ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-วลี “โปรดเข้าใจ กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ” กลายเป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ไปในชั่วข้ามคืนในทันที ทั้งๆ ที่ข้อความดังกล่าว ชัย ราชวัตร เพียงแค่เปรียบเปรยให้เห็นว่า ผู้หญิงที่หาเลี้ยงชีพด้วยการขายบริการทางเพศไม่ใช่เป็นคนชั่ว แต่ผู้หญิงที่เป็นคนชั่วคือคนที่เร่ขายชาติ โดยไม่ได้กล่าวเฉพาะเจาจงว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
ขณะเดียวกันก็ถ้าจะยกยอดความดีความชอบความโด่งดังของเรื่องนี้ เห็นจะก็ต้องยกเครดิตให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยที่แห่แหนยกโขยงกับไปปิดล้อมหน้าสำนักพิมพ์ไทยรัฐ สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เด้งรับด้วยการเตรียมออกหมายเรียกชัย ราชวัตร มาสอบปากคำในคดีดังกล่าว ภายใน 2 สัปดาห์นี้ รวมถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) หลัง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ ออกตัวป้องน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยการประกาศลั่นหากผู้ใดโพสต์วิพากษ์วิจารณ์นายกฯ ถือว่า “ผิด” และต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย
“การหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่ถูกคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ พี่สาว น้องสาว อา หรือใครก็แล้วแต่ ย่อมได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามและเป็นภัย ต้องเอาผิดกับผู้กระทำ เพราะเป็นสิ่งไม่ถูกกฎหมาย ไม่ใช่เฉพาะกรณีของนายกฯ เท่านั้น แต่เรื่องของท่านนายกฯ เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว
แม้รัฐมนตรีไอซีทีจะออกตัวว่า ไม่ใช่เป็นเพราะนายกฯ แต่เท่าที่ได้ตรวจสอบการทำงานในเก้าอี้ตัวนี้ก็ยังไม่เห็นว่า จะมีผลงานหรือนโยบายใดที่กระทำชนิดทุ่มทั้งตัวและหัวใจเช่นนี้มาก่อน
ทว่า แม้จะออกตัวเชลียร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนขาแข้งเปียกก็แล้วกัน แต่ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นการทำคุณบูชาโทษเสียมากกว่าเพราะถูกกระแสโต้กลับอย่างหนักหน่วงขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ
กล่าวคือหลังกระทรวงไอซีที เปิดสายด่วน 1212 รับแจ้งเว็บไซต์ที่ขัดต่อความมั่นคง วัฒนธรรม ศีลธรรม ตลอด 24 ชั่วโมง ได้มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นโจมตีไอซีทีเป็นจำนวนมาก เช่น ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Kraikron Settakraikun” ด่าว่า “เผด็จการ” นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "GreenLa MaliMoon” ได้แสดงความเห็นโดยตั้งข้อสังเกตว่า “ทีเรื่องแค่นี้...ทำไมทำงานเร็วกันจัง ทีเว็บที่หมิ่นราชวงศ์...ยังลอยนวลอยู่เต็มโลกไซเบอร์ไปหมด...มิเห็นจะเต้นเท่านี้เลย...ท่านข้าราชการ..ทำงานให้คุ้มกับเงินภาษีที่ได้รับทุกเดือนด้วยเถิด...อย่าเลือกปฏิบัติ...เห็นแล้วเสียดายภาษีที่ต้องเสียให้รัฐทุกๆปี”
ฯลฯ
