xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ซัดรัฐฯ ชง ธ.ก.ส.เลี่ยงกฎกระทรวงอุ้มจำนำข้าว ติงส่ง “เต้น” แถ-หวั่นชาติวิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
โฆษก ปชป.ยัน “อภิสิทธิ์” นำตัวเลขจาก ธ.ก.ส.แฉจำนำข้าวขาดทุน ตอก รบ.มีข้อมูลในมือทำมึน นายกฯ บื้อ โยน รมต.พณ.รับหน้าแทน แต่เคลียร์ไม่กระจ่าง แถมดิสเครดิตตอบ ย้ำขาดทุนแล้ว 2.6 แสนล้าน พณ.ระบายข้าวไม่ได้ ไร้เงินหมุนทำโครงการต่อ มี ธ.ก.ส.เป็นพยาน จน ครม.มีมติให้ ธ.ก.ส.กู้มาช่วย ส่งซิกทำบัญชีแยก เลี่ยงผิดกฎกระทรวง ไร้หลักประกันคืนเงิน ชี้ ชาติอันตรายใกล้วิกฤต นายกฯ ทำเฉย ปล่อย “ไพร่เทียม” เดินสายกล่อมชาวนา แทนให้ความจริง



วันนี้ (10 มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวว่าตัวเลขที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้ในการแถลงข่าวเป็นตัวเลขจากรายงานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ส่วนรายได้เกษตรกรจากโครงการนี้แค่ 86,000 ล้านบาทก็เป็นตัวเลขจาก ธ.ก.ส. ดังนั้น ทุกอย่างที่นายอภิสิทธิ์แถลงออกไปยืนยันที่มาที่ไปได้ แต่ที่น่าแปลกคือรัฐบาลมีข้อมูลในมือแต่กลับทำหน้าที่เหมือนฝ่ายค้าน ราวกับไม่มีข้อมูลและตัวเลขเหมือนไม่ใช่คนบริหารราชการแผ่นดิน และในขณะนี้กลับตาลปัตรว่าคนเป็นนายกฯ กลายเป็นนายอภิสิทธิ์ ที่รู้ว่าความเสียหายในโครงการนี้เป็นเท่าไหร่ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กลับตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้เลย และคนที่ออกมาตอบโต้คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ที่รับผิดชอบโครงการจำนำข้าวก็ไม่สามารถหักล้างตัวเลขการขาดทุนที่ออกมาได้ โดยชี้แจงไม่ได้ตั้งแต่ผลผลิตในการรับจำนำ ปริมาณสต๊อก การระบายข้าว และการขาดทุน แต่กลับทำทำหน้าที่ดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ แทนที่จะชี้แจงข้อมูลต่อประชาชนและกำหนดแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าว

นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า ความชัดเจนเกี่ยวกับความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว คือ 1. มีการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว 2.6 แสนล้านบาท 2. กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถระบายข้าวจากสต๊อคที่มีไม่ต่ำกว่า 16 ล้านตันออกไปได้ 3 ไม่มีเงินเพียงพอที่จะทำโครงการจำนำข้าวต่อ ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิตที่ 2555/2556 ครั้งที่ 2 เนื่องจากมีการใช้เงินเต็มเพดานที่ ครม.อนุมัติให้ 5 แสนล้านบาท คือ เงินหมุนเวียนโครงการ 410,000 ล้านบาท ที่กระทรวงการคลังจัดหาให้ และเงินที่ให้ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายไปก่อนอีก 9 หมื่นล้านบาท จนทำให้ขาดเงินทุนหมุนเวียนที่จะทำโครงการต่อ โดยมีเอกสารยืนยันว่า ธ.ก.ส.ได้หยุดจ่ายเงินให้เกษตรกรแล้ว เนื่องจากไม่มีเงินหมุนเวียนในโครงการ เพราะกระทรวงพาณิชย์ระบายข้าวไม่ได้

