ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- นับเป็นการระเบิดเปรี้ยง !! ของปฏิกิริยาต่อต้านจากภาคประชาชนที่ส่งสารผ่านทางโซเชียนออนไลน์ ซึ่งรวดเร็ว รุนแรง และทรงพลังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน สำหรับการออกจดหมายเปิดผนึกรณรงค์ล่ารายชื่อคัดค้านการปาฐกถาของ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีที่อูลันบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ซึ่งดำเนินการโดย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้าตำรวจราชสำนักประจำ และอดีตอธิบดีกรมตำรวจ และ นายแก้วสรร อติโพธิ สมาชิกวุฒิสภา ผ่านทางเว็บไซต์ change.org ภายใต้สโลแกนว่า “Thai Spring: Organized” ซึ่งมีการแชร์สนั่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก กระทั่งล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วถึง 25.000 คน
ทำให้หลายคนอยากรู้ว่า Thai Spring มีที่มาที่ไปอย่างไร อะไรคือเป้าหมายในการขับเคลื่อน และเพราะเหตุใดจึงมีกระแสกตอบรับจากผู้คนในโลกออนไลน์มากมายขนาดนี้ ?
“ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์” จึงได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ “นายแก้วสรร อติโพธิ”นักวิชาการฝีปากกล้า ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ที่ยินดีตอบทุกคำถามอย่างชัดเจน และตรงไปตรงมา
อยากทราบว่าไทยปริงมีที่มาที่ไปอย่างไร
คือต้องอธิบายก่อนว่าไทยปริงเราไม่ได้มีการจัดตั้งกลุ่ม มีองค์กร มีแกนนำ มีสมาชิกอะไร ไม่มีทั้งสิ้น เรามาเริ่มเคลื่อนไหวก็ตอนคุณยิ่งลักษณ์ปาถกฐาที่อูลันบาตอร์เนี่ยแหล่ะเพราะมันเป็นจุดที่แสดงชัดเจนว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำเพื่อครอบครัวชินวัตร ส่วนภาพที่เขาแสดงออกว่าบริสุทธิ์ แล้วก็อยู่ห่างการเมือง ทำเพื่อบ้านเมืองเป็นภาพที่เขาหลอกมานาน สปีชที่อูลันบาตอร์มันเผยตัวตนเขาออกมาหมดว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นแค่คนที่ระบอบชินวัตรส่งมา แล้วก็ทำทุกอย่างเพื่อชินวัตร ตรงนี้ก็เป็นจุดที่เราชี้ให้เห็นว่าเขาไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้อำนาจปกครองประเทศ เขาทำให้เราไม่อาจไว้วางใจต่อไปได้ แล้วทำยังไงจะให้ประชนมีโอกาสแสดงความคิดเห็นกันได้ ที่ผ่านมาก็มีแต่ต้องออกไปบนท้องถนน ผมก็เลยปรึกษากับอาจารย์วสิษฐว่าการล่ารายชื่อทางโซเชียลมีเดียน่าจะทำให้คนมีส่วนร่วมในฐานะประชาชนได้ เราก็เลยเปิดช่องทางนี้ขึ้นมา
ถึงขณะนี้ไทยปริงมีผู้ร่วมลงชื่อ จำนวนเท่าไหร่
ตอนนี้น่าจะมีประมาณ 25,000 รายชื่อแล้ว ซึ่งรายชื่อล็อตแรก 12,000 รายชื่อเราได้ส่งไปยังประชาคมประชาธิปไตยแล้ว พร้อมกันนั้นเรายังแจ้งให้เขาช่วยส่งต่อไปยังประเทศสมาชิกทั้ง 106 ประเทศ นอกจากนั้นเรายังส่งรายชื่อดังกล่าวผ่านทางอีเมลไปยังสถานทูตของประเทศต่างๆที่ประจำอยู่ในประเทศไทย จากนั้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าเราจะรวบรวมรายชื่อที่ส่งเข้ามาใหม่ จากนั้นก็จะหยุดรับรายชื่อ
หลังจากส่งรายชื่อดังกล่าวไปแล้ว อาจารย์คาดหวังปฏิกิริยาตอบกลับอย่างไรบ้าง
