ปธ.ส.ส.กทม.ปชป.ย้ำหนุนพัฒนาประเทศ แต่กู้ 2 ล้านล้าน ดอกเบี้ย 3 ล้านล้านไม่คุ้ม แถมไร้ประกันว่าไม่โกง เชื่อหาประโยชน์กับเงินก้อนนี้ ท้าชง กมธ.เช็กความโปร่งใส ย้อน “โอ๋” ปัดขวางความเจริญ แต่พฤติกรรม รบ.มันฟ้อง โฆษก ปชป.ตอกนายกฯ หลุดโชว์ธาตุแท้ใช้งบกู้เอื้อประโยชน์การเมือง ไม่นำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักชาติอย่างที่คุย ชี้หลักฐานสำคัญ เตือน ปชช.รับความวิบัติจากน้ำมือ รบ.
วันนี้ (31 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่ผ่านวาระแรกในสภาไปแล้วนั้น พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือการวางรากฐานประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถประเทศ แต่เราไม่เห็นด้วยต่อการบริหารจัดการโครงการและจัดวิธีการงบประมาณด้วยการกู้เงินนอกงบประมาณ เพราะการกู้เงินดังกล่าวนำไปสู่ดอกเบี้ยถึง 3 ล้านล้านบาท เป็นภาระรัฐบาล 12 รัฐบาลในเวลา 50 ปี คำชี้แจงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ยังชี้แจงประเด็นสำคัญได้ไม่ชัดเจน คือ 1. จะจัดการกับภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้นไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้อย่างไร 2. ไม่มีหลักประกันว่าจะเกิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 1% ต่อปี ตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง เพราะต้นทุนของเอกชนจะสูงขึ้นจากการที่รัฐบาลไปกู้เงินแข่งกับเอกชน 3. ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนงานโครงการที่เสนอต่อสภาไปแล้วและ 4. แม้ว่าจะมีการชี้แจงว่าจะไม่ใช้วิธีพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้างแต่ก็ไม่มีหลักประกันในเรื่องนี้
นายองอาจกล่าวว่า พรรคมีความวิตกกังวลมากที่สุดในเรื่องการทุจริตจากโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เนื่องจากไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าจะดำเนินการด้วยความโปร่งใส แต่กลับมีความเป็นไปได้ว่ากำลังใช้ข้ออ้างเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อทุจริต และจะเกิดปรากฏการณ์วัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่งจากการแสวงหาประโยชน์เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีต้องแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการจะโปร่งใสอย่างแท้จริง ซึ่งจะต้องเริ่มด้วยการส่งสัญญาณไปยังกรรมาธิการฯที่พิจารณาเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ว่าต้องกำหนดหลักเกณฑ์ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทให้เกิดความโปร่งใส
ส่วนกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวหาว่า ฝ่ายค้านขวางการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเป็นการถ่วงความเจริญของบ้านเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ถ่วงความเจริญของบ้านเมือง แต่ถ่วงการทุจริตที่จะเกิดขึ้นจากโครงการนี้ เพราะในรัฐบาลนี้มีหลายนโยบาย หลายโครงการส่อไปในทางไม่โปร่งใส ไม่น่าไว้วางใจ เช่น โครงการรับจำนำข้าว งบแก้น้ำท่วม เมื่อเคยมีนโนบายและโครงการที่ใช้งบประมาณอย่างไม่โปร่งใส จึงไม่ใช่เรื่องเกินความจริงที่ประชาชนจะวิตกกังวลกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทในครั้งนี้
ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี โดยให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์จังหวัด ซึ่งในตอนหนึ่งนายกรัฐมนตรีพูดถึงการพัฒนาระบบคมนาคมของจังหวัดปราจีนบุรี และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงไปแก้ไขระบบคมนาคมเพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และย้ำให้พิจารณาใช้เงินจากร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ตนเห็นว่าเป็นการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอดว่าเงินกู้ก้อนดังกล่าวมิได้เป็นเงินเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งหลักของประเทศ หรือการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ แต่จะกลายเป็นโครงการเบี้ยหัวแตกที่สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างถนนทั่วไปตามวัตถุประสงค์ทางการเมือง ไม่ใช่เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักของชาติตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า และยังเป็นการยอมรับโดยนายกรัฐมนตรีว่าโครงการที่อยู่ในเอกสารประกอบนั้นไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลต้องปฏิบัติตามแต่อย่างใด โดยผู้มีอำนาจสามารถปรับเปลี่ยนเลือกใช้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการในแต่ละจังหวัดตามอำเภอใจ และยังเป็นคำพูดที่มัดว่าเงินกู้เหล่านี้เป็นภารกิจตามปกติซึ่งควรจะอยู่ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่รัฐบาลมีวัตถุประสงค์หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ การใช้เงิน การผูกมัดโครงการ จึงโยกไปไว้ในเงินกู้นอกงบประมาณแทนเปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้โดยง่าย และยังเปิดช่องให้มีการใช้วิธีพิเศษหลีกเลี่ยงการใช้ระเบียบพัสดุตามปกติ เนื่องจากในกฎหมายกู้เงินให้เป็นอำนาจของ ครม.พิจารณา
“นี่เป็นใบเสร็จจากปากนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด เพราะคล้อยหลังจากที่สภารับหลักการวาระแรกเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเพียงวันเดียว นายกฯ ก็ออกลายแสดงธาตุแท้ถึงเบื้องหลังการถลุงเงินกู้ โดยไม่คำนึงถึงภาระที่ประชาชนต้องแบกรับจากหนี้ที่สูงถึง 5.16 ล้านล้านบาท แต่มุ่งที่จะใช้เงินเพื่อสนองตัณหาทางการเมืองเพียงอย่างเดียว ผมเชื่อว่าคนไทยจะเป็นหนี้ไม่ต่ำกว่า 60-70 ปี แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยหลอกประชาชนทั้งประเทศในการประชุมสภาที่ผ่านมา และข้อสังเกตของฝ่ายค้านเป็นจริงทุกประการ จึงขอเตือนประชาชนให้เตรียมใจเข้าสู่ภาวะวิบัติจากน้ำมือของรัฐบาลชุดนี้” นายชวนนท์กล่าว