การออกมาชุมนุมประท้วง คือ ความกระตือรือร้นของพลเมืองที่ไม่ยอมนิ่งเฉยต่อรัฐบาลที่ฉ้อฉลปล้นชาติปล้นแผ่นดินเป็นการเสียสละที่น่าชื่นชม
แต่ต้องยอมรับความจริงว่า เราแทบมองไม่เห็นชัยชนะจากการชุมนุมเลยแม้จะอยู่ไป 100 วันหรือ 200 วัน ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าร่วมด้วยช่วยกันก็ยากที่จะโค่นล้มระบอบทักษิณลงได้
ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่แกนนำพันธมิตรฯ ตกผนึกจากการชุมนุม 193 วัน 158 วัน การบาดเจ็บและเสียชีวิตของพี่น้องในการชุมนุมและเหตุการณ์ 7 ตุลา และบทเรียนจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่มีคนตายและบาดเจ็บจำนวนมาก
แต่เราจะยอมให้ระบอบทักษิณทำร้ายทำลายบ้านเมืองต่อไปหรือ
ถ้าการชุมนุมไม่ใช่ทางออกแล้วเราจะสู้กับระบอบทักษิณอย่างไร จะทำอย่างไรให้คนส่วนใหญ่เห็นความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ เพื่อไม่ให้เขาอาศัยความชอบธรรมจากชัยชนะที่มาจากการเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เลือกตั้งกี่ครั้งเขาก็ชนะอีก จะดึงคนส่วนใหญ่ที่ยังหลงบูชาทักษิณมาเป็นฝ่ายเราได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องขบคิดร่วมกัน
ผมไม่ได้พูดเรื่องนี้เพื่อบั่นทอนกลุ่มที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สนามหลวง คนเราอาจมีความคิดที่แตกต่างกันและพวกเขาอาจมีเหตุผลที่มองว่า การเลือกเส้นทางสายนี้จะเป็นจุดที่โค่นล้มระบอบทักษิณลงได้ ก็ว่ากันไปครับต่างคนต่างทำต่างจิตต่างใจ เป็นเพียงความต่างในแนวทาง แต่รับรู้ว่าเป้าหมายเราร่วมกันที่มองว่าระบอบทักษิณเป็นศัตรูของชาติบ้านเมือง
ผมไม่ได้ตั้งใจทำลายบรรยากาศแห่งความคาดหวังกระแสตื่นตัวของหน้ากากขาวในชุมชนออนไลน์ แม้เราจะต้องให้กำลังใจต่อกลุ่มคนที่ประกาศตัวออกมาต่อต้านระบอบทักษิณ แต่ผมมองไม่ออกเลยว่า มันจะมีพลังมากพอที่จะสั่นสะเทือนระบอบทักษิณในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร
หลายคนมุ่งที่จะปลุกให้คนไทยกลุ่มหนึ่งที่เราเรียกว่า “ไทยเฉย” ตื่นขึ้นมามีจิตสำนึกเพื่อบ้านเพื่อเมือง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรละครับว่า คนไทยกลุ่มนี้เป็นคนที่เกลียดชังระบอบทักษิณไปเสียทั้งหมด ผมจึงคิดว่า เราควรจะเลิกใส่ใจกับคนกลุ่มนี้ได้แล้ว แต่ทำอย่างไรให้คนไทยกลุ่มหนึ่งที่เห็นทักษิณเป็นเทพเจ้าได้ตื่นมาพบกับความจริงและมองเห็นความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ
ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 2554 มีผู้มาใช้สิทธิประมาณร้อยะ 75 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิทั้งสิ้น 75.03% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน พรรคที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย 15,744,190 คะแนน และรองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ 11,433,501 คะแนน
เราต้องยอมรับความจริงนะครับจากคณิตศาสตร์ในการเลือกตั้ง จากจำนวน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย สะท้อนว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ยืนข้างทักษิณ ถ้าเราลดจำนวนตัวเองนี้ลงมาไม่ได้ เลือกตั้งอีกครั้งพรรคของทักษิณก็กลับมาชนะเลือกตั้ง นี่ต่างหากที่เป็นความจริงที่เราหนีไม่พ้น
คน 15 ล้านคนที่เลือกพรรคของระบอบทักษิณต่างหากที่เราต้องทำให้เขามองเห็นความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายความว่า ทำให้คนเหล่านั้นหันมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งของทักษิณ เพราะว่าไปแล้วทั้งสองพรรคก็ไม่มีความหวังพอๆ กันในทางการเมือง
ผมว่าเรื่องนี้แหละครับที่เป็นเรื่องที่น่าหนักใจของฝ่ายตรงข้ามทักษิณในขณะที่เรามองว่า ระบอบทักษิณเป็นอันตรายของแผ่นดิน แต่เมื่อเราเหลียวหลังไปมองด้านตรงข้ามกลับไร้ทางเลือกเพราะเราเห็นอีกกลุ่มการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่ได้แตกต่างกับระบอบทักษิณเลย
ในท่ามกลางความสิ้นหวังและความมืดมนในขณะที่เรายังหาหนทางที่จะสู้กับระบอบทักษิณยังไม่เจอ ผมกลับแอบหวังลึกๆ ว่าชัยชนะที่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาดของระบอบทักษิณนี่แหละครับที่กำลังจะทำลายตัวของมันเอง
เพราะระบอบทักษิณได้ใช้อำนาจอย่างย่ามใจหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการที่ทำลายโครงสร้างและระบบคุณธรรม การใช้เสียงข้างมากผ่านการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการจัดการน้ำ หรือการสร้างรถไฟความเร็วสูง การออกนโยบายที่มีเป้าหมายเพื่อสนองตอบกลุ่มทุนทางการเมืองและเอื้อต่อคะแนนนิยมมากกว่าการคำนึงถึงผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว
แต่จะทำอย่างไรให้คนกลุ่มหนึ่งที่หลงใหลได้ปลื้มกับระบอบทักษิณได้ตื่นรู้เท่าทันว่าสิ่งที่ระบอบทักษิณมอบให้ประชาชนในฐานะนโยบายประชานิยมนั้น เทียบไม่ได้กับผลประโยชน์ที่ระบอบทักษิณแสวงหาจากอำนาจ ทำให้เห็นว่า นโยบายประชานิยมมันกัดกร่อนประเทศในระยะยาว ทำให้เห็นว่าอุดมการณ์ประชาธิปไตยของทักษิณนั้นเป็นเพียงใช้การเลือกตั้งเป็นช่องทางในการเข้ามาแสวงหาประโยชน์เท่านั้นเอง
ทำอย่างไรให้คนยากจนที่ทักษิณใช้ศพญาติพี่น้องของพวกเขาเป็นบันไดเหยียบขึ้นมาสู่อำนาจ และวันนี้ทักษิณกำลังออกกฎหมายที่ลบล้างความผิดให้กับคนที่พวกเขาเคยชี้หน้าว่าเป็นฆาตกร เพียงเพื่อต่อรองให้ทักษิณพ้นจากความผิดไปด้วย ให้คนเหล่านั้นได้รู้ว่า การปลุกปั่นให้พวกเขาลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นนั้น เป็นเพียงวาทกรรมที่หลอกให้มวลชนมาเป็นเป้ากระสุนเพื่อทวงคืนอำนาจรัฐและล้างผิดให้กับตัวเองเท่านั้นเอง
ความจริงแล้วโดยตัวของระบอบทักษิณเองที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยแบบจอมปลอม มันได้ทำลายความเชื่อมั่นของคนเสื้อแดงไปส่วนหนึ่งอยู่แล้ว และทุกวันนี้คนเสื้อแดงบางกลุ่มได้ประกาศสร้างเป้าหมายของตัวเองที่ไม่ขึ้นตรงต่อแกนนำและพรรคเพื่อไทยกลายเป็นกลุ่มเสื้อแดงอิสระเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น นอกจากระบอบทักษิณกำลังทำลายตัวเองจากอำนาจที่กลายเป็นเผด็จการเสียงข้างมากแล้ว ในกติกาที่ใช้การเลือกตั้งเป็นทางผ่านเข้ามากุมอำนาจรัฐ ผมมองไม่เห็นนวัตกรรมใดที่จะนำมาใช้ต่อสู้กับระบอบทักษิณได้ นอกจากการให้ความรู้ทางการเมืองแก่ประชาชน การทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ตื่นรู้และรู้เท่าทันระบอบทักษิณ
ทำให้ประชาชนได้ตระหนักถึงสิทธิของตนในระบอบประชาธิปไตย รอให้ประชาชนไม่เข้าใจแค่ว่าประชาธิปไตยคือ การเข้าคูหาเลือกตั้ง หรือยอมมอบสิทธินั้นให้ขึ้นกับการบงการของหัวคะแนนและระบบอุปถัมภ์ในท้องถิ่น เราลองคิดดูสิครับว่า ถ้าประชาชนเข้าใจระบอบประชาธิปไตยและตระหนักถึงสิทธิของตนจะมีใครเลือกคนที่ไม่มีสมองและไร้ความสามารถมาเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง
คนที่ไร้สติปัญญาระดับปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีทางเลยครับที่จะได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศที่ประชาชนเข้าใจความหมายของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
ประชาชนที่เข้าใจระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงย่อมรู้ว่า การเลือกนายกฯ ที่ไร้สติปัญญามาบริหารประเทศนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการทำลายประเทศชาติแต่ยังเป็นการทำร้ายตัวเองด้วย