นายชวนนท์กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวจึงทำให้กระทรวงพาณิชย์เสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.คณะที่ 3 ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน เสนอให้ที่ประชุม ครม.วันนี้ มีมติให้ ธ.ก.ส.กู้เงินมาใช้ในโครงการนี้กรณีฉุกเฉิน โดย ธ.ก.ส.ต้องดูแลตัวเองกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเนื่องจากเกินวงเงิน 410,000 ล้านบาท ที่ ครม.เคยมีมติไว้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ ธ.ก.ส.จึงมีข้อเสนอด้วยว่า ให้ธ.ก.ส.แยกการดำเนินงานโครงการออกจากการดำเนินงานปกติเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ และบันทึกเป็นภาระผูกพันนอกงบประมาณ เพื่อทราบผลกระทบการดำเนินโครงการและขอชดเชยความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนั้น ให้ ธ.ก.ส.ไม่ต้องรวมผลการดำเนินโครงการจากเงินทุนที่ได้จากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ เป็นสินทรัพย์เสี่ยง ที่ใช้ในการคำนวณสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามที่กำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยเงินกองทุนของ ธ.ก.ส. ทั้งนี้เป็นเพราะว่าหากไม่มีมติ ครม.ออกมา ธ.ก.ส.จะไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากจะขัดต่อกฎกระทรวงว่าด้วยเงินกองทุนของ ธ.ก.ส.เพื่อให้มีการแยกบัญชีออกไป ซึ่งเท่ากับเป็นการซุกหนี้ไม่ให้มีการคำนวณไว้ในสินทรัพย์เสี่ยง

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะนั้นเงิน 9 หมื่นล้านบาทที่ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายนั้นจะเอามาหมุนไม่ได้แต่ต้องมีการชำระคืนตามกำหนดไม่ใช่นำมาหมุนเวียนใช้ต่อ แต่ต้องตั้งกรอบวงเงินในการใช้จ่ายใหม่ แต่กลับมีการเสนอต่อครม.ให้นำเงิน 9 หมื่นล้านบาท มาหมุนเวียนในโครงการจำนำข้าวข้ามฤดูกาลได้ ทำให้เป็นหนี้ที่ไม่มีทางจ่ายให้ ธ.ก.ส.ได้จริง เพราะจะถูกนำไปใช้หมุนเวียนในโครงการจำนำข้าวอยู่ตลอดเวลา เท่ากับกำลังแปรสภาพ ธ.ก.ส.จากธนาคารเพื่อเกษตรกรเป็นธนาคารเพื่อรัฐบาลในโครงการจำนำข้าว โดยไม่มีหลักประกันว่ารัฐบาลจะระบายข้าวหรือหาเงินมาคืน ธ.ก.ส.ได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ที่กำหนดไว้ในข้อเสนอต่อ ครม.

“สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำจึงเป็นเรื่องที่อันตรายและทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตอย่างแท้จริง โครงการนี้กำลังทำลายประเทศไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะอนาคตข้าวไทยเท่านั้น และเงินก็ถึงมือเกษตรกรเพียงแค่ 86,000 ล้านบาท จากตัวเลขขาดทุน 260,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนต่างที่หายไป 174,000 ล้านบาท รั่วไหลไปกับการทุจริตคอร์รัปชัน จึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลต้องกู้ 2 ล้านล้านบาทมาถลุงใหม่ เนื่องจากงบประมาณปกติไม่เพียงพอที่จะจัดสรรกับโครงการประชาล่มจมของรัฐบาล จึงเห็นว่าประชาชนต้องช่วยกันลุกขึ้นมาเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้โดยเร่งด่วน และขอตำหนินายกรัฐมนตรี ที่นอกจากไม่สามารถชี้แจงได้แล้ว ยังไม่ใส่ใจที่จะแก้ปัญหาแต่มีการอนุมัตงบประมาณให้นายณัฐวุฒิไปล้างสมองเกษตรกรเพื่อกลบเกลื่อนปัญหาแทน”


กำลังโหลดความคิดเห็น