ผบ.สส.อ้างไม่ใช่ ยธ.ไม่ยุ่งพา “แม้ว” กลับ ลั่นไม่ใส่ใจคลิป ย้อนกองทัพเคยถูกชักใยหรือ

“ธนะศักดิ์” นำทีมบิ๊กท็อปบูตตรวจฝึกร่วมกองทัพ ปัดนัดแถลงโต้คลิปเสียงฉาว ไม่ใส่ใจ ยังไม่ได้ฟัง ยันกองทัพทำตาม กม.บอกถึงได้ยินกับหูก็ไม่โกรธ ชี้ถ้ามีพฤติกรรมไม่ดีก็ต้องว่ากัน เผยเจอผบ.หม่องไม่ได้ว่าอะไร ย้อนสื่อซักกองทัพเคยถูกครอบงำหรือยัง ขู่เขียนให้ดีๆ หวั่นสร้างปัญหาชาติ อ้างไม่ใช่ ยธ.ไม่ยุ่ง พา “นช.แม้ว” กลับบ้าน ลั่นถ้าหวั่นไหวก็ไม่ต้องทำงาน แต่ถ้ามีจดหมายลงชื่อมาก็ต้องสอบสวน


วันนี้ (12 ก.ค.) ที่สนามฝึกยิงปืนใหญ่รถถังกองทัพภาคที่ 2 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรืิอ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกร่วมกองทัพไทย ประจำปี 2556 โดยมีกำลังพลจากทุกเหล่าทัพ กว่า 1,000 นาย เข้าร่วมการฝึกในระหว่างวันที่ 8-12 ก.ค.ทั้งนี้การฝึกร่วมกองทัพไทยเป็นการฝึกที่กำหนดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดำรงความพร้อม มุ่งเน้นการเสริมสร้างขีดความสามาถ การปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพ เพื่อให้กองทัพไทยมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศ และสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤตต่างๆ รวมทั้งภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวให้โอวาทต่อกำลังพลว่า ผู้บัญชาการทุกคนมีความยินดีและดีใจมากที่ได้เจอกำลังพลทุกนายที่มีความจริงจังและตั้งใจมากอย่างเต็มที่โดยเหนือคำบรรยาย ถือว่าทุกคนเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพ มีความพร้อม และมีการฝึกซ้อมร่วมผสมเหล่า โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 2 ที่เป็นผู้นำการฝึกผสมเหล่าครั้งนี้ ทหารฝึก 1,000 วัน แต่ใช้จริงแค่ 1 วันก็ถือว่าคุ้ม ทั้งนี้ภารกิจที่เราได้รับถือว่ามีเกียรติ เพราะเป็นภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาความมั่นคงความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพราะฉะนั้นความพร้อมของเราเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็คือการฝึกภายใต้กติกา ที่ว่าฝึกให้เหมือนจริง จริงให้เหมือนฝึก คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก หาข้อบกพร่องและอุดรูรั่วเหล่านั้น ครั้งไหนที่ฝึกแล้วไม่พบข้อบกพร่อง ขอให้กังวลไว้ว่าเราหามันไม่เจอ เมื่อเราพร้อมแล้วเราก็จะเป็นหน่วยที่มีประสิทธิภาพ ทหารต้องฝึกอยู่เสมอ เพื่อให้มีความพร้อมและมีวินัยสามารถปฏิบัติการได้ทุกรูปแบบ ดังนั้นพวกเราทุกคนถือว่าเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บังคับบัญชาทุกระดับ รวมถึงประเทศชาติ และประชาชน

“เรายังยึดมั่นว่า 3 เหล่าทัพ 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็น 1 กองทัพไทย สิ่งที่ได้เห็นคือความพร้อมของทุกคนที่ขอให้รักษาไว้ ผมขอชื่นชมและพูดว่าประทับใจหลายๆ ครั้ง ผมมีความมั่นใจว่ากองทัพไทยเป็นกองทัพที่มีขีดความสามารถ และมีความพร้อม มีความรักเป็นหนึ่งเดียว สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราจะเผชิญกับวิกฤตหรือปัญหาต่างๆ เพื่อสนับสนุนประเทศชาติให้ยืนหยััดอยู่ได้อย่างมีชื่อเสียง” ผบ.สส.กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการแถลงข่าวถึงคลิปเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีการพาดพิงถึงกองทัพว่า สื่อเข้าใจผิดแล้วว่าตนอยากจะพูด ซึ่งจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องพูดเลย เพราะตนไม่ได้ใส่ใจเรื่องคลิปเสียง อย่าลืมว่าเรารู้จักกันมานานแล้ว ไม่ใช่แค่สองปีที่ผ่านมา ที่ผ่านมา มีคนพาดพิงถึงตนก็ไม่เคยโกรธ หรือเกลียด และไม่เคยเถียง ตนเป็นไม้แก่จะ 60 อยู่แล้ว ดัดอย่างไรก็จะยังอยู่ที่เดิม หลักการของเรา คืออยู่ด้วยเหตุด้วยผล ผบ.เหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็อยู่ด้วยเหตุด้วยผล เราคุมกำลัง 4 แสนคน ถ้ารวมตำรวจด้วย ก็ประมาณ 8 แสนคน ถ้าทุกคนเอนไปซ้ายเอนไปขวา จะเดินทางตรงไปได้อย่างไร ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่า กองทัพจะทำตามหน้าที่ และทำตามสิ่งที่ได้รับมอบหมาย เป็นไปกฎหมายและกฎกติกา ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพ พูด ก็จะเหมือนตน