แต่ต้องยอมรับความจริงว่า เราแทบมองไม่เห็นชัยชนะจากการชุมนุมเลยแม้จะอยู่ไป 100 วันหรือ 200 วัน ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าร่วมด้วยช่วยกันก็ยากที่จะโค่นล้มระบอบทักษิณลงได้
ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่แกนนำพันธมิตรฯ ตกผนึกจากการชุมนุม 193 วัน 158 วัน การบาดเจ็บและเสียชีวิตของพี่น้องในการชุมนุมและเหตุการณ์ 7 ตุลา และบทเรียนจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่มีคนตายและบาดเจ็บจำนวนมาก
แต่เราจะยอมให้ระบอบทักษิณทำร้ายทำลายบ้านเมืองต่อไปหรือ
ถ้าการชุมนุมไม่ใช่ทางออกแล้วเราจะสู้กับระบอบทักษิณอย่างไร จะทำอย่างไรให้คนส่วนใหญ่เห็นความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ เพื่อไม่ให้เขาอาศัยความชอบธรรมจากชัยชนะที่มาจากการเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เลือกตั้งกี่ครั้งเขาก็ชนะอีก จะดึงคนส่วนใหญ่ที่ยังหลงบูชาทักษิณมาเป็นฝ่ายเราได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องขบคิดร่วมกัน
ผมไม่ได้พูดเรื่องนี้เพื่อบั่นทอนกลุ่มที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สนามหลวง คนเราอาจมีความคิดที่แตกต่างกันและพวกเขาอาจมีเหตุผลที่มองว่า การเลือกเส้นทางสายนี้จะเป็นจุดที่โค่นล้มระบอบทักษิณลงได้ ก็ว่ากันไปครับต่างคนต่างทำต่างจิตต่างใจ เป็นเพียงความต่างในแนวทาง แต่รับรู้ว่าเป้าหมายเราร่วมกันที่มองว่าระบอบทักษิณเป็นศัตรูของชาติบ้านเมือง
ผมไม่ได้ตั้งใจทำลายบรรยากาศแห่งความคาดหวังกระแสตื่นตัวของหน้ากากขาวในชุมชนออนไลน์ แม้เราจะต้องให้กำลังใจต่อกลุ่มคนที่ประกาศตัวออกมาต่อต้านระบอบทักษิณ แต่ผมมองไม่ออกเลยว่า มันจะมีพลังมากพอที่จะสั่นสะเทือนระบอบทักษิณในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร
หลายคนมุ่งที่จะปลุกให้คนไทยกลุ่มหนึ่งที่เราเรียกว่า “ไทยเฉย” ตื่นขึ้นมามีจิตสำนึกเพื่อบ้านเพื่อเมือง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรละครับว่า คนไทยกลุ่มนี้เป็นคนที่เกลียดชังระบอบทักษิณไปเสียทั้งหมด ผมจึงคิดว่า เราควรจะเลิกใส่ใจกับคนกลุ่มนี้ได้แล้ว แต่ทำอย่างไรให้คนไทยกลุ่มหนึ่งที่เห็นทักษิณเป็นเทพเจ้าได้ตื่นมาพบกับความจริงและมองเห็นความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ
ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 2554 มีผู้มาใช้สิทธิประมาณร้อยะ 75 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิทั้งสิ้น 75.03% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน พรรคที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย 15,744,190 คะแนน และรองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์ 11,433,501 คะแนน
เราต้องยอมรับความจริงนะครับจากคณิตศาสตร์ในการเลือกตั้ง จากจำนวน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย สะท้อนว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ยืนข้างทักษิณ ถ้าเราลดจำนวนตัวเองนี้ลงมาไม่ได้ เลือกตั้งอีกครั้งพรรคของทักษิณก็กลับมาชนะเลือกตั้ง นี่ต่างหากที่เป็นความจริงที่เราหนีไม่พ้น
คน 15 ล้านคนที่เลือกพรรคของระบอบทักษิณต่างหากที่เราต้องทำให้เขามองเห็นความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายความว่า ทำให้คนเหล่านั้นหันมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งของทักษิณ เพราะว่าไปแล้วทั้งสองพรรคก็ไม่มีความหวังพอๆ กันในทางการเมือง
