียณหมด 57
ชายคนที่ 1 - พอ 57 ก็เนี่ย
ชายคนที่ 2- เกลี้ยงทุกเหล่า
ชายคนที่ 1 - ตั้งเอาเองเลย ไม่ต้องนั่นเลย
ชายคนที่ 2- เลือกเอาเองสบายๆ
และนายพลถั่งเช่าก็รายงานให้ทักษิณรับทราบถึงผลการเจรจาต่อรองผลประโยชน์กับ2 นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เคยมีปัญหากับตนเอง ซึ่งทั้งสองตกลงมาเป็นพวกและยอมทำงานให้ เพื่อแลกกับการได้เข้ามามีตำแหน่งทางการเมืองหลังจากเกษียณอายุราชการ
ชายคนที่ 1 - ผมก็บอกมันนะครับ ผบ.สูงสุด กับ ผบ.ทบ. ผมเพิ่งบอก เฮ้ยปี 57 นี่นะ อย่างอั๊วเลิกทำงานนะ อั๊วคิดว่าอั๊วทำงานเสร็จแล้ว เอาเจ้านายอั๊วกลับแล้ว คราวนี้ต้องตาลื้อบ้างสิ เพราะฉะนั้นลื้อต้องแสดงฝีมือให้ท่านเห็น ตั้งแต่วันนี้ลื้อต้องแสดงฝีมือให้ท่านเห็น แล้วพอปี 57 เอ็งจะได้มีงานทำต่อ ไม่ต้องอยู่แก่เหมือนคนอื่นเขา เพราะมันว่าผมไม่แก่ ผมบอกจะได้ทำงานอย่างนี้ต่อ มันก็แฮปปี้นะครับ มันไม่ได้บอกว่าโนเลย มันก็ เออๆ มันก็เริ่มมองเห็นว่า หลังจากเกษียณไปแล้ว มันอาจจะมีอนาคตสำคัญ
ชายคนที่ 2- ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก
ชายคนที่ 1 - ไอ้ตู่ เขาให้ความจริงใจนะครับ จริงใจมากเลย
นอกจากมีแผนจะยึดอำนาจกองทัพแล้ว จากบทสนทนานี้ยังชี้ให้เห็นว่านักโทษชายหนีคดีมีแผนที่จะเข้าไปมีตำแหน่งในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อใช้อำนาจแสวงประโยชน์ และอาศัยตำแหน่งดังกล่าวเป็นฉากสร้างภาพความจงรักภักดี ซึ่งเท่ากับเขาเสนอตัวที่เข้าไปเป็น 'คนของอำมาตย์' เพื่อหวังผลประโยชน์ โดยไม่ใยดีกับความรู้สึกของคนเสื้อแดงที่เขาเคยปั้นเรื่องล้างสมองให้เกลียดชังสถาบัน และยอมเจ็บยอมตาย ออกมาชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองเพื่อช่วย 'พาทักษิณกลับบ้าน' เพียงเพราะวลี'อำมาตย์' กับ 'ไพร่' ที่ ใช้หลอกเสื้อแดง
ชายคนที่ 1 - ครับ ... แต่ถ้า ตอนคุยกับป๋า ผมก็จะบอกว่า ท่านป๋าเนี่ยผมมองนะฮะ เพราะกลัวท่านจะกลับมาเล่นการเมืองเต็มที่ ผมก็จะพูดเรื่องว่า
ชายคนที่ 2 - ป๋าบอกมาเลย ผมไม่ได้ไปติดใจ ไม่ได้คิดจะไปแก้แค้นใคร และไม่ได้จะแก้แค้นทางการเมือง และจริงๆ แล้วอยากจะจบชีวิตแบบสบายๆ จบลงคือให้ตัวผมไม่เล่นการเมืองเลย
ชายคนที่ 1 - เพราะคุยกับ ผบ. แล้วครับ ผบ.บอกต้องยืนยันนะ ต้องมีหลักฐานยืนยันนะ
ชายคนที่ 2 - ว่า
ชายคนที่ 1 - ว่าเมื่อท่านกลับมาแล้ว ท่านจะเอาอะไรมายืนยัน จะไม่แก้แค้นท่านนะ ท่านกลัวครับ
ชายคนที่ 2 - โอย... นี่ นี่ เอาอย่างงี้สิ บอกอย่างงี้สิ วิธีอยากดองผมง่ายนิดเดียว ตั้งผมไปเป็นที่ปรึกษาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่เป็นองคมนตรี ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าถ้าถูกหนีบเอาไว้ตรงนั้นน่ะ ให้ Active ทางการเมืองยาก ถ้าถูกหนีบไว้ตรงนั้นน่ะ
ชายคนที่ 1- ผมพูดอย่างนี้นะฮะ
ชายคนที่ 2- เออ...จะใช้ผม ไม่ใช้ผมไม่เป็นไร แต่หนีบไว้ตรงนั้น ให้ทางการเมืองดิ้นยาก ทำให้ต้องไม่กล้าไปไหน ท่านจะปรึกษาก็ได้ ไม่ปรึกษาก็ได้ แต่ว่าถ้าที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เหมือนน้องๆ สายวังเลยนะ มันก็เหมือนทำตัวเป็นคนของเจ้านาย ทำตัวเป็นอย่างอื่นไม่ได้ มันต้องหนีบเลย ล็อกเลย ผมไม่ขอเป็นองคมนตรีอยู่แล้ว เพราะว่าเราชอบเบี้ยว (หัวเราะ)
สมมุตินะ เอาอย่างนี้ดีกว่าพี่ พอเรื่องจบปุ๊บเนี่ย พอผมกลับบ้าน ก็ประกาศตั้งตรงนี้ไปเลย มันเท่ากับว่าพอประกาศมาปุ๊บนี่ กลายเป็นคนของ เท่ากับในวังเอาไปหนีบไว้แล้ว จบ!