เรียกว่าเป็นจริงแทบจะทุกประการตามที่ประชาชนได้แสดงความเห็นไว้ในเว็บไซต์ โดยเฉพาะที่ขัดหูขัดตาประชาชนทั่วไปก็คือการไล่ปิดเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูง ซึ่งไม่ต้องถามว่า กระทรวงไอซีที ภายใต้การนำของ น.อ.อนุดิษฐ์ เคยทำหน้าที่ดังกล่าวให้ดีเป็นที่ชื่นใจประชาชนคนไทยทั่วไปหรือไม่ เพราะคำตอบมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน อีกคนที่เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่แพ้ใครก็เห็นจะเป็น เครือญาติตระกูลชินวัตร อย่างนายพานทองแท้ ชินวัตร เพราะลงทุนออกตัวแรง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กไล่ให้ นายชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนการเมืองอาวุโส เอากระโปรงแอร์คาเธ่ย์ฯ มาคลุมหัวกรณีชัย ราชวัตร ใช้คำเปรียบเทียบที่ไม่เหมาะสม รวมถึงได้ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมเรียกสรรพนามแทนตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถมยังโวด้วยว่ายอดแฟนเพจให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
แต่ไม่ทันขาดคำ ก็มีอดีตพนักงานต้อนรับ ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Honey Lochanachai ว่า “อย่ามาแตะกระโปรงของฉัน” พร้อมยกย่อง และให้กำลังใจ “ชัย ราชวัตร” ว่า มีจุดยืนเพื่อบ้านเมือง โดยข้อความที่อดีตแอร์คาเธ่ย์โพสต์ มีดังนี้
“ จากการกล่าวพาดพิงถึงกรณีแอร์คาเธ่ย์ฯกับกรณีคุณชัย ราชวัตร นั้น ฉันจะขอเรียนให้ทุกท่านเข้าใจว่า การตัดสินใจลาออกจากสายการบินคาเธ่ย์ฯ นั้น เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อองค์กรที่ฉันทำงานมานาน 24 ปีและเพื่อลดแรงกดดันที่มาจากการใช้อำนาจเถื่อนทางการเมือง คุกคามการทำธุรกิจของสายการบิน เพียงเพื่อจะบีบบังคับคนที่แสดงความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างให้หมดทาง
“กรณีของคุณชัย ราชวัตร นั้นฉันยกย่องและให้กำลังใจคุณชัย ราชวัตร ที่แสดงจุดยืนของตัวเองต่อชาติบ้านเมืองอย่างกล้าหาญ ซึ่งมักจะเป็นที่หวาดกลัวของพวกคนชั่วที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ เป็นธรรมดา
“การออกมาเรียกร้องให้คุณชัย ราชวัตร แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ฉันเห็นว่า พวกคุณควรจะไปเรียกร้องให้นักโทษชาย ที่ถูกตัดสินคดีมีโทษจำคุก และหนีคดีไปสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับประเทศชาติชาติอยู่ทุกวันนี้ ให้กลับมาแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองบ้างจะดีกว่านะคะ
“ อย่าเอากระโปรงแอร์คาเธ่ย์ฯ ไปแอบอ้างด้วยความเคยชินเลย กระโปรงของฉันไม่ได้มีไว้คลุมหัวใครทั้งนั้น แม้แต่ทรราชขายชาติเลวทราม ก็ไม่มีสิทธิมาแตะต้องกระโปรงอันมีเกียรติของพวกเรา ประเทศนี้ มีนักการเมืองเลวกำลังอาศัยเกาะชายกระโปรงของผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง หากิน โกงชาติ กอบโกย เอาผลประโยชน์ของชาติไปอย่างหน้าด้านๆ ทำให้ผู้หญิงโง่คนหนึ่ง กลายเป็น หญิงชั่ว ถูกสังคมตราหน้าว่าขายชาติ นี่ต่างหากที่เป็นการดูถูกเพศแม่
