xs
xsm
sm
md
lg

แฉหลักฐานมัดเจ๊งข้าว ยืมมือวราเทพแต่งบัญชี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "เกียรติ" จัดชุดใหญ่ แฉเอกสาร 3 ฉบับ ลากไส้ "ยิ่งลักษณ์" เจ๊งจำนำข้าว รู้อยู่เต็มอกขาดทุนจำนำข้าวปีละกว่า 2 แสนล้านตั้งแต่ปีที่แล้ว ยังกล้าแกล้งทำ“หนูไม่รู้” แถมใช้เงินเกิน 5 แสนล้าน "ชวนนท์ "แฉซ้ำ รัฐส่อทำผิด พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ เตรียมงัด พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร บังคับพาณิชย์คายตัวเลขขาดทุนจำนำข้าว “หมอวรงค์”เย้ย "ปู" ยืมมือ"วราเทพ" ตกแต่งตัวเลขจำนำข้าว อำพรางความผิด

เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชี้แจงของรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าว ที่ไม่สามารถระบุตัวเลขความเสียหายจากโครงการดังกล่าวได้ ว่า จะยิ่งทำให้ประเทศไทยขาดความน่าเชื่อถือมากกว่าเดิม และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าโครงการนี้เสียหายเท่าไรนั้น ถือเป็นการเล่นละคร เพราะครม.ทั้งคณะได้รับหนังสือของกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 55 รายงานผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/2555 และพิจารณาปริมาณ และวงเงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 โดยในหนังสือดังกล่าวระบุชัดเจนว่า โครงการดังกล่าวเป็นภาระงบประมาณที่สูงมาก ในขณะที่ยังไม่สามารถระบายข้าวได้จนส่งผลกระทบต่อความสามารถของกระทรวงการคลังในการค้ำประกันเงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/2556 และหากใช้เวลาในการระบายข้าวใน 3 ปี ก็จะมีภาระบริหารการปรับโครงสร้างหนี้เฉลี่ยปีละ 224,553 ล้านบาท ซึ่งจะกระทบต่อการระดมทุนในตลาดเงินที่มีสภาพคล่องตึงตัว ทั้งในด้านต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้น และเป็นภาระงบประมาณที่สูงขึ้นต่อไปด้วย

นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายจากการบริหารโครงการในปี 2554 วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท ปี 2555 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท และในปี 2556 ต้องใช้อีก 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ตัวเลขขาดทุน 2.6 แสนล้าน จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และเป็นสิ่งที่นายกฯ ต้องรับทราบอยู่แล้วด้วย”นายเกียรติ กล่าว

** ซื้อข้าวประเทศเพื่อนบ้านในราคาสูง

นายเกียรติ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า จากตัวเลขของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของกระทรวงการคลัง ระบุว่า มีการใช้เงินในโครงการนี้ไปแล้ว 661,224 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่ามีการใช้เงินเกินกรอบที่ ครม.กำหนดไว้ 5 แสนล้านบาทแล้วเป็นจำนวนถึง 161,224 ล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงว่า บริหารกันอย่างไร นายกฯ และครม.ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น

ส่วนรัฐมนตรีที่ออกมาต่อว่าสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ มูดี้ส์ ว่าไม่เป็นมืออาชีพนั้น ความจริงเขาคำนวณอย่างมีมาตรฐานแล้ว และที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พานิชย์ บอกว่ายังมีสต๊อกข้าวอยู่ จึงประเมินภาวะการขาดทุนไม่ได้นั้น ยิ่งพูดยิ่งน่าอาย เพราะความจริงสามารถปิดบัญชีได้โดยที่ยังมีสินค้าค้างสต็อกอยู่ โดยสินค้าที่เหลือก็ประเมินจากราคาตลาด บวกกับค่าเสื่อมของสินค้า ก็จะออกมาเป็นตัวเลขการขาดทุนในช่วงที่ปิดบัญชี

การใช้จ่ายในโครงการรับจำนำข้าวที่เกินวงเงิน 5แสนล้านบาทนั้น ถือว่าฝ่ายปฏิบัติคือ กระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส. มีการละเมิดมติครม.ไปแล้ว และมติครม.ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่ไปเปิดช่องให้ธ.ก.ส.กู้เพิ่มเกินวงเงิน 9 หมื่นล้านบาท ที่กำหนดเดิม โดยกระทรวงการคลังไม่ต้องค้ำประกัน ไม่ต้องรวมเป็นภาระในงบประมาณ แต่ให้แยกบัญชีออกไป รวมถึงไม่ให้รวมเป็นสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารด้วยนั้น เป็นสัญญาณชัดเจนว่าธ.ก.ส.กำลังมีปัญหาสภาพคล่อง และในที่สุดจะกระทบต่อสถานการณ์คลังของประเทศอย่างมาก

นายเกียรติ ยังกล่าวว่า ไม่เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์จะสามารถระบายข้าวในสต็อกที่มีอยู่ราว 17 ล้านตันได้ เพราะไม่มีหลักฐานว่าจะทำได้จริงตามที่พูด

**แจกเอกสาร 3 ฉบับ มัดพวกโกง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกียรติ ได้แจกเอกสาร 3 ฉบับ ให้กับสื่อมวลชน ประกอบด้วย หนังสือด่วนที่สุด ของกระทรวงการคลัง เรื่องรายงานผลการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/2555 และ พิจารณาปริมาณและวงเงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2555 ลงนามโดย นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง มีเนื้อหาเตือนถึงความเสี่ยงจากโครงการจำนำข้าว ที่จะต้องปรับโครงสร้างหนี้ถึงปีละ 224,553 ล้านบาท และจะเป็นภาระต่องบประมาณที่สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเร่งรัดให้กระทรวงพาณิชย์ ต้องรีบระบายข้าวเพื่อมาใช้หนี้คงค้างโดยเร็ว รวมถึงให้ อตก. , อคส. และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันปิดบัญชีโครงการเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนับจากวันสิ้นรอบการรับจำนำด้วย

เอกสารฉบับที่ 2 คือตารางราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15 % ของเกษตรกรตั้งแต่ปี 2540-2556 และตารางราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ 100 % ของเกษตรกรตั้งแต่ปี 2540-2556 ซึ่งพบว่า เกษตรกรไม่ได้เงินตามราคาที่รัฐบาลรับจำนำ แต่จะมีรายได้ต่ำกว่าราคาจำนำของรัฐบาลเฉลี่ยเกือบ 5 พันบาทต่อตัน

เอกสารฉบับที่ 3 เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินโครงการรับจำนำสินค้าการเกษตร 3 ชนิดคือ ข้าวนาปี 54/55 ข้าวนาปรัง 55 และ ข้าวนาปี 55/56 มันสำปะหลัง 54/55 และ 55/56 กับ ยางพารา โดยตัวเลขของการรับจำนำข้าว 3 ฤดูกาล จนถึงวันที่ 15 พ.ค. 56 จากตารางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. พบว่าใช้วงเงินรวม 591,990 ล้านบาท แต่ได้เงินชำระคืนจากการระบายข้าวเพียงแค่ 83,813 ล้านบาท คือน้อยกว่าค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลดำเนินโครงการไปกว่า 7 เท่า

โดยตัวเลขจาก ธ.ก.ส.ที่มีการรับจำนำข้าวนาปี 54/55 ปริมาณ 6.95 ล้านตัน วงเงิน 118,656 ล้านบาทนั้น จนถึงวันที่ 15 พ.ค.56 มีการชำระคืนเงินจากการระบายข้าวเพียงแค่ 38,271 ล้านบาท ส่วนข้าวนาปรังปี 55 ปริมาณ 14.7 ล้านตัน วงเงิน 218,670 ล้านบาทนั้น มีเงินชำระคืนจากการระบายข้าวเพียงแค่ 31,533 ล้านบาท ส่วนข้าวเปลือกปี 55/56 ปริมาณ 13.71 ล้านตัน วงเงิน 220,755 ล้านบาท มีการชำระคืนจากการระบายข้าวเพียงแค่ 14,009 ล้านบาทเท่านั้น เท่ากับว่า จำนำข้าว 3 ฤดูกาล ระบายข้าวได้เป็นมูลค่าเพียง 83,813 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายทั้งหมด 591,990 ล้านบาท

** ใช้พ.ร.บ.ข่าวสารให้พณ.เปิดตัวเลข

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมติครม. เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.56 ที่อนุมัติให้ ธ.ก.ส. รับภาระในการกู้เงินมาสำรองจ่ายโครงการจำนำข้าวว่า เป็นการผลักภาระทั้งหมดให้ธ.ก.ส. โดยเงินกู้ส่วนดังกล่าวกระทรวงการคลังไม่ได้ค้ำประกันให้ และจถกแยกบัญชีออกไปเพื่อให้บันทึกนอกภาระงบประมาณ และไม่รวมในเงินทุนที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ชัดเจนว่าเป็นการโยนภาระให้ ธ.ก.ส.กู้

ดังนั้น ตนเชื่อว่าเมื่อมูดี้ส์ เห็นมติครม.ดังกล่าว รวมถึงการใช้เงินกว่า 6 แสนล้านบาท ที่ขัดกับมติครม. ซึ่งกำหนดวงเงินไว้ที่ 5 แสนล้านบาท จะยิ่งไม่เชื่อถือประเทศไทยมากขึ้น

นอกจากนี้จะปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เพื่อนำ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ มาบังคับใช้ เพื่อยื่นเรื่องต่อกระทรวงพาณิชย์ ให้เปิดเผยตัวเลขผลผลิตการรับจำนำข้าว ปริมาณข้าวในสต็อก การระบายข้าว ราคาที่กระทรวงพาณิชย์จำหน่าย และตัวเลขการขาดทุนของโครงการดังกล่าว