ชายคนที่ 1 - ดีครับ อย่างนี้ดีมากเลย ผมก็คิดไม่ออก เดี๋ยวจะได้ใช้หลักฐานนี้
อาจารย์พิชายชี้ว่าทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าทั้งหลายทั้งปวงที่นักโทษชายหนีคดีดิ้นรนมาตลอดหลายปีนั้น หาใช่เป็นไปเพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างที่กล่าวอ้าง แต่เขาทำเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ส่วนตัว อีกทั้งพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ แม้แต่ 'หักหลัง 'คนเสื้อแดง ที่ปวารณาตัวยอมเจ็บยอมตายและให้ได้แม้แต่ชีวิต
ไขปริศนา...ใครเป็นใคร ? ในเทปลับ
เทปลับการสนทนาระหว่างนักโทษหนีคดีคอร์รัปชั่นกับนายพลถั่งเช่าได้ฉายภาพให้เห็นถึงแผนการของนักโทษชายหนีคดีที่ต้องการยึดอำนาจกองทัพ อีกทั้งยังความคิดอันเหิมเกริมถึงขั้นที่จะใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เพื่อสร้างภาพความจงรักภักดี และไม่ใช่แค่คิดจะยึดประเทศไทยเท่านั้น นช.ทักษิณยังวางแผนจะเข้าไปแสวงประโยชน์ในโครงการทวายของพม่า โดยใช้บิ๊กทหารพม่าเป็นเครื่องมือ
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้ยินได้ฟังบทสนทนานี้ก็พากันสงสัยว่าบรรดารายชื่อที่ถูกกล่าวถึงเป็นใคร ? มีความเกี่ยวพันอย่างไรกับเป้าหมายของนักโทษชายหนีคดีและนายพลถั่งเช่า
รายชื่อที่ผู้คนให้ความสนใจมาก ก็คือนายทหารบางคนที่ถูกกล่าวถึงในคลิปนี้ โดยเฉพาะ “อมรเทพ” ซึ่งเป็นแคนดิเดตที่นักโทษชายหนีคดียื่นโพยให้นายพลถั่งเช่าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการทหารเรือ” คนต่อไป ในฤดูการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะมาถึงในเดือน ต.ค.นี้ และจากบทสนทนาในคลิปนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า ภรรยา และพ่อตาของอมรเทพนั้นมีสายสัมพันธ์อันดีกับนายใหญ่คนเสื้อแดงไม่น้อย
“อมรเทพ” คนนี้จะเป็นใครเสียไม่ได้นอกจาก “พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง” หรือ “บิ๊กต้อม” ประธานที่ปรึกษากองทัพเรือ “บิ๊กต้อม” ที่ผ่านมานั้นในกองทัพก็รู้กันดีว่าเขามีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับครอบครัว “วงศ์สวัสดิ์” และได้ประกาศศักดาเขย่าขวัญบรรดาแม่ทัพเรือที่เป็นแคนดิเดตเข้าชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.โดยเฉพาะ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศรัย รอง ผบ.ทร. ที่จ่อคิวอยู่ ด้วยการหอบช่อดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวสุดที่รักของ นช.ทักษิณ ที่ชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เชียงใหม่ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะนี่เป็นการส่งสัญญานให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่าง “บิ๊กต้อม” กับขั้วอำนาจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในพรรคเพื่อไทยในตอนนี้
นอกจากนั้นครอบครัวฝ่ายภรรยาของ “บิ๊กต้อม” ก็เรียกว่ามีความสนิทชิดเชื้อกับ “ตระกูลชินวัตร” อยู่ไม่น้อย เนื่องจากภรรยาของเขา คือ “พรทิพย์ ศักด์ศิริเวทย์กุล”กรรมการบริหารบริษัทรัชดาเรียลเอสเตท จำกัด นั้นเป็นลูกสาวของ “เฮียเม้ง” สุรินทร์ ศักด์ศิริเวทย์กุล เจ้าของสถานบริการอาบนวดชื่อดังย่านรัชดา ที่เคยวิ่งเข้าออกบ้าน 'พล.ท.เสมอ ดามาพงศ์' อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ อยู่บ่อยๆ ขณะที่พี่สาวของภรรยาบิ๊กต้อมก็คือ “พรทิวา นาคาศัย” อดีต รมว.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ในโควตาของพรรคภูมิใจไทย ศรีภรรยาของ “เสี่ยแฮงก์” อนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มมัชฌิชา ที่สนิทแนบแน่นกับ “เจ๊แดง”เยาวภา
อีกคนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ “มิน อ่อง ลาย” ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาร์ ซึ่งปรากฎชื่อในช่วงหนึ่งของบทสนทนาที่พูดถึงการเข้าไปแสวงประโยชน์ในพม่า โดยใช้ “มิน อ่อง ลาย” ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับ “พลเอก เต็ง เส่ง” ประธานาธิบดีของพม่า เป็นสะพานในการประสานและล็อบบี้(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมใน “ใช้มิน อ่อง ลายบีบพม่า ล่าขุมทรัพย์ทวาย” หน้า 10)
ขณะที่คนอื่นๆ ที่ปรากฏชื่อในคลิปเชื่อว่า หลายคนคงคาดเดาได้ไม่ยากนัก อาทิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร พล.อ.อัครเดช ศศิประภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเรืองรมย์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก เป็นต้น