4 ไอ้โม่งป่วนหนังสือพมิพ์ไทยรัฐ ควบรถ จยย. 2 คัน มาจอดหน้าป้อมยามก่อนขว้างลูกเปตองเบิกทางตามด้วยประทัดยักษ์เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตร.เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ไม่ฟันธงโยงม็อบไล่“ชัย ราชวัตร”หรือไม่
วันนี้ (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 03.30 น. ร.ต.อ.อุกฤษฏ์ กลับเฒ่า พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายปาประทัดยักษ์ใส่ป้อม รปภ.ประตู 3 หรือประตูทางออกของบริษัท วัชรพล จำกัด (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) เลขที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ติดกับถนนวิภาวดีรังสิต ได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.วาสุเทพ คงกล่อม รอง ผกก.สส.สน.บางซื่อ ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุบริเวณถนนหน้าป้อม รปภ.พบเศษสะเก็ดลูกระเบิดไข่สีเขียวขนาดเล็กตกอยู่ 1 ชิ้น และข้างสังกะสีที่กำลังก่อสร้างสวนหย่อมพบลูกเปตองสีเงินตกอยู่ 1 ลูก ส่วนที่ป้อม รปภ.พบกระจกจำนวน 2 บาน แตกกระจายเป็นเม็ดข้าวโพดและเป็นรูขนาดใหญ่ ที่พื้นหลังเคาเตอร์แลกบัตรยังพบประทัดยักษ์ลักษณะเป็นแท่งกลมยาวประมาณ 10 เซนติเมตรมีเทปพันสายไฟสีดำพันรอบตัวประทัดตกอยู่ 1 อัน พร้อมกับมีรอยไหม้อยู่ที่พื้น ถัดเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องเก็บของที่พื้นยังพบลูกเปตองสีเงินตกอยู่อีก 1 ลูก เจ้าหน้าที่จึงเก็บของทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อต่อมา นายนิวัฒน์ จันทร์สินธ์ อายุ 50 ปี หัวหน้ารปภ. อยู่บ้านเลขที่ 79/392 หมู่ 4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ถูกเศษกระจกบาดที่ฝ่ามือซ้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบสวน นายนิวัฒน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.20 น.ตนพร้อมด้วย นายชัยวิวัฒน์ เจริญเส็ง อายุ 39 ปี ลูกน้อง อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่5 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เข้าเวรอยู่ที่ป้อมดังกล่าว ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 4 คน ขี่รถจยย.คล้ายยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน จำนวน 2 คัน ซ้อนกันมาจากทางแยกสุทธิสารแล้วมาจอดอยู่ริมถนนช่วงประตูทางออก โดยคนร้ายสวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำ เสื้อคลุมสีดำ และกางเกงยีนส์ทุกคน จากนั้นคนซ้อนท้ายทั้งสองคันลักษณะสูงใหญ่ก็วิ่งลงจากรถพุ่งตรงมาที่ป้อมรปภ.ทันที พร้อมกับตะโกนว่า เฮ้ยๆๆ แล้วใช้ลูกเปตองขว้างใส่กระจกจนแตกกระจาย ก่อนจะหยิบประทัดยักษ์ขึ้นมาจุดแล้วโยนใส่เข้าไปในป้อมเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนได้รับความเสียหายดังกล่าว โดยใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 5 นาที แล้วคนร้ายก็วิ่งหนีไปขึ้นรถจยย.ที่จอดรออยู่ ตนจะวิ่งตามไปคนร้ายตะโกนว่า ตามมาเดี๋ยวกูยิงแม่งเลย จึงไม่กล้าไล่ตามไปเพราะไม่รู้ว่าคนร้ายมีปืนจริงหรือไม่ จากนั้นทั้งหมดก็พากันหลบหนีไปทางห้าแยกลาดพร้าว
“เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 10 พ.ค. ก็มีเหตุการณ์คล้ายกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยมีวัยรุ่นขี่รถ จยย. 1 คันมากัน 2 คน พอมาถึงประตูทางออกก็ได้โยนประทัดใส่คลองหน้าประตูจำนวน 2 ลูกเสียงดังสนั่น พวกตนคิดว่าเป็นพวกวัยรุ่นคึกคะนองเลยไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งคืนนี้ก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนและลูกน้องยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครมาก่อน ผู้ก่อนเหตุจึงไม่ใช่พวกคู่อริของพวกตนอย่างแน่นอน” หัวหน้า รปภ.ไทยรัฐ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายมีทั้งหมด 4 คน ขี่รถจยย.มา 2 คัน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ และเสื้อคลุมทุกคน มาจอดรถริมถนนแล้วคนซ้อนท้ายวิ่งมาปาลูกเปตองใส่ก่อน 2 ลูก ก่อนจะปาประทัดยักษ์ตามเข้าไปทำให้กระจกแตกได้รับความเสียหาย ซึ่งถือว่าอุกอาจมากและต้องมีการเตรียมการหรือวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่วนจะเป็นกลุ่มไหน เชื่อมโยงใครบ้าง หรือจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของมือที่สามที่ไม่หวังดี หรือเป็นพวกก่อกวนขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นพวกไหนกันแน่ ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประทัดดังกล่าวสามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่ พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า ประสิทธิภาพของระเบิดไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิต แต่หากถูกตัวก็ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ แต่จากที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นการหวังเอาชีวิต เพราะไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร ส่วนจะเป็นการคุกคามสื่อมวลชนหรือไม่ต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง
ต่อคำถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่คนเสื้อแดงเคยก่อม็อบขับไล่“ชัย ราชวัตร” การ์ตูนนิสต์ชื่อดังของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า อันนี้แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ทุกอย่างต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน โดยช่วงเช้าจะให้ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ ตั้งแต่แยกสุทธิสารไปตลอดเส้นทาง เพื่อดูว่าคนร้ายหลบหนีไปทางไหน และใช้ยานพาหนะใดก่อเหตุ เนื่องจากที่ป้อม รปภ.ของที่นี่ไม่มีกล้องวงจรปิด จะเร่งตรวจสอบและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด