xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เชื่อ"ปู"ไม่โกงเงินกู้5ล้านล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ยิ่งลักษณ์" วอนทุกฝ่ายร่วมพิจารณา พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน ย้ำจะใช้จ่ายอย่างโปร่งใส ขณะที่วิปฝ่ายค้านย้ำจะติดตามอย่างใกล้ชิด หวั่นโกง ส่วนที่นายกฯบอกว่าโปร่งใสนั้น "อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ" "สุริยะใส" เตรียมยื่นผู้ตรวจฯ- ป.ป.ช. สอบ ครม.ปู และ 284 ส.ส.โหวตผ่านร่าง กม. ที่ขัดรธน. พร้อมทำ จม.เปิดผนึกถึงภาคีเครือข่ายต้านคอร์รัปชัน ทำสมุดปกดำตีแผ่แผนกินรวบประเทศไทย "สวนดุสิตโพล" ชี้ประชาชนสนใจเรื่องกู้ 2 ล้านล้านมากที่สุด ห่วงคอร์รัปชัน

วานนี้ (31 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.สัญจร ที่จ.ฉะเชิงเทรา ถึงร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่ผ่านวาระ 1 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว แต่ฝ่ายค้านก็ยังโจมตีว่า คงไม่มีปัญหา ในการแปรญัตติ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้ข้อมูล และชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายค้าน และคณะกรรมาธิการจะใช้เวลาในส่วนนี้ เพื่อพิจารณาอย่างเต็มที่ และทางรัฐบาลเองก็อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน รวมถึงได้ตอบข้อซักถาม และพิจารณารายละเอียดต่างๆ ร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ตนได้เน้นย้ำในเรื่องการใช้งบประมาณว่า จะต้องทำทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส ทั้งในเรื่องขั้นตอนการจัดซื้อ จัดจ้าง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบ และตรวจสอบได้ ทั้งนี้ก็มีมติ ครม. อยู่แล้วว่า จะต้องมีการเปิดราคากลางในทีโออาร์ ด้วย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ที่ผ่านวาระ 1 ไปนั้น มีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า อยากให้นายกรณ์ ติดตามการทำงานในอดีตที่เคยเป็นรมว.คลัง ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มีโอกาส แต่ไม่ยอมทำ ซึ่งการที่รัฐบาลจะสร้างรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ ก็ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ เพราะเป็นกระจายความเจริญไปทุกพื้นที่
ดังนั้นขอว่า ฝ่ายค้านอย่าค้านไปเสียทุกเรื่อง ค้านแบบศรีธนญชัย ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะการสร้างวาทกรรมรถไฟขนผัก ตามที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพูด กะหล่ำปลีหัวละ 8 บาท หากก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ต่อไปกะหล่ำปลี ไม่หัวละ 800 บาทหรืออย่างไร ก็ไม่รู้ว่านำเรื่องอย่างนี้มาค้านได้อย่างไร เป็นการค้านแบบไม่มีเหตุผล ซึ่งการตรวจสอบ ควรจะมีเหตุผลมากกว่านี้

**ฝ่ายค้านไม่เชื่อ"ปู"ไม่โกง

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมวิป ว่า จะติดตามตรวจสอบ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 อย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นว่าการกู้เงินครั้งนี้ไม่ตอบโจทย์ประเทศ แต่กู้เพื่อตอบโจทย์ทางการเมือง และการที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะดำเนินการอย่างโปร่งใส นั้นอมพระมาพูด เราก็ไม่เชื่อ เพราะมีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งบอกว่า เมื่อกู้มาแล้วอาจนำไปสู่การโกงในอนาคต ซึ่งดูได้จากพฤติกรรมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ในอดีตมาเทียบเคียงได้ เช่น กรณีเงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อมาใช้ในโครงการรับจำข้าว รัฐบาลยังไม่กล้าเปิดเผยสัญญาให้ประชาชนรับทราบ หรือการกู้เงิน 1.2 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำท้วม ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เนื่องจากมีการเรียกหัวคิว 35 – 40 เปอร์เซ็นต์
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท คราวนี้รัฐบาลไม่กล้าประกาศให้ชัดเจนในกฎหมาย ว่าจะใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในการจัดซื้อจัดจ้าง หรือระเบียบพัสดุว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ อีออคชั่น เพียงแต่ระบุว่า จะให้อำนาจครม. เป็นผู้ออกระเบียบ ซึ่งแน่นอนว่า จะเกิดความน่าสงสัยในการจัดซื้อจัดจ้าง และนำไปสู่ความไม่โปร่งใส
นอกจากนี้เงินจำนวนดังกล่าว เป็นการกู้เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการ โครงการต่างๆทั้งก้อนเต็มจำนวน และหลีกเลี่ยงการให้สัมปทาน และการร่วมทุน แสดงเจตนาชัดเจนว่า ไม่ต้องการแบ่งเค้ก รวมถึงโครงการต่างๆ รัฐบาลไม่บรรจุในพ.ร.บ. แต่ทำเป็นเอกสารแนบ ซึ่งหมายความว่า สภาจะไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขอะไรได้เลย แต่ครม.จะแก้ไขได้ตลอด
ทั้งนี้การกู้เงินจำนวนมหาศาลที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศ สุดท้ายการใช้หนี้จะไปเบียดบังงบประมาณในการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ เช่น การศึกษา และสาธารณสุข ที่เอาไว้ดูแลประชาชน อย่างน้อยปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท เพื่อเอาไปชำระหนี้

** จับผิดใช้เงินกู้สร้างถนนใน จ.ปราจีนฯ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายให้กับผวจ.ปราจีนบุรี โดยให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์จังหวัด ซึ่งในตอนหนึ่งนายกฯ พูดถึงการพัฒนาระบบคมนาคมของจ.ปราจีนบุรี และมอบหมายให้รมว.คมนาคม ลงไปแก้ไขระบบคมนาคม เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และย้ำให้พิจารณาใช้เงินจากร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ตนเห็นว่าเป็นการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอดว่า เงินกู้ก้อนดังกล่าว มิได้เป็นเงินเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งหลักของประเทศ หรือการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ แต่จะกลายเป็นโครงการเบี้ยหัวแตก ที่สามารถนำมาใช้ในการก่อสร้างถนนทั่วไป ตามวัตถุประสงค์ทางการเมือง ไม่ใช่เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักของชาติ ตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง และยังเป็นการยอมรับโดยนายกรัฐมนตรี ว่า โครงการที่อยู่ในเอกสารประกอบนั้น ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้าน ที่รัฐบาลต้องปฏิบัติตามแต่อย่างใด โดยผู้มีอำนาจสามารถปรับเปลี่ยนเลือกใช้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการในแต่ละจังหวัดตามอำเภอใจ และยังเป็นคำพูดที่มัดว่า เงินกู้เหล่านี้เป็นภารกิจตามปกติ ซึ่งควรจะอยู่ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่รัฐบาลมีวัตถุประสงค์หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ การใช้เงิน การผูกมัดโครงการ จึงโยกไปไว้ในเงินกู้นอกงบประมาณแทน เปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้โดยง่าย และยังเปิดช่องให้มีการใช้วิธีพิเศษ หลีกเลี่ยงการใช้ระเบียบพัสดุตามปกติ เนื่องจากในกฎหมายกู้เงินให้เป็นอำนาจของครม.พิจารณา
" นี่เป็นใบเสร็จจากปากนายกรัฐมนตรี ที่ดีที่สุด เพราะคล้อยหลังจากที่สภารับหลักการวาระแรกเงินกู้ 2 ล้านล้าน เพียงวันเดียว นายกฯ ก็ออกลาย แสดงธาตุแท้ถึงเบื้องหลังการถลุงเงินกู้ โดยไม่คำนึงถึงภาระที่ประชาชนต้องแบกรับจากหนี้ที่สูงถึง 5.16 ล้านล้านบาท แต่มุ่งที่จะใช้เงินเพื่อสนองตัณหาทางการเมืองเพียงอย่างเดียว ผมเชื่อว่า คนไทยจะเป็นหนี้ไม่ต่ำกว่า 60-70 ปี แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหลอกประชาชนทั้งประเทศ ในการประชุมสภาที่ผ่านมา และข้อสังเกตของฝ่ายค้านเป็นจริงทุกประการ จึงขอเตือนประชาชนให้เตรียมใจเข้าสู่ภาวะวิบัติ จากน้ำมือของรัฐบาลชุดนี้" นายชวนนท์ กล่าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวหาว่า ฝ่ายค้านขวางการกู้เงิน 2 ล้านล้าน เป็นการถ่วงความเจริญของบ้านเมือง ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ถ่วงความเจริญของบ้านเมือง แต่ถ่วงการทุจริตที่จะเกิดขึ้นจากโครงการนี้ เพราะในรัฐบาลนี้มีหลายนโยบาย หลายโครงการส่อไปในทางไม่โปร่งใส ไม่น่าไว้วางใจ เช่น โครงการรับจำนำข้าว งบแก้น้ำท่วม เมื่อเคยมีนโนบาย และโครงการที่ใช้งบประมาณอย่างไม่โปร่งใส จึงไม่ใช่เรื่องเกินความจริงที่ประชาชนจะวิตกกังวลกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านในครั้งนี้

**ทำสมุดปกดำ เปิดโปงวาระซ่อนเร้น

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics)กล่าวว่า แม้สภาจะรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้านบาทไปแล้ว แต่ยังมีหลายประเด็นที่รัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความกระจ่างได้ เช่น ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน หนี้สาธารณะ ความเสี่ยงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ความคุ้มทุน ความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ทำให้สังคมเกิดข้อห่วงใย และเป็นห่วงมากขึ้นว่า การระดมเงินก้อนมหึมาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ด้วยวิธีที่ไม่ปกติแบบนี้ จะสร้างปัญหาตามมาในระยะยาว แม้คนทั่วไปจะเห็นด้วยกับการลงทุนและการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศก็ตาม
การรวบรัดด้วยเสียงข้างมากของฝ่ายรัฐบาลครั้งนี้ ไม่ง่ายเหมือนการตรากฎหมายทั่วไป เพราะร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน เป็นเป็นร่างกฎหมายที่จงใจละเมิดรัฐธรรมนูญ งดใช้รัฐธรรมนูญ หลายมาตรา โดยเฉพาะในหมวด 8 วินัยการเงินการคลัง ถือเป็นการรัฐประหารทางการเงินของประเทศ
ดังนั้นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ กลุ่มกรีนจะร่วมกับหลายองค์กร ยื่นเรื่องให้ผู้ตรววจการแผ่นดิน พิจารณานำเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และอาจจะยื่นร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อ คณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อไต่สวนเอาผิดกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ ส.ส.ทั้ง 284 คน ที่ยกมือสนับสนุน ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ขัดรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ กลุ่มกรีนเตรียมทำสมุดปกดำ เปิดโปงวาระซ่อนเร้น เงินกู้ 2 ล้านล้าน กับแผนกินรวบประเทศไทย เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนรู้เท่าทันในวงกว้างต่อไป และเตรียมทำจดหมายเปิดผนึก ถึงภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย ที่เกิดจากการรวมตัวของหอการค้า สภาหอการค้าฯ และบริษัทเอกชน เพื่อขอทราบจุดยืนที่ชัดเจน ต่อประเด็นการทุจริตคอร์รัปชัน ที่สังคมเป็นห่วงว่าจะมีมาตรการตรวจสอบและป้องกันอย่างไร เพราะลำพังการจัดทำสัญญาคุณธรรมเพื่อให้กลุ่มทุนธุรกิจ บริษัทที่เข้าร่วมประมูลงาน ลงนามกับตัวแทนกระทรวงคมนาคม เพื่อยืนยันว่า จะไม่มีการทุจริตในโครงการต่างๆ นั้น แม้เป็นเรื่องที่ดูดี แต่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เหมือนเอาผู้สมัคร ส.ส. มาดื่มน้ำสาบานว่าจะไม่โกงการเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีความหมายอะไร ซ้ำร้ายจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับการทุจริตคอร์รัปชันด้วยซ้ำ

** โพลชี้ ปชช.สนใจข่าวกู้ 2 ล้านล้าน

"สวนดุสิตโพล"สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ เรื่องความสนใจ "ข่าวการเมือง" ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง ณ วันนี้ มีหลายประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นข่าว กกต.รับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯกทม. สมช. เจรจา กลุ่มบีอาร์เอ็น กรณีไฟใต้ และ พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ขณะนี้
พบว่า " 5 ข่าวการเมือง" ที่ประชาชนให้ความสนใจสนใจ อันดับ 1 ร้อยละ 45.68 เรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท โดยให้เหตุผล ระบุว่า ร้อยละ 41.20 ต้องใช้เงินจำนวนมากในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ร้อยละ 37.45 กลัวว่า จะเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน และร้อยละ 21.35 เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกคน
ส่วนอันดับ 2 ร้อยละ 18.51 เรื่อง ไทยเจรจากลุ่มบีอาร์เอ็น กรณี แก้ปัญหาไฟใต้ ให้ "เหตุผล"ว่า ร้อยละ 38.06 อยากรู้ความคืบหน้า /ผลการเจรจา ร้อยละ 35.12 ไฟใต้เป็นเรื่องที่เรื้อรังมานาน ยังแก้ไขไม่ได้ และ ร้อยละ 26.82 อยากให้พี่น้องที่อยู่ชายแดนใต้สงบสุข
อันดับ 3 ร้อยละ 15.02 เรื่องแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ระบุ"เหตุผล" ว่า ร้อยละ 35.29 อยากรู้ข้อดี-ข้อเสีย / ผลที่ได้รับจากการแก้รธน. ร้อยละ 33.80 เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้สังคมเกิดความขัดแย้ง และ ร้อยละ 30.91 อยากรู้ว่า จะมีการแก้รธน.หรือไม่ และดำเนินการอย่างไร
อันดับ 4 ร้อยละ 13.51 เรื่อง"ผู้ว่าฯกทม." คนใหม่ โดยให้"เหตุผล" ว่า ร้อยละ 42.67 บอก เป็นตำแหน่งสำคัญในการพัฒนากทม. ร้อยละ 29.94 ต้องการทราบผลการพิจารณาของ กกต. และ ร้อยละ 27.39 อยากให้สานงานต่อ และทำตามที่พูดไว้
อันดับ 5 ร้อยละ 7.28 เรื่องการทุจริต คอร์รัปชันในโครงการต่างๆ ของรัฐ เช่น ทุจริตโรงพัก สอบครูผู้ช่วย ฯลฯ ส่วน “เหตุผล” ที่ประชาชนระบุ ร้อยละ 41.77 อยากรู้ความคืบหน้าของการสอบสวนคดีต่างๆ ร้อยละ 31.65 อยากให้จับตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว และ ร้อยละ 26.58 ไม่อยากให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชันในสังคมไทย.
กำลังโหลดความคิดเห็น