ผมว่าเรื่องนี้แหละครับที่เป็นเรื่องที่น่าหนักใจของฝ่ายตรงข้ามทักษิณในขณะที่เรามองว่า ระบอบทักษิณเป็นอันตรายของแผ่นดิน แต่เมื่อเราเหลียวหลังไปมองด้านตรงข้ามกลับไร้ทางเลือกเพราะเราเห็นอีกกลุ่มการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่ได้แตกต่างกับระบอบทักษิณเลย
ในท่ามกลางความสิ้นหวังและความมืดมนในขณะที่เรายังหาหนทางที่จะสู้กับระบอบทักษิณยังไม่เจอ ผมกลับแอบหวังลึกๆ ว่าชัยชนะที่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาดของระบอบทักษิณนี่แหละครับที่กำลังจะทำลายตัวของมันเอง
เพราะระบอบทักษิณได้ใช้อำนาจอย่างย่ามใจหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการที่ทำลายโครงสร้างและระบบคุณธรรม การใช้เสียงข้างมากผ่านการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการจัดการน้ำ หรือการสร้างรถไฟความเร็วสูง การออกนโยบายที่มีเป้าหมายเพื่อสนองตอบกลุ่มทุนทางการเมืองและเอื้อต่อคะแนนนิยมมากกว่าการคำนึงถึงผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว
แต่จะทำอย่างไรให้คนกลุ่มหนึ่งที่หลงใหลได้ปลื้มกับระบอบทักษิณได้ตื่นรู้เท่าทันว่าสิ่งที่ระบอบทักษิณมอบให้ประชาชนในฐานะนโยบายประชานิยมนั้น เทียบไม่ได้กับผลประโยชน์ที่ระบอบทักษิณแสวงหาจากอำนาจ ทำให้เห็นว่า นโยบายประชานิยมมันกัดกร่อนประเทศในระยะยาว ทำให้เห็นว่าอุดมการณ์ประชาธิปไตยของทักษิณนั้นเป็นเพียงใช้การเลือกตั้งเป็นช่องทางในการเข้ามาแสวงหาประโยชน์เท่านั้นเอง
ทำอย่างไรให้คนยากจนที่ทักษิณใช้ศพญาติพี่น้องของพวกเขาเป็นบันไดเหยียบขึ้นมาสู่อำนาจ และวันนี้ทักษิณกำลังออกกฎหมายที่ลบล้างความผิดให้กับคนที่พวกเขาเคยชี้หน้าว่าเป็นฆาตกร เพียงเพื่อต่อรองให้ทักษิณพ้นจากความผิดไปด้วย ให้คนเหล่านั้นได้รู้ว่า การปลุกปั่นให้พวกเขาลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นนั้น เป็นเพียงวาทกรรมที่หลอกให้มวลชนมาเป็นเป้ากระสุนเพื่อทวงคืนอำนาจรัฐและล้างผิดให้กับตัวเองเท่านั้นเอง
ความจริงแล้วโดยตัวของระบอบทักษิณเองที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยแบบจอมปลอม มันได้ทำลายความเชื่อมั่นของคนเสื้อแดงไปส่วนหนึ่งอยู่แล้ว และทุกวันนี้คนเสื้อแดงบางกลุ่มได้ประกาศสร้างเป้าหมายของตัวเองที่ไม่ขึ้นตรงต่อแกนนำและพรรคเพื่อไทยกลายเป็นกลุ่มเสื้อแดงอิสระเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น นอกจากระบอบทักษิณกำลังทำลายตัวเองจากอำนาจที่กลายเป็นเผด็จการเสียงข้างมากแล้ว ในกติกาที่ใช้การเลือกตั้งเป็นทางผ่านเข้ามากุมอำนาจรัฐ ผมมองไม่เห็นนวัตกรรมใดที่จะนำมาใช้ต่อสู้กับระบอบทักษิณได้ นอกจากการให้ความรู้ทางการเมืองแก่ประชาชน การทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ตื่นรู้และรู้เท่าทันระบอบทักษิณ
ทำให้ประชาชนได้ตระหนักถึงสิทธิของตนในระบอบประชาธิปไตย รอให้ประชาชนไม่เข้าใจแค่ว่าประชาธิปไตยคือ การเข้าคูหาเลือกตั้ง หรือยอมมอบสิทธินั้นให้ขึ้นกับการบงการของหัวคะแนนและระบบอุปถัมภ์ในท้องถิ่น เราลองคิดดูสิครับว่า ถ้าประชาชนเข้าใจระบอบประชาธิปไตยและตระหนักถึงสิทธิของตนจะมีใครเลือกคนที่ไม่มีสมองและไร้ความสามารถมาเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง
คนที่ไร้สติปัญญาระดับปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีทางเลยครับที่จะได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศที่ประชาชนเข้าใจความหมายของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
ประชาชนที่เข้าใจระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงย่อมรู้ว่า การเลือกนายกฯ ที่ไร้สติปัญญามาบริหารประเทศนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการทำลายประเทศชาติแต่ยังเป็นการทำร้ายตัวเองด้วย