** เย้ย"ปู"ยืมมือ"วราเทพ" ตกแต่งตัวเลขขาดทุน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ ครม. มีมติให้ นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากกระทรวงคลัง และพาณิชย์ ในโครงการรับจำนำข้าวเพื่อชี้แจงต่อสาธารณชนว่า เจตนาในการตั้งนายวราเทพ ก็เพื่อตบแต่งบัญชี อำพรางตัวเลขการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจาก น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ประธานอนุคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เป็นผู้แต่งตั้ง เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 55 มาแก้ไขเปลี่ยนแปลง โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุม กขช. เพื่อพิจารณาอีกครั้งนั้น มันน่าแปลกใจ เพราะนายกฯ ตั้งขึ้นมาเองก็ต้องรับรู้แล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนตัวคนดูแลชี้แจง แต่ข้อมูลอยู่ในฐานเดิม ก็ไม่ต่างกัน

ส่วนกรณีที่ ครม.มีมติ รวบรวมปริมาณ และวงเงินการรับจำนำข้าวเปลือกปี 55/56 ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 เข้าด้วยกัน โดยอ้างว่า เพื่อความยืดหยุ่นและให้เกิดประสิทธิภาพนั้น ขอชี้แจงว่าใน 1 ปี รัฐบาลจะรับจำนำข้าวเปลือก 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เป็นข้าวนาปี ซึ่งจะสิ้นสุดประมาณ วันที่ 31 มี.ค. โดยที่รัฐบาลอนุมัติกรอบรับจำนำไว้ที่ 15 ล้านตัน ในวงเงิน 2.5 แสนล้านบาท และ ครั้งที่ 2 ข้าวนาปรัง เริ่มเดือนเม.ย. –15ก.ย. โดยที่รัฐบาลตั้งกรอบไว้ 7 ล้านตัน ในวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท

แต่ที่ผ่านมา การรับจำนำข้าวนาปีมีการรับจำนำสูงกว่าที่รัฐบาลได้วางกรอบไว้ เท่ากับว่า มีกระบวนการสวมสิทธิรอบนาปีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การที่รัฐบาลออก มติครม. เพื่อยกเลิกกรอบเวลาข้าวนาปี และนาปรัง จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน โดยเฉพาะการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสวมสิทธิ และเวียนเทียน

**กขช.ชำแหละจำนำเจ๊ง 13 มิ.ย.นี้

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้นัดประชุมวันที่ 13 มิ.ย. จะมีการพิจารณาตัวเลขการรับจำนำข้าว ตามที่คณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของกระทรวงการคลังที่ได้ทำออกมา
สำหรับกรณีที่ ครม. มอบหมายให้ นายวราเทพ รัตนากร เป็นผู้ชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ไม่ใช่เป็นการหักหน้ากระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นการช่วยบูรณาการข้อมูลจำนำข้าวจากทุกหน่วยงาน

**“วราเทพ”เรียกหน่วยงานแจงตัวเลขจำนำข้าว

นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ครม.มอบหมายรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว กล่าวว่า ตนได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล ประกอบด้วย ตัวแทนจาก อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และตัวแทนจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตร กระทรวงการคลัง ที่ห้องทำงาน ชั้น 1 ตึกบัญชาการ ภายหลังใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง นายวราเทพ ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้ข้อมูลที่ได้เป็นเอกสารจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ที่มี น.ส.น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน แต่เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก ต้องใช้เวลาตรวจสอบ

นายวราเทพ กล่าวด้วยว่า การขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น มีแน่นอน แต่ต้องมาดูสาเหตุว่าการขาดทุนนั้น เกิดจากอะไร และดูว่าการขาดทุนมีเหตุมีผลหรือไม่ มีการคิดในราคาต้นทุน คิดในราคาในปัจจุบัน หรือคิดในราคาค่าเฉลี่ย ซึ่งยังเป็นการคิดที่ไม่ตรงกัน ต้องพูดคุยเหตุผลเดียวกันก่อน โดยจะเป็นตัวเลขที่ตัดในวันที่ 31 ม.ค.56 แต่ยืนยันตัวเลขแก้ไขไม่ได้ อยู่ในการให้เหตุผล และคิดในฐานเดียวกัน ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

** "วิชา"เผยพณ.ยังไม่ส่งตัวเลขให้

นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากทางกระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่ดูแลโครงการนี้ไม่ได้ส่งตัวเลขการรับจำนำข้าวมาให้ทาง ป.ป.ช.ตรวจสอบ จนไม่สามารถที่จะสอบสวนต่อได้

** ผู้ตรวจฯเร่งสรุปจำนำข้าว

วานนี้ ( 11 มิ.ย.) นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้ตรวจการแผ่นดินว่า นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งดูแลรับผิดชอบตรวจสอบเรื่องการรับจำนำข้าว ตามที่ นายวรา จันทรมณี เครือข่ายหยุดผูกขาดตลาดข้าวได้ยื่นคำร้อง และมาติดตามทวงถามความคืบหน้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างที่ต้องพูดคุย เพื่อให้ได้ข้อมูลกับบุคคลอีก 2-3 ราย และเตรียมที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบในอีก 2-3 แห่ง เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง สามารถชี้ไปในทางใดทางหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปเสนอที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินได้ในเร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น