ผมเชื่อว่าจะทำให้ประเทศต่างๆได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ภาพของระบอบชินวัตรในสายตาต่างชาติชัดเจนขึ้น เพราะเราปล่อยให้เขาพูดข้างเดียวมานานแล้ว ถ้าเราเอาความเห็นอีกด้านมาวางให้เขาดู มันก็คงเกิดสมดุลขึ้นมาบ้าง ท้ายที่สุดก็หวังว่าฝ่ายเสื้อแดงที่พอจะมีความคิดความอ่านก็จะได้ช่วยยั้งเครือข่ายชินวัตรเอาไว้บ้าง อย่าไปรุกไปคืบให้บ้านเมืองมันปั่นป่วน ขณะเดียวกันในส่วนของคนที่ร่วมลงชื่อและผู้ที่ทราบข่าวก็จะเกิดความตื่นตัวต่อการมีส่วนร่วมในการดูแลและปกป้องประเทศชาติ
แล้วในส่วนของไทยปริงจะมีการดำเนินกิจกรรมอะไรอีกบ้าง
ถ้าเกิดมีการใช้อำนาจของส่วนรวมไปทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพื่อครอบครัวและพวกพ้อง ตรงนี้ถ้าเราเห็นว่าควรจะรวมตัวกันคัดค้าน ก็คงต้องปรึกษากับท่านวสิษฐว่าประเด็นนี้จะเคลื่อนไหม จะทำยังไง ซึ่งเราเห็นว่ากิจกรรมที่ทำไปแล้วเกิดการมีส่วนร่วมในวงกว้าง คนที่ร่วมลงชื่อก็ไม่ต้องเดือดร้อนอะไรมากมาย ตรงนี้ก็เป็นช่องทางที่น่าจะใช้การได้ อย่างน้อยก็คงเป็นการรวบรวมรายชื่อนี่แหล่ะ ส่วนกิจกรรมอื่นจะเป็นอะไรยังไง จัดประชุมเสวนาบ้างอะไรบ้าง อันนี้ก็ต้องพิจารณากันไปเป็นเรื่องๆ ถ้ามีการกระทำที่บิดเบือนอำนาจเพื่อครอบครัวชินวัตร เพื่อระบอบชินวัตร เราก็ต้องคัดค้านกัน ส่วนจะใช้เวทีไหนก็ต้องแล้วแต่เรื่องแล้วแต่เวลา
ครั้งนี้ถือว่ากระแสตอบรับของภาคประชาชนเยอะมาก
ความอัดอั้นตันใจมันมีเยอะมาก แล้วจดหมายเปิดผนึกที่เราทำออกมามันเหมือนเข็มที่ไปแทงลูกโป่งซึ่งมันมีลมอัดแน่นอยู่ข้างใน มันเลยแตกโป๊ะออกมา ความอัดอั้นของคนในสังคมมันมีสูงมาก พอมีช่องทางที่สามารถแสดงออกโดยอิสระ เขาก็เลยระเบิดออก ยิ่งพอคุณทักษิณออกมาพูดถึงเรื่องนี้ผ่านการสไกป์มันก็ยิ่งช่วยเราโฆษณา ปรากฏว่ายอดรายชื่อที่ส่งเข้ามาพุ่งปรี๊ดเลย ก็ต้องขอบคุณคุณทักษิณ ช่วยพูดอีกหน่อยก็จะดี พูดทุกวันได้ยิ่งดี แต่คนที่พูดต้องเป็นระดับคุณทักษิณ หรือไม่ก็มือระดับนพดล (นพดล ปัทมะ) นะ ประเภทลูกกะจ๊อกนี่ไม่เอานะ พวกนี้มันไม่เรียกแขก ก็อยากให้ช่วยเรียกแขกให้ผมหน่อย
คือผมว่าคุณทักษิณเขาวางแผนมากไป นิสัยเขาทำอะไรก็วางแผน 1,2,3,4 เยอะไปหมด จะรุมตีศาล จะแก้กฎหมาย เพราะฉะนั้นต้องมีแผนเคลื่อนไหวในต่างประเทศด้วย ประกาศว่าเป็นครอบครัวประชาธิปไตยที่กำลังต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต่างชาติขอจงอย่ายอมรับ แผนที่เขาวางไว้คือจะโดดเดี่ยวพวกกระแสต้านในประเทศ เขาไม่ได้อยู่ดีๆ แล้วไปพูดปาถกฐาอะไรหรอก เป็นแผนของเขา ไม่ใช่อุทธาหรณ์อะไรหรอก วางแผนมากไปในที่สุดได้ไม่คุ้มเสีย ไม่ได้อะไรเลยมั้ง
ต้องบอกว่าปฏิกิริยาสะท้อนกลับของประชาชาที่มีต่อการปาถกฐาของนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่อูลันบาตอร์ นั้นแรงมาก เหมือนเป็นมุมเมอแรงที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวนายกฯเอง
คือเขาไปเปิดโปงตัวเองน่ะ แล้วเลือกเอาขุนมาเดินด้วย ไม่ใช่เอาม้า เอาโคนมาเดิน พอขุนเดินไปกลางกระดาน เจอรุกกลับเข้าไป วิ่งหนีกระจาย ไปไม่เป็นเลย
ล่าสุดคนเสื้อแดงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับท่านวสิษฐ โดยกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 116 คือกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังประทุษร้าย