“ฉันแน่ใจว่าอีกไม่นาน คนชั่วก็จะแพ้ภัยตัวเอง เพราะกรรมชั่วที่ทำนั้นจะกลับมาสนองผู้ที่ทำอย่างแน่นอน คนดีที่รักชาติบ้านเมือง ที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็อย่าได้ท้อถอย เพราะความดีที่แท้จริงนั้นย่อมส่งผลเป็นความดีแก่ผู้กระทำเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเวรกรรม ก็ยังตามไล่ล่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อยู่ในช่วงเคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่หมดไม่สิ้นอย่างที่ อดีตพนักงานต้อนรับ ของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค ยกตัวอย่างเอาไว้ไม่มีผิดด้วยเช่นกัน เพราะปรากฏว่าต่อมาเกิดปฏิบัติการท้าทายไอซีทีของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Unlimited Hack Team ในการแฮก เว็บไซด์สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
มาถึงตรงนี้แล้ว ก็ต้องกล่าวได้ว่าปฏิกิริยาของการไปปาฐกถาที่ประเทศมองโกเลีย ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นปรากฏการณ์ที่ร้อนแรงมาก ซึ่งถ้าจะวิเคราะห์เหตุผลก็คือ เป็นเพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ฉีกบทบาทตัวเองมาเล่นเกมแรงเปิดหน้าชกตามที่นช.ทักษิณ สั่งมา แต่แทนที่เรื่องจะจบ กระแสโซเชียลมีเดียที่มาแล้วไปอายุไม่เกิน 3-7 วันบัดนี้ วาทะหญิงชั่วขายชาติ กลับดังกระหึ่มหนัก บวกกับการบ้าจี้ออกมาเชลียร์นายของรัฐมนตรีไอซีที และยิ่งรวมไปถึงแฮกเกอร์ที่โพสต์ข้อความล้อเลียนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ต่อยอดให้เรื่องนี้ถูกพูดถึงจนกระแสก็ยังไม่หมดไปด้วยซ้ำ
ศ.ดร.เขียน ธีระวิทย์ ได้เขียนบทความ “กรณี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฟ้อง ชัย ราชวัตร” โดยได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฟ้องร้อง “ชัย ราชวัตร” ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เอาไว้ว่า...
“ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดความจริงเพียงด้านเดียว พูดเพียงแต่ว่ามีการรัฐประหารรัฐบาลพี่ชายตน แต่ไม่บอกเหตุผลว่า ทำไมรัฐบาลพี่ชายตนถึงถูกรัฐประหาร รวมไปถึงกรณียุบพรรคไทยรักไทย ที่โดนเพราะการโกงการเลือกตั้งด้วย
“ส่วนที่กล่าวพาดพิงถึงเพศหญิง กระหรี่ขายตัวนั้น น่าจะเป็นเรื่องของกลอนพาให้สอดคล้องกับคำว่า “ขายชาติ” มากกว่าจะหมายถึงการดูถูกเพศหญิง ในระบอบประชาธิปไตย คนมีอาชีพและความถนัดหลากหลาย และมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นออกมาในรูปแบบแตกต่างกัน งานของชัย ราชวัตร ชิ้นนี้ ใช้คำพูดคล้องจองกะทัดรัดและสื่อความหมายได้ดี แม้จะเผ็ดร้อนไปบ้างก็ตาม คนที่เป็นเป้าหรือถูกพาดพิงถ้าไม่ขาดความเป็นผู้ใหญ่ ควรมีใจกว้างรับฟังด้วยเหตุผล”
นั่นคือส่วนหนึ่งในบทความ ศ.ดร.เขียน ธีระวิทย์
มาถึงตรงนี้แล้ว หากน.ส.ยิ่งลักษณ์และบรรดาคนเสื้อแดงจะโอดครวญไปก็เท่านั้น เพราะหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศได้อย่างภาคภูมิใจ คงจะไม่เกิดเหตุการณ์ประณามหยามเหยียดอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้ หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ เหมาะสมคู่ควรแก่การเป็นผู้นำประเทศและมีสติปัญญาที่จะนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น คงจะไม่ถูกแฮกเกอร์ล้อเลียนเสียหายชนิดที่เรียกว่าแตะตรงไหนก็แผลเหวอะไปหมด
... จะโทษใครได้ก็กรรมตัวเองล้วนๆ กล่าวสำหรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว ก็คาดการณ์ได้เลยว่า หลังจากนี้จะต้องเจอชะตากรรมเช่นนี้ไปอีกหลายยกทีเดียว