ผู้สื่อข่าวถามว่า คลิปเสียงที่ออกมาพาดพิงถึง ผบ.เหล่าทัพ จะทำให้เกิดปัญหาการทำงานกับ รมช.กลาโหม หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ แต่ถ้าจริงๆ แล้ว ถ้าเขามาพูดต่อหน้า หรือฟังกับหูเอง ก็ไม่โกรธ และไม่สน เพราะทำตามหน้าที่ของ ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้น ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่ถ้าดูแล้ว ผบ.สูงสุด ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.มีพฤติกรรม หรือผลงานอะไรที่ออกไปไม่ดี ก็ต้องว่ากัน และตนพร้อมที่จะฝึกกำลังพล เพื่อสนับสนุนประเทศ เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้า ถ้าหากเราไปขุดคุ้ย จะทำให้กระทบกับเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้ เพื่อนบ้านก็เข้าใจ ไม่ได้มีปัญหา ส่วนการเจอ พล.อ.มิน อ่องหล่าย ผบ.สูงสุดพม่า ที่ถูกพาดพิงด้วยนั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขามีความสนิทสนมกับเราเหมือนเดิม มีความแน่นแฟ้น

เมื่อถามต่อว่า ประชาชนยังมั่นใจกับกองทัพ จะไม่ถูกครอบงำกับฝ่ายการเมือง พล.อ.ธนะศักดิ์ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า กองทัพเคยถูกครอบงำแล้วหรือยัง ตนอยากถามสักคำ ตนอยากให้สื่อเขียนให้ดีๆ หากเขียนไม่ดี จะไปสร้างปัญหาให้กับประเทศ เหมือนกับกรณีประเทศเพื่อนที่มีการฝึกพร้อมรบ เขาก็ทำตามปกติ ถ้าทหารไม่ฝึกพร้อมรบจะให้ไปทำอะไร จะให้ไปนอนหรืออย่างไร

เมื่อถามถึงจุดยืนของกองทัพ กรณีพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า กองทัพไม่ใช่กระทรวงยุติธรรม และไม่ใช่ตำรวจ กองทัพทำตามหน้าที่ ทำตามพระราชบัญญัติกระทรวงกลาโหม หากเราแกว่งไปทางนั้นทางนี้ หรือ ผบ.เหล่าทัพ ไม่ยุ่งกับใคร ก็พยายามเอาเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งจริงๆ แล้ว มันไม่เกี่ยวข้องกัน กองทัพทำตามหน้าที่

เมื่อถามย้ำว่า จะไม่ติดใจคำพูดของ รมช.กลาโหม ใช่หรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า สมมติว่า มีใครมาว่าและตนก็หวั่นไหวไปเรื่อยๆ คงไม่ต้องทำงาน งานคืองาน หน้าที่คือหน้าที่ และสิ่งที่พูดมันไม่ใช่ ตัดปัญหาไปได้เลย คลิปเสียง ยังไม่ได้ฟังอะไรเลย มีแต่ลูกน้องรายงาน และในวันอาทิตย์นี้ ตนไปพบ ผบ.สูงสุดทหารพม่า ซึ่งเรามีการจัดแข่งขันฟุตบอลเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของกองทัพ ซึ่งถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ยืนยันว่าเขาเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวานนี้ได้เจอกับ รมช.กลาโหม ครั้งแรก ได้มีการพูดคุยอะไรกัน พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ต่างคนต่างสวัสดีกัน ทั้งนี้ ตนอยากฝากไว้ ทำให้มันดีๆ ประเทศจะได้ไปได้ และย้ำว่า กองทัพปฏิบัติตามกฎกติกา ทำให้ดีที่สุด และทำจนสุดความสามารถ ทุกคนทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า กว่าจะกลับบ้านก็สามทุ่ม อย่าเอาเรื่องปวดหัวมาใส่เลย ซึ่งจริงๆ แล้ว ตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ต้องแถลง ผบ.สูงสุด ผบ.เหล่าทัพ บอกว่าคนนั้นคนนี้ มาบอก มีการส่งคลิป หรือส่งจดหมาย ถ้าเราหวั่นไหวไปตามนั้น แต่ถ้ามีการส่งจดหมายด้วยการเซ็นชื่อ ตนก็จะสอบสวนตามกฎกติกา