อ๋อ..อันนั้นเขากล่าวหาในกรณีที่ท่านได้ให้กำลังใจกับ “คุณชัย ราชวัตร” การ์ตูนนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คือเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาท่านวสิษฐ ได้เขียนข้อความในเฟซบุ๊กของคุณ 'ชัย ราชวัตร' เพื่อให้กำลังใจ ท่านมองว่าปาถกฐาของคุณยิ่งลักษณ์น่ะมันไม่ถูก ดังนั้นใครมีอาวุธอะไรก็ต้องเอามาใช้ ซึ่งท่านหมายความว่าถ้าใครมีช่องทางคัดค้านต่อสู้ได้อย่างไรก็ต้องช่วยกันแสดงออกมา แต่เสื้อแดงเขาไปตีความว่าท่านวสิษฐยุให้คนจับอาวุธจริงๆ พวกปืนผาหน้าไม้ ก็เลยไปแจ้งความ ก็เรื่องของเขา บ้าดีเหมือนกัน ซึ่งผมดูแล้วก็เป็นเรื่องปั้นแต่งกันขึ้นมา ก็ไม่เป็นไร ให้มันเห่าไป ซึ่งการแจ้งความก็เป็นคนละประเด็นกับการรวบรวมรายชื่อของไทยสปริง คนที่มาลงนามลงชื่อด้วยก็ไม่ต้องวิตก
ตอนนี้เหมือนรัฐบาลและเครือข่ายระบอบทักษิณพยายามจะใช้การฟ้องร้องดำเนินคดี มาเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดกั้นการแสดงความเห็นของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการคอร์รัปชั่นหรือการกระทำโดยมิชอบของรัฐบาล
เขาก็ทำอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ก็โดนกันทั้งนั้น ธรรมดา อย่าไปกลัวมัน คือระบอบของเขามันมีรากเหง้าอยู่หลายอย่าง ทั้งการใช้กำลัง บิดเบือนกฎหมาย ไม่รู้จักใช้กฎหมายให้มันถูกมันต้อง อย่างพวกเสธ.อ้ายโดนเข้าไป ผู้ชุมนุมเรื่องน้ำโดนเข้าไป เป็นพฤติการณ์ประจำ ของเขาอยู่แล้ว
แล้วคนที่ถูกแจ้งความหรือถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมจะฟ้องกลับได้ไหม
ก็ต้องสู้เขาอยู่แล้ว ก็ไปฟ้องร้องกันในศาล
ระบอบทักษิณกำลังรุกคืบขึ้นเรื่อยๆ และควบรวมอำนาจได้มากขึ้น
คือเขา จะล้างผิดใตัวเขาเองให้ได้
แม้แต่องค์กรที่ดูแลกระบวนการยุติธรรมอย่างศาลก็ถูกข่มขู่คุกคาม
เขาเป็นคนที่ถือว่ามีเสียงข้างมากแล้วก็ทำอะไรได้หมด ใช้ทุกเครื่องมือ บ้านเมืองนี้ก็ทนกันได้มาตลอดไม่ใช่เหรอ ก็ทนต่อไปสิ
แล้วในสถานการณ์แบบนี้ประชาชนจะมีทางออกในการแสดงความคิดเห็นอย่างไร
ก็ต้องใช้ช่องทางอื่นๆ ถ้ารวมตัวกับบนถนนก็ต้องระวังมันตี ถ้าไม่จำเป็นก็ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กแบบนี้ก็ได้ผลเหมือนกัน ก็เป็นการรวมตัวกันอย่างหนึ่งเหมือนกัน ประชาชนเขาก็ไม่โง่หรอก เขาคงไม่โผล่ไปให้มันตีง่ายๆ หรอก
กระแสของคนที่ไม่พอใจการกระทำที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาลก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมว่ามันมีความอัดอั้นเยอะขึ้น ผลงานของรัฐบาลก็ไม่น่าประทับใจ ไม่สามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองอะไรได้ แล้วยังใช้อำนาจทำเพื่อครอบครัวของตัวเองอีก มันก็อึดอัดกันไปทั่ว แล้วก็ยังมีปากแบบคุณปลอด (ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) ปากอย่างคุณเฉลิม (ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง)ออกมาอีก มันก็ยิ่งยั่วโทสะคนเขา คนก็คงหงุดหงิดกันมากขึ้น
คิดว่าสถานการณ์แบบนี้จะนำไปสู่อะไร
