ผู้นำฝ่ายค้านฯ เฉ่งรองประธานสภาฯ ชี้นำให้ใช้ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ฉบับปล่อย “นช.แม้ว” พ้นผิดเป็นหลักแล้วให้ กม.นิรโทษกรรมมาประกบร่วม ฟันธง กม.ปรองดอง ฉบับสุดซอยเป็นคำตอบสุดท้ายของรัฐบาลที่จะเร่งผลักดัน เพราะตอบโจทย์ “ทักษิณ” นักโทษหนีคดีได้ เชื่อหากไม่ได้ตามที่นายใหญ่ต้องการบ้านเมืองวุ่นวายไม่จบ ชี้ ม.4 ขัด รธน.มาตรา 309 ลั่นจบที่ศาล รธน. เผยห่วงบึ้มกลางเมืองหลวงหลังระเบิดย่านรามฯ จี้รัฐบาลวางมาตรการรัดกุม ดูความปลอดภัยชาวบ้าน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผุ้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ เสนอให้นำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่จะช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศโดยไม่มีความผิดเป็นหลัก แล้วนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยมาพิจารณารวมว่า การจะนำร่างกฎหมายใดเป็นหลักในการพิจารณาเป็นเรื่องของที่ประชุมสภา จึงแปลกใจว่าทำไมนายเจริญซึ่งทำหน้าที่รองประธานสภาฯ จึงแสดงความเห็นในทำนองนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าตนทำนายไว้ไม่ผิดว่า ในที่สุดจะบอกว่ากฎหมายของ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ใช่กฎหมายการเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องมีคำอธิบายเพราะบทบัญญัติที่เขียนไว้ในเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับงานของ คตส.นั้นจะก่อให้เกิดสิทธิและผูกพันทรัพย์สินของรัฐ ทั้งนี้ ตนยืนยันมาตลอดว่าสุดท้ายแล้วร่างกฎหมายของ ร.ต.อ.เฉลิม คือกฎหมายที่จะได้รับการผลักดันเนื่องจากตอบโจทย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ชัดเจนว่าตราบใดที่ยังไม่ตอบโจทย์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ความวุ่นวายก็ไม่จบ
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า มาตรา 4 ในร่างกฎหมายปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ดังนั้นเมื่อมีการพิจารณาในสภาก็ต้องดูว่าจะพิจารณาอย่างไร แต่ตามขั้นตอนแล้วก็สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหา แต่กฎหมายที่มีการเสนอมามีปัญหา ไม่เช่นนั้นก็ต้องให้ทุกคนยืนยันว่าหากมีการผ่านกฎหมายนี้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดสิทธิใดๆ ตามมา เพื่อให้ผูกมัดให้ชัดเจน หากมีวิธีการแบบนี้เราจึงจะยอมได้ว่าไม่เป็นกฎหมายการเงิน
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาก่อน ซึ่งในเดือนสิงหาคมที่จะมีการเปิดประชุมสภา ตนก็เป็นห่วงว่าประเทศเสียโอกาสไปเรื่อย เพราะต้องมาเสียเวลากับเรื่องที่เป็นประโยชน์ของคนหยิบมือเดียว ในขณะที่ปัญหาของคนส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแก้ไข โดยในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 พรรคจะอภิปรายให้เห็นถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของประชาชน เพราะตัวเลขเศรษฐกิจของรัฐบาลเองฟ้องว่าการบริหารงานที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ตรงกันข้ามหนี้สินประชาชนเพิ่มขึ้น และสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ก็เพิ่มขึ้น และไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงด้วย
สำหรับกรอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ของพรรคนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะมุ่งที่ความล้มเหลวของหลายโครงการจากการบริหารของรัฐบาล การทุจริต และการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยออกมาวางกรอบว่าห้ามแตะนายกรัฐมนตรี ห้ามพูดเรื่องจำนำข้าวและเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนั้น ตนก็ไม่เข้าใจว่าจะวางกรอบอย่างนี้ได้อย่างไร เพราะหากนายกฯ ไม่ใช่ผู้บริหารงบประมาณนี้ก็คงไม่มีการอภิปรายนายกรัฐมนตรี แต่ถ้านายกฯ เป็นผู้บริหารก็ต้องถูกอภิปรายได้ การจำนำข้าวก็ยังมีการจัดงบประมาณอยู่ เกี่ยวข้องโดยตรง ส่วนเงินกู้ 2 ล้านล้านก็มีความเกี่ยวข้องกับฐานะการคลัง จึงเป็นเรื่องที่อภิปรายได้
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจสรุปเหตุระเบิดหน้าซอยรามคำแหง 43/1 ว่า เป็นเรื่องมาเฟียแผงค้าแต่กลับมีการกำหนดจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังตามสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ ว่า ตำรวจคงมีข้อมูลในการสรุปถึงสาเหตุ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของรูปแบบระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นอยากให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันเพราะเป็นรูปแบบที่อันตราย ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องได้รับบาดเจ็บ เดือดร้อน สุ่มเสี่ยงต่อความสูญเสีย ตนจึงอยากให้ตำรวจอธิบายให้ชัด
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าระเบิดแสวงเครื่องที่ใช้ก่อเหตุมีลักษณะเดียวกับที่ให้ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้จะมีความเชื่อมโยงกับความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องไปสอบสวนให้ชัดเจน แต่ตนย้ำว่ารูปแบบของระเบิดน่าเป็นห่วงเพราะมีการใช้ในพื้นที่กลางเมืองทำให้เกิดความเสี่ยงต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินของผู้คนในเมือง จึงอยากให้ตำรวจอธิบายว่าข้อสรุปที่ได้มาจากอะไร ความขัดแย้งคืออะไร ใครคือคู่ขัดแย้ง ก็จะทำให้ประชาชนมั่นใจในข้อสรุปของตำรวจมากขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นผลดีต่อประเทศ และประชาชนก็ต้องตื่นตัวเป็นหูเป็นตาให้แก่ทางการ รวมถึงรัฐบาลก็ต้องวางมาตรการให้รัดกุมด้วย