xs
xsm
sm
md
lg

รวบรัดล้ม ส.ว.สรรหา ใบสั่งนายใหญ่ ฟื้นสภาผัวเมีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (14พ.ค.)เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ... เกี่ยวกับการแก้ไขที่มาและวาระการดำรงตำแหน่งของ ส.ว. มีนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประธาน กมธ.เป็นประธาน ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณาในมาตรา 10 ซึ่ง กมธ.เสียงข้างมากเห็นด้วยให้คงร่างเดิม คือ เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขบังคับใช้ ทั้ง ส.ว.เลือกตั้งและสรรหา ดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ แต่หากมีเหตุตำแหน่งว่างลงก่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ต้องดำเนินการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งในส่วนของการเลือกตั้งซ่อม กมธ.เสียงข้างน้อยยังมีความเห็นต่างและขอสงวนคำแปรญัตติ เพราะเมื่อตำแหน่ง ส.ว.ว่างลง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องดำเนินการตามที่กฎหมาย คือ ต้องเลือกตั้งหรือสรรหา ส.ว.แทนตำแหน่งที่ว่างในเวลาที่กำหนด โดยเกรงว่าจะเกิดปัญหาต่อผู้ปฏิบัติในวันข้างหน้า
ส่วนในมาตรา11 ให้ กกต.เสนอ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ต่อรัฐสภาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้บังคับใช้ โดยให้รัฐสภาเห็นชอบภายใน 120 วัน
สำหรับมาตรา 12 และมาตรา13 ที่ประชุมเห็นชอบตามร่างเดิมที่รับมาในวาระที่ 1 โดยมีสาระสำคัญ คือ ส.ว.สรรหา ชุดปัจจุบัน ที่ยังเหลือวาระประมาณ 3 ปี ให้สิ้นสภาพทันทีที่ครบวาระ โดยไม่ต้องรักษาการระหว่างรอเลือกตั้ง ส.ว.ใหม่ และไม่มีการสรรหามาแทน ขณะที่ ส.ส.ในซีกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ได้โต้แย้งในเรื่องการยกเลิกส.ว.สายสรรหา เพราะเห็นว่าแพ้มาตั้งแต่ขั้นรับหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม กมธ.ได้พิจารณาตามรายมาตราเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นจะมีการทบทวนรายละเอียดต่างๆ ที่ได้พิจารณามาทั้งหมด และจะให้ผู้ที่เสนอแปรญัตติ จำนวน 215 คน เข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.ในสัปดาห์ถัดไป
ด้านนายสมศักดิ์ สุริยะมงคล รองเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า กกต. ได้ยื่นข้อเสนอขอให้ กมธ.ช่วยแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 118 ซึ่งปัจจุบันกำหนดว่า เมื่อวุฒิสภาครบวาระให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน30วัน โดยขอให้แก้ขยายเป็น45วัน เนื่องจากได้รับเสียงเรียกร้องจากกงสุลไทยในต่างประเทศว่าระยะเวลา 30 วันไม่เพียงพอสำหรับการจัดการให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เนื่องจากบางประเทศมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก แต่ทาง กมธ.ก็ยังไม่มีการแก้ไขในส่วนนี้
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของส.ว. แถลงว่า นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เรียกประชุมกรรมาธิการฯ อย่างเร่งรีบติดต่อกัน 2 วัน โดยพิจารณาเสร็จสิ้นทั้ง 13 มาตราแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าต้องการให้การพิจารณาเสร็จสิ้นทันเสนอให้ที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญได้พิจารณาในเร็ว ๆ นี้ ไม่ทราบว่าได้รับแรงกดดันจากส่วนไหนหรือไม่ ทำตามความต้องการของนายใหญ่หรือไม่ หรือว่าส.ว.ต้องการต่ออายุให้ตัวเองจึงพิจารณาอย่างเร่งรีบ เพราะเบื้องต้นประธานกรรมาธิการฯ ได้กำหนดให้วันที่ 15 พ.ค.เป็นการสรุปสงวนคำแปรญัตติของกรรมาธิการฯ จากนั้นเป็นการสรุปการสงวนคำแปรญัตติของสมาชิกจำนวน 200 กว่าคน ซึ่งเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 100 กว่าคน
สำหรับสาระสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือกำหนดให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทั้ง 200 คน มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี และให้ส.ว.ชุดปัจจุบันสมัครรับเลือกตั้งต่อได้ และยังมีการปลดล็อกส.ส.ให้ลาออกไปสมัครส.ว.ได้ทันที ปลดล็อกบุพการี สามี ภรรยาของส.ส.และส.ว.สามารถสมัครได้ ทั้งนี้ตนในฐานะกรรมาธิการฯ ได้สงวนคำแปรญัตติว่า การใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งสามารถเลือกได้ 1 คนต่อ 1 เบอร์นั้น ในส่วนของกทม.ควรแบ่งออกเป็น 3 เขต และควรห้ามสามี ภรรยา ที่เป็นส.ส.ลงสมัครส.ว. เพราะจะกลายเป็นสภาผัว เมีย ส่วนพ่อ แม่ ลูกที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ถือว่าเป็นสิทธิ์ ส่วนที่มีข้อครหากันมากคือการให้ส.ว.ชุดปัจจุบันสามารถมาสมัครต่อได้ ซึ่งเห็นว่า ส.ว.ชุดนี้ไม่ควรได้สิทธิ์สมัครต่อเพราะเป็นผู้ร่วมประชุมอยู่ด้วยจึงถือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน จึงควรกำหนดให้มีผลกับส.ว.ชุดต่อไป อย่างไรก็ตามแนวทางการแก้ไขของคณะกรรมาธิการครั้งนี้ จะทำให้พรรคเพื่อไทยบริหารจัดการได้สบาย เพราะมีคนที่ต้องการสมัครรับเลือกตั้งหลายบัญชีจึงสามรถกระจายไปลงสมัคร ส.ว.ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น