ผมก็ไม่รู้ แต่ว่าอย่าให้มันถึงขั้นอับจนแล้วก็บันดาลโทสะออกมา ถ้าไม่ถึงขั้นนั้นคนเขาก็คงอยู่บ้านน่ะแหล่ะ โผล่มาชุมนุมบ้างนิดหน่อย แต่ถ้ามันถึงขั้นที่รู้สึกว่ายอมไม่ได้แล้ว ถึงจุดนั้นเมื่อไหร่ ถ้ามีผู้นำ มีแนวทาง เขาก็โผล่มาชุมนุมอีก มันก็คงสุกงอมไปเรื่อยๆ
ถ้าเขาเดินหน้าไปเรื่อยๆ แล้วปล่อยพวกปากดีมากวนชาวบ้านอยู่เรื่อยๆมันก็คงคุกรุ่นขึ้น ก็ไม่รู้มันจะระเบิดเมื่อไหร่ ที่ผ่านมาเขาก็พยายามเล่นเกมโลกล้อมประเทศ
แต่ที่ผ่านมาต่างชาติเขาก็รับรู้ข่าวเรื่องการคอร์รัปชั่นของคุณทักษิณ และคุณทักษิณก็ถูกจัดอันดับให้เป็นผู้นำเลวอันดับ 5 ของโลก
ต่างชาติเขาก็รู้ แต่เขาก็ต้องเข้าข้างผู้มีอำนาจ ถ้าคุณทักษิณเขาโชว์พาวฯ ว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จได้ต่างชาติเขาก็เข้าข้างทักษิณ แต่ถ้าคนไทยบอกว่าไม่ใช่ คนที่ไม่เอาทักษิณยังมีอยู่อีกมาก แล้วก็เคลื่อนไหวคัดค้านในรูปแบบต่างๆ มันก็ทำให้ต่างชาติเขาลังเลที่จะสนับสนุนทักษิณ แต่ถามว่าเขาโง่กว่าเราหรอ เขาไม่โง่หรอก เขาอาจรู้ถึงความเลวของคนๆ นี้มากกว่าเราอีก
แปลว่าถ้าคนไทยไม่ยอมจำนนก็จะส่งผลให้อำนาจของคุณทักษิณในสายตาต่างชาตินั้นลดลง ยุทธวิธีโลกล้อมประเทศก็จะไม่บรรลุผล
ถูกต้องครับ มันจะมีผลทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ถ้าเราจำกัดตัวเองว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านจะต้องออกมาชุมนุมทุกครั้งมันก็ไม่ได้ เพราะการชุมนุมแต่ละครั้งมันต้องดูจังหวะจะโคน ดูหลายๆ ปัจจัย ถ้ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ควรจะออกมาชุมนุมเราก็ต้องดูว่ามีช่องทางอื่นอะไรอีกบ้าง ก็มาช่วยกันทำสิ ไทยปริงเองก็พยายามหาช่องทางอื่นๆ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่การชุมนุม เพราะตรงนั้นมันเปลืองมวลชนมาก ซึ่งโซเชียลมีเดียก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ทรงประสิทธิภาพมาก
ก็อาจมีประชาชนบางส่วนที่ยังเพิกเฉย มองว่าอย่าไปยุ่งเรื่องการเมืองเลย ทำมาหากินดีกว่า อาจารย์อยากจะบอกอะไรกับคนเหล่านี้บ้าง
อยากบอกว่าการแสดงความเห็นทางโซเชียลมีเดียมันได้ผล เข้ามาเหอะ ไม่เจ็บตัวอะไรหรอก ถ้ามีการรวบรวมรายชื่อกันในประเด็นใดประเด็นหนึ่งแล้วคุณเห็นด้วยก็เข้ามาเถอะ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นสีนั้นสีนี้ ไม่ต้องเหนื่อยบนท้องถนน ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอยู่เยอะ ถ้ามีช่องทางที่เขาแสดงออกได้ก็เข้ามา คือตอนนี้มันไม่มีช่องทางที่จะแสดงความคิดความเห็น ออกมาชุมนุมก็เจอแก๊สน้ำตา มันก็ลำบาก แต่การร่วมลงชื่อนี่ผู้ที่มีอำนาจจะมาจับกุม ใส่ร้าย ใส่ความ อะไรก็ไม่ได้ จะกล่าวหาว่าเป็นการซ่องสุมอะไรก็ไม่ได้ แล้วการเคลื่อนไหวผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นถือว่าได้ผลระดับหนึ่ง และหากมีกระแสแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชน ซึ่งก็คงต้องขอความร่วมมือจากคุณปลอด ประสพ , สารวัตรเฉลิม , คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คนพวกนี้ช่วยออกมาพูดมากๆหน่อย นายกฯยิ่งลักษณ์ก็อย่าเงียบ คุณทักษิณก็ออกมาสไกป์บ่อยๆ คนไทยจะได้คิดได้